กคช.เตือนลูกค้าที่ซื้อบ้านเอื้อฯครบ 5 ปีรีบใช้สิทธิ์โอนที่อยู่อาศัยให้ทันภายใน 28 มี.ค. หากเลยกำหนดอาจรับภาระการโอนเพิ่มเป็น 7,000-8,000 บาทต่อยูนิต จากที่เสียแค่ 100 บาท จากมาตรการกระตุ้นอสังหาฯของภาครัฐ
นายศิริโรจน์ ชาวปากน้ำ รองผู้ว่าการ การเคหะแห่งชาติ (กคช.) เปิดเผยว่า ทางกคช.อยากเรียกร้องให้ลูกค้าที่ซื้อโครงการบ้านเอื้ออาทรที่ครบ 5 ปีแล้ว ให้เร่งดำเนินการโอนกรรมสิทธิ์โดยเร่งด่วนที่สุด เนื่องจากรัฐบาลไม่ต่อมาตรการลดหย่อนค่าธรรมเนียมการโอนและค่าจดจำนองและภาษีธุรกิจเฉพาะที่จะสิ้นสุดภายในวันที่ 28 มี.ค.นี้ ซึ่งหากพ้นสิ้นเดือนมี.ค.นี้ไปแล้ว ลูกค้าที่ซื้อบ้านเอื้อฯต้องรับภาระในการโอนประมาณ 7,000-8,000 บาทต่อยูนิต จากช่วงนี้จะเสียค่าธรรมเนียมเพียง 100 บาทเศษ
“ กคช.ขอให้ลูกค้าที่สามารถโอนกรรมสิทธิ์ได้แล้ว ให้รีบติดต่อมายังกคช.ภายในวันที่ 20 มี.ค.นี้ เพื่อกคช.จะได้มีเวลาเจรจากับสถาบันการเงินและโอนได้ทันระยะเวลาสิ้นเดือนพอดี มิฉะนั้น ลูกค้าจะต้องแบกรับภาระการโอนเพิ่มขึ้น ”
ทั้งนี้ มาตรการฯกระตุ้นอสังหาฯที่ยังคงใช้อยู่ คือ ลดหย่อนค่าธรรมเนียมการโอนเหลือ 0.01% (เดิม 2%) ลดหย่อนค่าจดจำนอง เหลือ 0.01% (จาก 1%) และลดภาษีธุรกิจเฉพาะในการซื้อขายอสังหาฯ เหลือ 0.11% (เดิม 3.3% )
สำหรับโครงการบ้านเอื้อฯที่ครบ 5 ปี และสามารถทำการโอนกรรมสิทธิ์ได้ ถึง ณ วันที่ 28 มี.ค.53 ของกคช. มีจำนวนก่อสร้าง 6,037 หน่วย แต่ครบกำหนด 5 ปี ถึงวันที่ 28 มี.ค. 53 จำนวน 3,968 หน่วย (ราคาขายต่อหน่วยจะอยู่ที่ 3.9 แสนบาทต่อยูนิต) ประกอบด้วย โครงการ ประชานิเวศน์ จำนวนก่อสร้าง 1,530 หน่วย ครบกำหนด จำนวน 1,072 หน่วย บางพลีเดิม 719 หน่วย ครบกำหนด 692 หน่วย บางโฉลง 1 จำนวน 836 หน่วย ครบกำหนด 587 หน่วย บางโฉลง 2 จำนวน 1,084 หน่วย ครบกำหนด 544 หน่วย หัวหมาก 692 หน่วย ครบ 650 หน่วย รังสิตคลอง 3 จำนวน 477 หน่วย ครบ 367 หน่วย ส่วนโครงการบ้านเอื้อฯ รังสิตคลอง 5 และจังหวัดพิจิตร จะไม่ทันในเดือนมี.ค.นี้
นายศิริโรจน์ ชาวปากน้ำ รองผู้ว่าการ การเคหะแห่งชาติ (กคช.) เปิดเผยว่า ทางกคช.อยากเรียกร้องให้ลูกค้าที่ซื้อโครงการบ้านเอื้ออาทรที่ครบ 5 ปีแล้ว ให้เร่งดำเนินการโอนกรรมสิทธิ์โดยเร่งด่วนที่สุด เนื่องจากรัฐบาลไม่ต่อมาตรการลดหย่อนค่าธรรมเนียมการโอนและค่าจดจำนองและภาษีธุรกิจเฉพาะที่จะสิ้นสุดภายในวันที่ 28 มี.ค.นี้ ซึ่งหากพ้นสิ้นเดือนมี.ค.นี้ไปแล้ว ลูกค้าที่ซื้อบ้านเอื้อฯต้องรับภาระในการโอนประมาณ 7,000-8,000 บาทต่อยูนิต จากช่วงนี้จะเสียค่าธรรมเนียมเพียง 100 บาทเศษ
“ กคช.ขอให้ลูกค้าที่สามารถโอนกรรมสิทธิ์ได้แล้ว ให้รีบติดต่อมายังกคช.ภายในวันที่ 20 มี.ค.นี้ เพื่อกคช.จะได้มีเวลาเจรจากับสถาบันการเงินและโอนได้ทันระยะเวลาสิ้นเดือนพอดี มิฉะนั้น ลูกค้าจะต้องแบกรับภาระการโอนเพิ่มขึ้น ”
ทั้งนี้ มาตรการฯกระตุ้นอสังหาฯที่ยังคงใช้อยู่ คือ ลดหย่อนค่าธรรมเนียมการโอนเหลือ 0.01% (เดิม 2%) ลดหย่อนค่าจดจำนอง เหลือ 0.01% (จาก 1%) และลดภาษีธุรกิจเฉพาะในการซื้อขายอสังหาฯ เหลือ 0.11% (เดิม 3.3% )
สำหรับโครงการบ้านเอื้อฯที่ครบ 5 ปี และสามารถทำการโอนกรรมสิทธิ์ได้ ถึง ณ วันที่ 28 มี.ค.53 ของกคช. มีจำนวนก่อสร้าง 6,037 หน่วย แต่ครบกำหนด 5 ปี ถึงวันที่ 28 มี.ค. 53 จำนวน 3,968 หน่วย (ราคาขายต่อหน่วยจะอยู่ที่ 3.9 แสนบาทต่อยูนิต) ประกอบด้วย โครงการ ประชานิเวศน์ จำนวนก่อสร้าง 1,530 หน่วย ครบกำหนด จำนวน 1,072 หน่วย บางพลีเดิม 719 หน่วย ครบกำหนด 692 หน่วย บางโฉลง 1 จำนวน 836 หน่วย ครบกำหนด 587 หน่วย บางโฉลง 2 จำนวน 1,084 หน่วย ครบกำหนด 544 หน่วย หัวหมาก 692 หน่วย ครบ 650 หน่วย รังสิตคลอง 3 จำนวน 477 หน่วย ครบ 367 หน่วย ส่วนโครงการบ้านเอื้อฯ รังสิตคลอง 5 และจังหวัดพิจิตร จะไม่ทันในเดือนมี.ค.นี้