ธปท.ส่งสัญญาณขยับดอกเบี้ย ตามทิศทางเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจ ค่าแรงขั้นต่ำ ขึ้นเงินเดือนข้าราชการและเอกชน ราคาน้ำมันและสินค้าเกษตร ลุ้นผลประชุมบอร์ด กนง.วันที่ 12 ม.ค.นี้
นางอัจนา ไวความดี รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวถึงภาพรวมตลาดการเงิน โดยยอมรับว่า ขณะนี้แรงกดดันเงินมีมากขึ้น มาจากทุกทิศทาง ไม่ว่าจากภาวะเศรษฐกิจที่ปรับดีขึ้น การบริโภคการใช้จ่ายในประเทศที่ดีขึ้น ราคาน้ำมันที่ปรับเพิ่มขึ้น ราคาสินค้าเกษตรที่สูงขึ้น ปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ การปรับขึ้นเงินเดือนข้าราชการและเอกชนในช่วงที่ผ่านมา รวมถึงดัชนีราคาสินค้าที่มีแนวโน้มจะปรับขึ้นตามต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้น ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ต่างมีผลให้เงินเฟ้อปรับสูงขึ้นในปีนี้
ทั้งนี้ แม้รัฐบาลจะพยายามอั้นราคาสินค้ายังไม่ให้ขึ้น แต่เชื่อว่า น่าจะทำได้เพียงชั่วคราว เพราะในความเป็นจริง ถ้าต้นทุนเพิ่มขึ้น วัตถุดิบราคาสูงขึ้น ค่าขนส่งเพิ่มตามราคาน้ำมัน ที่สำคัญความต้องการบริโภคยังสูงขึ้น ตามภาวะเศรษฐกิจที่ปรับดีขึ้น ราคาสินค้าย่อมปรับสูงขึ้น ส่งให้แรงกดดันเงินเฟ้อสูงขึ้น
“สถานการณ์เช่นนี้ ธปท.จะพยายามดูแลไม่ให้การดำเนินนโยบายการเงินหรือการปรับดอกเบี้ย กระทบภาคธุรกิจ ให้สามารถปรับตัวได้ ไม่ให้เศรษฐกิจสะดุด โดยจะพยายามดูแลเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ไม่ให้ประชาชนคาดการณ์เงินเฟ้อสูงเกินเป้าหมาย” นางอัจนา กล่าว
ทั้งนี้ ในวันที่ 12 มกราคม 2554 นี้ จะมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เพื่อพิจารณาดอกเบี้ยนโยบายว่าจะปรับขึ้นจากปัจจุบันที่ 2% หรือไม่