คลังยันกับลูกศิษย์ “หลวงตาบัว” เงินทุกบาททุกสตางค์ยังอยู่ที่เดิม ไม่มีใครเคลื่อนไหวหรือนำออกมาใช้จ่าย
วันนี้ (11 มี.ค.) นายนริศ ชัยสูตร ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวว่า ลูกศิษย์หลวงตามหาบัวได้เข้ามาหารือการแก้ไขพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) เงินตรา เพื่อนำเงินไปใช้หนี้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (เอฟไอดีเอฟ) ซึ่ง สศค.ได้ยืนยันกับลูกศิษย์หลวงตามหาบัว ว่า การดำเนินการดังกล่าวไม่ได้เป็นการรวมบัญชี แต่เป็นการแก้ไขการบันทึกบัญชีให้มีรายได้ไปใช้หนี้เท่านั้น บัญชีต่างๆ รวมถึงเงินของหลวงตายังอยู่เท่าเดิม ไม่มีใครนำออกไปใช้ ซึ่งลูกศิษย์หลวงตาก็มีความสบายใจขึ้น
สำหรับการแก้ไข พ.ร.บ.เงินตรา อยู่ระหว่างการดำเนินการระดับเจ้าหน้าที่ของกระทรวงการคลังกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะทำให้การบันทึกบัญชีของฝ่ายออกบัตรที่มีอยู่ 3 บัญชี คือ บัญชีสำรองเงินตรา บัญชีผลประโยชน์ประจำปี และบัญชีสำรองพิเศษ เกิดความคล่องตัวมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้บัญชีผลประโยชน์ประจำปีมีดอกผลที่ได้รับจากบัญชีสำรองเงินตรา และบัญชีสำรองพิเศษ ปีละ 2-4 หมื่นล้านบาท ไปใช้หนี้เอฟไอดีเอฟ 1.1 ล้านล้านบาท ให้หมดเร็วขึ้น
นอกจากนี้ ยังมีการแก้ไข พ.ร.บ.กองทุนฟื้นฟูฯ จะให้มีการโอนสินทรัพย์ของกองทุนที่มีอยู่ 3 แสนล้านบาท ให้กระทรวงการคลัง บริหารเพื่อนำเงินไปใช้หนี้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นหุ้นของธนาคารกรุงไทย แต่การแก้ไขกฎหมายฉบับนี้อาจไม่ทันรัฐบาลนี้