หุ้นไทยปิดบวก 2 จุด โดยดัชนีแกว่งตัวแคบ คาดขายทำกำไรหุ้นพลังงานมาลงทุนหุ้นกลุ่มแบงก์พาณิชย์ช่วงสั้น บ่ายเชื่อเคลื่อนไหวไม่มาก
วันนี้ (22 มี.ค.) ปิดตลาดหลักทรัพย์ไทยช่วงเช้าดัชนีอยู่ที่ระดับ 1,021.98 จุด เพิ่มขึ้น 2.05 จุด (+0.20%) มูลค่าการซื้อขาย 14,054.06 ล้านบาท โดยนักวิเคราะห์เผยตลาดหุ้นแกว่งตัวในกรอบแคบ เนื่องจากไม่มีประเด็นใหม่หลังรับข่าวสถานการณ์นิวเคลียร์ในญี่ปุ่นคลี่คลายลงไปแล้ว ตลาดบ้านเราสลับกลุ่มจากพลังงานมาซื้อแบงก์ คาดบ่ายยังคงแกว่งตัวแคบๆ โดยให้แนวต้านที่ 1,026 แนวรับที่ 1,015 จุด
สำหรับหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่ KTB มูลค่าการซื้อขาย 857.46 ล้านบาท ปิดที่ 17.60 บาท เพิ่มขึ้น 0.30 บาท SCC มูลค่าการซื้อขาย 830.83 ล้านบาท ปิดที่ 342.00 บาท เพิ่มขึ้น 5.00 บาท BBL มูลค่าการซื้อขาย 732.65 ล้านบาท ปิดที่ 163.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท TRUE มูลค่าการซื้อขาย 671.87 ล้านบาท ปิดที่ 6.70 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง และ IVL มูลค่าการซื้อขาย 608.13 ล้านบาท ปิดที่ 52.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท
ด้าน นายพิชัย เลิศสุพงศ์กิจ ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโสฝ่ายการตลาด บล.ธนชาต กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้าแกว่งตัวในกรอบแคบๆ เพราะนักลงทุนรับข่าวเรื่องการคลี่คลายวิกฤตการณ์นิวเคลียร์ในประเทศญี่ปุ่นเต็มที่ไปแล้วตั้งแต่เมื่อวานนี้ แม้ว่าตลาดหุ้นญี่ปุ่นจะบวกไปถึง 4% แต่เนื่องจากวานนี้ข่าวดังกล่าวออกมาหลังจากตลาดหุ้นญี่ปุ่นได้ปิดทำการไปแล้ว จึงมาตอบรับในวันนี้
ทั้งนี้ การลงทุนในตลาดหุ้นไทยวันนี้เป็นการเวียนกลุ่มลงทุน โดยมีการขายทำกำไรหุ้นกลุ่มพลังงานมาลงทุนหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ และช่วงสั้นๆ จะยังเป็นลักษณะนี้
ขณะที่แนวโน้มตลาดหุ้นในช่วงบ่ายยังคงแกว่งตัวในด้านข้าง เคลื่อนไหวไม่มากนักเช่นเดียวกับช่วงเช้าที่ผ่านมา โดยให้กรอบการลงทุนแนวต้านที่ 1,026 และแนวรับที่ 1,015 จุด
