“เอนก ตระกูลฮุน” ได้ฤกษ์ลงทุนโครงการ Botaneo หัวหิน ไลฟ์สไตล์ มอลล์ โรงแรม รีสอร์ท มูลค่าเกือบ 500 ล้านบาท บนที่เช่า 85 ไร่ ตั้งอยู่กม.ที่ 221 ถนนเพชรเกษมห่างจากตัวเมืองหัวหิน 9 กม. เฟสแรกพัฒนาเป็นไลฟ์สไตล์ มอลล์ Botaneo บนเนื้อที่กว่า 28 ไร่อีก 5 ปีผุดรีสอร์ทหรูอีก 100 หลัง
นายเอนก ตระกูลฮุน กรรมการผู้จัดการ บริษัท เซนต์เจมส์ โฮเต็ล จำกัด ผู้บริหารโรงแรมเซนต์เจมส์ สุขุมวิท 26 เปิดเผยว่า บริษัทได้นำที่ดินขนาด 85 ไร่ ซึ่งเป็นที่เช่าจากบุคคลทั่วไประยะเวลา 35 ปี บนถนนเพชรเกษม 221 ติดกับดุสิตโปโลคลับ ห่างจากตัวเมืองหัวหิน 9 กิโลเมตร พัฒนาเป็นโครงการ Lift Style Promenade ภายใต้ชื่อ Botaneo หัวหิน ประกอบไปด้วย ไลฟ์สไตล์ มอลล์ ขนาดใหย่ในบรรยากาศรีสอร์ท รวมถึงโครงการ Villa Resort ในอนาคต
“ได้มีความคิดริเริ่มที่จะทำโครงการนี้ มาตั้งแต่ปี 2550 หลังจากได้สังเกตเห็นว่าหัวหิน ชะอำ และปราณบุรีมีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างมากรวมถึงการขยายตัวของคอนโดมิเนี่ยมและบ้านพักตากอากาศ จึงได้เช่าที่ดินแปลงดังกล่าวจากบุคคลทั่วไประยะเวลา 35 ปี และได้ศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการแต่สถานการณ์ขณะนั้นยังไม่อำนวย จนถึงกลางปี 2553 จึงได้รื้อฟื้นโครงการนี้อีกครั้ง”
สำหรับการพัฒนา Botaneo อยู่ภายใต้บริษัทเซนต์เจมส์โฮเต็ล จำกัด มีทุนจดทะเบียน ชำระแล้ว 63 ล้านบาท โดยแบ่งการพัฒนาออกเป็น 2 เฟสๆ แรกพัฒนาเป็นไลฟ์สไตล์มอลล์ ภายใต้ชื่อ Botaneo บนเนื้อที่ 28 ไร่ ประกอบไปด้วยมีพื้นที่เช่าเพียง 8,500 ตารางเมตร(ตร.ม.) ร้านค้า ร้านอาหาร บิวตี้ สปา และบริการที่หลากหลาย ส่วนพื้นที่ที่เหลือจะเป็นที่สีเขียวประกอบด้วย สวน ทะเลสาบ เขาวงกต สนามเด็กเล่นพื้นที่สำหรับจัดงานอีเวนท์ พร้อมด้วยพื้นที่จอดรถกว่า 500 คันและยังมีทางเดินลงชายหาดระยะทาง 300 เมตร
นอกจากนี้ยังมีแผนจะพัฒนาโรงแรมสูง 2-3 ชั้น จำนวน 30 ห้อง รูปแบบบูทิคโฮเทลเพิ่มเติม อัตราค่าที่พักประมาณ 3,000-4,000 บาท/คืน เพื่อให้โครงการมีความสมบูรณ์ครบวงจร โดยคาดว่าเมื่อแล้วเสร็จจะมีมูลค่าโครงการกว่า 200 ล้านบาทในเฟสแรก โดยจะเริ่มก่อสร้างในเดือนเมษายน - พฤษภาคม 2554 และจะส่งมอบพื้นที่เพื่อตกแต่งได้ใน วันที่ 11/11/11 โดยคาดว่าจะมีลูกค้าจองพื้นที่เช่าแล้วไม่น้อยกว่า 85% และเต็ม 100% ภายในต้นปี 2555 ปัจจุบันเปิดขายมาแล้ว 1 เดือนขณะนี้มียอดจองแล้วประมาณ 10-20%
นายเอนก กล่าวต่อว่า พื้นที่ หัวหิน ชะอำ และปราณบุรี มีการขยายตัวด้านการท่องเที่ยวอย่างมากในเวลา 10 ปี อัตราการเติบโตของธุรกิจท่องเที่ยว, คอนโดมิเนียม และบ้านพักตากอากาศในหัวหิน ชะอำ และปราณบุรี ยังมีอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในขณะนี้มีโรงแรม 3 -5 ดาว และเกสท์เฮ้าส์ มากกว่า 19,000 ห้อง ในปี 2553 มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติมาเที่ยวหัวหิน ชะอำ และปราณบุรีประมาณ 2 ล้านคน ก่อให้เกิดรายได้ประมาณ 9,000 ล้านบาท
“ในปี 2558 จะเริ่มพัฒนาในเฟส 2 โครงการ Villa Resort บนพื้นที่กว่า 57 ไร่ ประมาณ 100 หลัง โดยจะก่อสร้างเป็นรีสอร์ทท็อป 4 ดาว แต่จะเก็บค่าบริการระดับ 5 ดาว หรือประมาณคืนละ 8,000 บาทขึ้นไป เพราะถือว่ามีพื้นที่สีเขียวจำนวนมาก เราต้องการขายบรรยากาศ แต่ในอีก 5 ปีข้างหน้าราคานี้อาจไม่แพงก็ได้” นายเอนกกล่าว
นายเอนก ตระกูลฮุน กรรมการผู้จัดการ บริษัท เซนต์เจมส์ โฮเต็ล จำกัด ผู้บริหารโรงแรมเซนต์เจมส์ สุขุมวิท 26 เปิดเผยว่า บริษัทได้นำที่ดินขนาด 85 ไร่ ซึ่งเป็นที่เช่าจากบุคคลทั่วไประยะเวลา 35 ปี บนถนนเพชรเกษม 221 ติดกับดุสิตโปโลคลับ ห่างจากตัวเมืองหัวหิน 9 กิโลเมตร พัฒนาเป็นโครงการ Lift Style Promenade ภายใต้ชื่อ Botaneo หัวหิน ประกอบไปด้วย ไลฟ์สไตล์ มอลล์ ขนาดใหย่ในบรรยากาศรีสอร์ท รวมถึงโครงการ Villa Resort ในอนาคต
“ได้มีความคิดริเริ่มที่จะทำโครงการนี้ มาตั้งแต่ปี 2550 หลังจากได้สังเกตเห็นว่าหัวหิน ชะอำ และปราณบุรีมีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างมากรวมถึงการขยายตัวของคอนโดมิเนี่ยมและบ้านพักตากอากาศ จึงได้เช่าที่ดินแปลงดังกล่าวจากบุคคลทั่วไประยะเวลา 35 ปี และได้ศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการแต่สถานการณ์ขณะนั้นยังไม่อำนวย จนถึงกลางปี 2553 จึงได้รื้อฟื้นโครงการนี้อีกครั้ง”
สำหรับการพัฒนา Botaneo อยู่ภายใต้บริษัทเซนต์เจมส์โฮเต็ล จำกัด มีทุนจดทะเบียน ชำระแล้ว 63 ล้านบาท โดยแบ่งการพัฒนาออกเป็น 2 เฟสๆ แรกพัฒนาเป็นไลฟ์สไตล์มอลล์ ภายใต้ชื่อ Botaneo บนเนื้อที่ 28 ไร่ ประกอบไปด้วยมีพื้นที่เช่าเพียง 8,500 ตารางเมตร(ตร.ม.) ร้านค้า ร้านอาหาร บิวตี้ สปา และบริการที่หลากหลาย ส่วนพื้นที่ที่เหลือจะเป็นที่สีเขียวประกอบด้วย สวน ทะเลสาบ เขาวงกต สนามเด็กเล่นพื้นที่สำหรับจัดงานอีเวนท์ พร้อมด้วยพื้นที่จอดรถกว่า 500 คันและยังมีทางเดินลงชายหาดระยะทาง 300 เมตร
นอกจากนี้ยังมีแผนจะพัฒนาโรงแรมสูง 2-3 ชั้น จำนวน 30 ห้อง รูปแบบบูทิคโฮเทลเพิ่มเติม อัตราค่าที่พักประมาณ 3,000-4,000 บาท/คืน เพื่อให้โครงการมีความสมบูรณ์ครบวงจร โดยคาดว่าเมื่อแล้วเสร็จจะมีมูลค่าโครงการกว่า 200 ล้านบาทในเฟสแรก โดยจะเริ่มก่อสร้างในเดือนเมษายน - พฤษภาคม 2554 และจะส่งมอบพื้นที่เพื่อตกแต่งได้ใน วันที่ 11/11/11 โดยคาดว่าจะมีลูกค้าจองพื้นที่เช่าแล้วไม่น้อยกว่า 85% และเต็ม 100% ภายในต้นปี 2555 ปัจจุบันเปิดขายมาแล้ว 1 เดือนขณะนี้มียอดจองแล้วประมาณ 10-20%
นายเอนก กล่าวต่อว่า พื้นที่ หัวหิน ชะอำ และปราณบุรี มีการขยายตัวด้านการท่องเที่ยวอย่างมากในเวลา 10 ปี อัตราการเติบโตของธุรกิจท่องเที่ยว, คอนโดมิเนียม และบ้านพักตากอากาศในหัวหิน ชะอำ และปราณบุรี ยังมีอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในขณะนี้มีโรงแรม 3 -5 ดาว และเกสท์เฮ้าส์ มากกว่า 19,000 ห้อง ในปี 2553 มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติมาเที่ยวหัวหิน ชะอำ และปราณบุรีประมาณ 2 ล้านคน ก่อให้เกิดรายได้ประมาณ 9,000 ล้านบาท
“ในปี 2558 จะเริ่มพัฒนาในเฟส 2 โครงการ Villa Resort บนพื้นที่กว่า 57 ไร่ ประมาณ 100 หลัง โดยจะก่อสร้างเป็นรีสอร์ทท็อป 4 ดาว แต่จะเก็บค่าบริการระดับ 5 ดาว หรือประมาณคืนละ 8,000 บาทขึ้นไป เพราะถือว่ามีพื้นที่สีเขียวจำนวนมาก เราต้องการขายบรรยากาศ แต่ในอีก 5 ปีข้างหน้าราคานี้อาจไม่แพงก็ได้” นายเอนกกล่าว