ศูนย์ข้อมูลฯระบุคอนโดฯย่านทองหล่อยังมีกำลังซื้อต่อเนื่อง เผยรายใหญ่ในตลาดหุ้นชูความได้เปรียบทำเล ราคาเฉลี่ยขายสูงกว่าผู้ประกอบการนอกตลาด แถมอัตราการขายเฉลี่ยสูงถึง 17 หน่วยต่อโครงการ
นายสัมมา คีตสิน ผู้อำนวยการ ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์(ธอส.) ได้รายงานผลสำรวจตลาดอาคารชุดย่านทองหล่อว่า ในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา มีโครงการเปิดใหม่ทั้งหมด 18 โครงการ มีจำนวนหน่วยตามผังโครงการรวมทั้งสิ้น 4,500 หน่วย มียอดจองหรือขายแล้ว 3,500 ห้อง คิดเป็นสัดส่วน 78% ของหน่วยในผังทั้งหมด
ขณะที่หน่วยห้องชุดคอนโดฯที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างมีทั้งสิ้น 1,700 หน่วย คิดเป็น 37% ของหน่วยในผังทั้งหมด แสดงให้เห็นว่า มีหน่วยในตลาดจำนวนมากที่จองแล้ว และยังไม่ได้มีการโอนกรรมสิทธิ์
โดยพบว่า โครงการจากผู้ประกอบการในตลาดหลักทรัพย์มีทั้งสิ้น 9 โครงการ คิดเป็น 69% ของหน่วยทั้งหมดในตลาด ในขณะที่โครงการจากผู้ประกอบการนอกตลาดหลักทรัพย์มี 9 โครงการ แต่มีจำนวนห้องชุดรวม 31% เท่านั้น นั้นหมายความว่า ผู้ประกอบการนอกตลาดหลักทรัพย์ เปิดโครงการที่มีขนาดเล็กและมีจำนวนหน่วยน้อยกว่า
ส่วนเรื่องของราคาขาย ก็พบว่า รายใหญ่ได้เปรียบทางการขาย เห็นได้จากราคาขายเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 110,000 บาทต่อตร.ม.มียอดขายแล้วถึง 87% และมีอัตราการขายเฉลี่ยอยู่ที่ 17 หน่วยต่อโครงการต่อเดือน ขณะที่ราคาเฉลี่ยจากผู้ประกอบการนอกตลาดหลักทรัพย์อยู่ที่ 84,000 บาทต่อตร.ม.มียอดจองและขายแล้ว 56% และมีอัตราการขายเฉลี่ยอยู่ที่ 9 หน่วยต่อโครงการต่อเดือน
และหากพิจารณาจากราคาขายโครงการอาคารชุดย่านทองหล่อ จะพบว่า ราคาขายต่ำสุดอยู่ที่ 1.9 ล้านบาท ราคาขายสูงสุด 40 ล้านบาท ราคาต่อตร.ม.ต่ำสุด 56,000 บาท และราคาสูงสุด 202,000 บาทต่อตร.ม.
ทั้งนี้ในปีที่ผ่านมา มีโครงการคอนโดฯเปิดใหม่เพียง 2 โครงการ รวม 80 หน่วย ยอดจองและขายแล้ว 39% เนื่องจากมีการทำรายการส่งเสริมการขายเป็นทางเลือกในการลงทุน มีการรับประกันผลตอบแทนมากถึง 10% ซึ่งผู้ซื้อโครงการเหล่านี้ มักจะมองการซื้อห้องชุดเป็นการลงทุนมากกว่าอยู่อาศัยจริง
“ แม้อุปสงค์ในซอยทองหล่อยังคงมีอย่างต่อเนื่องทั้งจากชาวไทยและต่างชาติ ทั้งเพื่อซื้อไว้อยู่อาศัยและปล่อยเช่า แต่อาจพบอุปสรรคในการพัฒนาโครงการมากขึ้น เนื่องจากราคาที่ดินได้ปรับตัวสูงขึ้น ที่ดินมีจำนวนจำกัด และพื้นผิวการจราจรบนถนนหลักและตรอกซอยคับแคบลงตามจำนวนผู้อยู่อาศัย และจำนวนรถยนต์ที่เพิ่มขึ้น. ” นายสัมมากล่าว
นายสัมมา คีตสิน ผู้อำนวยการ ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์(ธอส.) ได้รายงานผลสำรวจตลาดอาคารชุดย่านทองหล่อว่า ในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา มีโครงการเปิดใหม่ทั้งหมด 18 โครงการ มีจำนวนหน่วยตามผังโครงการรวมทั้งสิ้น 4,500 หน่วย มียอดจองหรือขายแล้ว 3,500 ห้อง คิดเป็นสัดส่วน 78% ของหน่วยในผังทั้งหมด
ขณะที่หน่วยห้องชุดคอนโดฯที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างมีทั้งสิ้น 1,700 หน่วย คิดเป็น 37% ของหน่วยในผังทั้งหมด แสดงให้เห็นว่า มีหน่วยในตลาดจำนวนมากที่จองแล้ว และยังไม่ได้มีการโอนกรรมสิทธิ์
โดยพบว่า โครงการจากผู้ประกอบการในตลาดหลักทรัพย์มีทั้งสิ้น 9 โครงการ คิดเป็น 69% ของหน่วยทั้งหมดในตลาด ในขณะที่โครงการจากผู้ประกอบการนอกตลาดหลักทรัพย์มี 9 โครงการ แต่มีจำนวนห้องชุดรวม 31% เท่านั้น นั้นหมายความว่า ผู้ประกอบการนอกตลาดหลักทรัพย์ เปิดโครงการที่มีขนาดเล็กและมีจำนวนหน่วยน้อยกว่า
ส่วนเรื่องของราคาขาย ก็พบว่า รายใหญ่ได้เปรียบทางการขาย เห็นได้จากราคาขายเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 110,000 บาทต่อตร.ม.มียอดขายแล้วถึง 87% และมีอัตราการขายเฉลี่ยอยู่ที่ 17 หน่วยต่อโครงการต่อเดือน ขณะที่ราคาเฉลี่ยจากผู้ประกอบการนอกตลาดหลักทรัพย์อยู่ที่ 84,000 บาทต่อตร.ม.มียอดจองและขายแล้ว 56% และมีอัตราการขายเฉลี่ยอยู่ที่ 9 หน่วยต่อโครงการต่อเดือน
และหากพิจารณาจากราคาขายโครงการอาคารชุดย่านทองหล่อ จะพบว่า ราคาขายต่ำสุดอยู่ที่ 1.9 ล้านบาท ราคาขายสูงสุด 40 ล้านบาท ราคาต่อตร.ม.ต่ำสุด 56,000 บาท และราคาสูงสุด 202,000 บาทต่อตร.ม.
ทั้งนี้ในปีที่ผ่านมา มีโครงการคอนโดฯเปิดใหม่เพียง 2 โครงการ รวม 80 หน่วย ยอดจองและขายแล้ว 39% เนื่องจากมีการทำรายการส่งเสริมการขายเป็นทางเลือกในการลงทุน มีการรับประกันผลตอบแทนมากถึง 10% ซึ่งผู้ซื้อโครงการเหล่านี้ มักจะมองการซื้อห้องชุดเป็นการลงทุนมากกว่าอยู่อาศัยจริง
“ แม้อุปสงค์ในซอยทองหล่อยังคงมีอย่างต่อเนื่องทั้งจากชาวไทยและต่างชาติ ทั้งเพื่อซื้อไว้อยู่อาศัยและปล่อยเช่า แต่อาจพบอุปสรรคในการพัฒนาโครงการมากขึ้น เนื่องจากราคาที่ดินได้ปรับตัวสูงขึ้น ที่ดินมีจำนวนจำกัด และพื้นผิวการจราจรบนถนนหลักและตรอกซอยคับแคบลงตามจำนวนผู้อยู่อาศัย และจำนวนรถยนต์ที่เพิ่มขึ้น. ” นายสัมมากล่าว