เหตุวุ่นลิเบียทำระส่ำ ตลาดหุ้นป่วนโดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจที่ต้องน้ำมันเป็นปัจจัยหลัก ราคาหุ้น “THAI-RCL” ได้ปรับตัวลดลง หลังจากที่เหตุการณ์ความไม่สงบในลิเบีย ทำราคาน้ำมันดิบพุ่งสูงขึ้นถึง 110 เหรียญ นอกจากนี้ เงินเฟ้อยังทำให้ ศก.และตลาดหุ้นทั่วโลกเผชิญความเสี่ยง
วันนี้ (24 ก.พ.) หุ้น บมจ.การบินไทย (THAI) ราคาปรับตัวลดลง 3.31% มาอยู่ที่ 36.50 บาท หรือลดลง 1.25 บาท มูลค่าซื้อขาย 161.89 ล้านบาท โดยเมื่อเวลา 11.28 น.ที่ผ่านมา หลังเปิดตลาดที่ราคา 37.50 บาท ราคาได้ปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 37.75 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 36.50 บาท
ขณะที่ หุ้น บมจ.อาร์ ซี แอล (RCL) อยู่ที่ 11.90 บาท ลดลง 0.10 บาท (-0.83%) มูลค่าซื้อขาย 2.54 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 11.90 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุด 11.90 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุด 11.80 บาท
โดย บล.เอเชีย พลัส กล่าวถึงประเด็นนี้ ว่า เกิดจากปัญหาความรุนแรงในลิเบียหนุนราคาน้ำมันดิบที่ทะลุ 110 เหรียญฯ ซึ่งถือเป็นความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจโลกและตลาดหุ้น โดยเฉพาะผู้ประกอบการที่ใช้น้ำมันเป็นหลัก คือ บมจ.การบินไทย (THAI) และ บมจ.อาร์ ซี แอล (RCL)
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบที่พุ่งขึ้นมาอย่างรวดเร็วจนมาแตะ 110 เหรียญ ในปัจจุบันถือเป็นปัจจัยเร่งเงินเฟ้อให้สูงขึ้น และก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อภาวะเศรษฐกิจโลกที่อยู่ในช่วงฟื้นตัว ซึ่งอาจจะกดดันให้ธนาคารกลางโลกใช้นโยบายการเงินตึงตัวต่อเนื่อง และน่าจะกระทบต่อตลาดหุ้น โดยหากสำรวจหุ้นรายตัวที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเป็นหลัก พบว่า กลุ่มที่ได้รับผลกระทบมากสุด ได้แก่ กลุ่มขนส่ง โดยเฉพาะกลุ่มขนส่งทางอากาศ ได้แก่ THAI ซึ่งต้นทุนน้ำมันคิดเป็น 31.5% ของต้นทุนรวม ขณะที่บริษัทได้ทำการป้องกันความเสี่ยงเพียงบางส่วนคือราว 50% ของปริมาณน้ำมันเครื่องบินที่ใช้ทั้งหมดในระยะ 3 เดือนข้างหน้าตามมาด้วยกลุ่มขนส่งทางเรือ คือ RCL (FV@B17) มีต้นทุนน้ำมันคิดเป็น 38% ของต้นทุนทั้งหมด และในต้นทุนน้ำมันมีการทำการป้องกันความเสี่ยงล่วงหน้าไว้เพียง 50% ของปริมาณน้ำมันที่จะใช้ในระยะ 6 เดือนข้างหน้า และกลุ่มขนส่งทางบก เนื่องจากต้นทุนเชื้อเพลิงถือเป็นต้นทุนหลัก