“รองปลัดพาณิชย์” แจงสัมมนา “เมืองอู๋ซี” ชื่นมื่น หลังพานักลงทุนไปทำความรู้จักและขยายลงทุนธุรกิจได้รับผลตอบรับที่ดีจากจีน โดย “BBL-CENTEL” ถูกจีบให้ขยายลงทุนธุรกิจแบงก์และโรงแรม หลังได้รับความสนใจเป็นพิเศษ
วันนี้ (18 มี.ค.) นายราเชนทร์ พจนสุนทร รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวในงานสัมมนา “China Wuxi-Bangkok Modern Service Industry” ว่า การสัมมนาในครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อสร้างโอกาสและขยายเครือข่ายธุรกิจการค้าระหว่างไทยกับจีน โดยเฉพาะความร่วมมือด้านการค้าการลงทุนขนาดใหญ่ในเมืองอู๋ซี มณฑลเจียงซี ของประเทศจีน ซึ่งถือเป็นเมืองหลักที่มีความโดดเด่นในด้านอุตสาหกรรม และยังเปิดกว้างให้ต่างชาติเข้ามาลงทุนในเมืองอู๋ซี เช่น อุตสาหกรรมการผลิตอิเล็กทรอนิกส์, เครื่องใช้ไฟฟ้า, ชิ้นส่วนยานยนต์, โทรคมนาคม, เครื่องหนัง, เคมีภัณฑ์ และสิ่งทอ เป็นต้น นอกจากนี้ เมืองอู๋ซียังมีอุตสาหกรรมที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว เช่น ห้างสรรพสินค้า, โรงแรม, ร้านอาหาร และสปา ที่มีแนวโน้มและมีโอกาสในการขยายธุรกิจของนักลงทุนชาวไทยเป็นอย่างมาก
นายราเชนทร์ กล่าวต่อว่า การสัมมนาครั้งนี้จะเป็นโอกาสดีของนักธุรกิจไทยที่จะได้ทำความรู้จัก และสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับผู้บริหารและรัฐบาลของเมืองอู๋ซี ตลอดจนรับทราบถึงศักยภาพและโอกาสการขยายธุรกิจการค้าการลงทุนในเมืองอู๋ซีต่อไปในอนาคต
นอกจากนี้ ทางรองผู้ว่าเมืองอู๋ซีและคณะจะเดินทางไปพบกับผู้บริหารของธนาคารกรุงเทพ(BBL) รวมทั้งผู้บริหารของโรงแรมและรีสอร์ทในเครือเซ็นทาราของ บมจ.โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา (CENTEL) เพื่อหารือเกี่ยวกับความร่วมมือด้านการเงินการธนาคาร และการลงทุนเปิดสปารีสอร์ทแบบไทยในเมืองอู๋ซี ซึ่งรัฐบาลท้องถิ่นของเมืองอู๋ซีได้ร่วมลงทุนด้วย ซึ่งจะเป็นช่องทางที่ทำให้เกิดธุรกิจต่อเนื่องของไทยที่จะขยายเครือข่ายธุรกิจการค้าในจีน
ด้าน นายนี ปิง รองผู้ว่าเมืองอู๋ซี สาธารณรัฐประชาชนจีน กล่าวว่า รัฐบาลอู๋ซีพร้อมเปิดรับการเข้ามาลงทุนจากนักลงทุนไทย โดยมีนโยบายชัดเจนในการส่งเสริมการค้าการลงทุน และการรักษาสิ่งแวดล้อม ตั้งแต่การจัดสรรและพัฒนาพื้นที่ผังเมืองให้เอื้อต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน อีกทั้งการสนับสนุนเครือข่ายเศรษฐกิจโดยสามารถให้สิทธิประโยชน์เพิ่มเติมทั้งในด้านภาษี, การสร้างสิ่งอำนวยความสะดวก และสาธารณูปโภคเพื่อรองรับโครงการขนาดใหญ่ที่ช่วยให้เศรษฐกิจเมืองอู๋ซีขยายตัว ยิ่งหากเป็นการร่วมลงทุนระหว่างรัฐบาลไทย-จีนแล้ว รัฐบาลท้องถิ่นเมืองอู๋ซีพร้อมจะให้ความช่วยเหลือตั้งแต่การจัดหาที่ดิน และการสนับสนุนสิ่งอำนวยความสะดวกและสาธารณูปโภคต่างๆ
รองผู้ว่าเมืองอู๋ซี กล่าวอีกว่า ธุรกิจท่องเที่ยว ตลอดจนห้างสรรพสินค้า, โรงแรม-รีสอร์ต, สปา และร้านอาหาร กำลังมีแนวโน้มที่จะขยายตัวอย่างดีมากสำหรับโอกาสในการทำธุรกิจของนักลงทุนไทย เพราะแม้เมืองอู๋ซีจะมีแหล่งท่องเที่ยวสำคัญมากมาย เช่น ทะเลสาบไท่หู, เขาซีซาน แต่ปัจจุบันอู๋ซีมีโรงแรมที่พักระดับสูงเพียง 2-3 แห่งเท่านั้น ยังไม่มีโรงแรมที่เป็นรีสอร์ตสำหรับกลุ่มนักท่องเที่ยวรายได้สูง ล่าสุด มีนักธุรกิจไทยเข้าไปสำรวจพื้นที่แล้ว และมีความสนใจจะร่วมลงทุนกับนักธุรกิจจีน เพื่อสร้างรีสอร์ตขนาดใหญ่ริมทะเลสาบไท่หู
“อู๋ซีได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองที่มีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว และประสบความสำเร็จอย่างสูงในการบริหารจัดการ โดยเฉพาะนโยบายการให้ความสำคัญต่อการสร้างเครือข่ายเศรษฐกิจของรัฐบาลท้องถิ่น ทำให้ในปัจจุบันมีบริษัทต่างชาติเข้าไปลงทุนในอู๋ซีกว่า 12,000 บริษัท คิดเป็นมูลค่าการลงทุน 4.5% ของมูลค่าการลงทุนจากต่างชาติในจีน โดยอุตสาหกรรมส่วนใหญ่เน้นการใช้เทคโนโลยีสูง และเป็นอุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีใหม่เพื่อประหยัดพลังงาน” นายนี ปิง กล่าว
ปัจจุบัน มูลค่าการค้าระหว่างไทยกับเมืองอู๋ซีมีมูลค่าประมาณ 1,500 ล้านดอลลาร์ โดยไทยส่งออกไปอู๋ซีมากกว่า 900 ล้านดอลลาร์ ขณะที่อู๋ซีส่งสินค้ามาไทย 600 ล้านดอลลาร์ และมีการเข้ามาลงทุนทำธุรกิจในไทยประมาณ 70 ล้านดอลลาร์ เป็นโรงงานผลิตกรดซีตริก ตั้งอยู่ใน จ.ระยอง
อนึ่ง อู๋ซี ได้รับการจัดอันดับจากนิตยสาร Forbes ให้เป็นเมืองอันดับที่ 3 ของจีนที่นักลงทุนต่างชาติควรเข้าไปลงทุนมากที่สุด รองจากเซี่ยงไฮ้ และปักกิ่ง รวมถึงได้รับเลือกให้เป็นเมืองอันดับที่ 5 ที่รัฐบาลท้องถิ่นมีการบริหารจัดการที่ดีที่สุดรองจากฮ่องกง, เสิ่นเจิ้น, จี๋หนาน และซูโจว