วานนี้ ( 9 มี.ค.) บริษัท เบเยอร์ จำกัด ผู้นำผลิตภัณฑ์ดูแลรักษาไม้และสีทาอาคารครบวงจรรายใหญ่ของประเทศ ได้ฉลองยอดขายสีเบเยอร์ ชิลด์กว่าหนึ่งล้านแกลลอน ด้วยการจัดเคมเปญออกใบรับประกันคุณภาพสีทนทานนาน 10ปี(10 Years Warranty)ให้กับผู้บริโภคนับเป็นผู้ผลิตสีรายแรกของไทย และผนึก 3 พันธมิตรหลักอย่างบมจ. ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ บริษัท ดูปองท์ (ประเทศไทย )และบริษัท ดาว เคมิคอล ประเทศไทย จำกัด เพื่อยืนยันคุณภาพสีที่เลือกใช้เทคโนโลยีระดับโลก และมีความมุ่งมั่นในการพัฒนานวัตกรรมเพื่อก้าวขึ้นเป็นผู้นำอันดับหนึ่งในวงการอุตสาหกรรมสีที่ดูแลด้านสิ่งแวดล้อม
นายวรวัฒน์ ชัยยศบูรณะ รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท เบเยอร์ จำกัด กล่าวว่าปีนี้บริษัทฯตั้งเป้าหมายยอดขายอยู่ที่ 2,800 ล้านบาท ขยายตัวขึ้น 15%จากมูลค่าตลาดสีรวม 1.2 หมื่นล้านบาท ซึ่งเติบโตสูงกว่าการโตของอุตสาหกรรมสีที่ประเมินว่าปีนี้ขยายตัวเพียง 10%ขึ้นอยู่กับปัจจัยการเมืองในประเทศ
ทั้งนี้ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ บริษัทฯจะมีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อให้ทันสมัยตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ส่วนการออกแคมเปญออกใบรับประกันคุณภาพสีนาน 10ปีเพื่อการันตีคุณภาพของสีเบเยอร์ชิลด์ เวธเธอการ์ดต่อผู้บริโภคโดยตรง นับเป็นปฏิวัติวงการสีเป็นครั้งแรกที่ผู้ผลิตสีกล้าออกใบรับกันแบบนี้
ปัจจุบันสัดส่วนลูกโครงการคิดเป็น 60%ของยอดขายทั้งหมด ที่เหลือจะเป็นลูกค้าผู้บริโภคโดยตรง โดยบริษัทมีส่วนแบ่งการตลาดสีทาอาคารอยู่ 25% และในปีนี้ บริษัทมีเป้าหมายที่จะรุกตลาดสีทาอาคารภายใต้แนวคิดอีโค สมาร์ท ที่ดูแลเอาใจใส่สิ่งแวดล้อม โดยวางเป้าหมายว่าภายใน 5ปีข้างหน้าจะมีสัดส่วนสินค้าเพื่อสิ่งแวดล้อมให้มากกว่าที่มีอยู่ในปัจจุบัน 40% จากยอดขายสีกว่าหนึ่งล้านแกลลอน
สำหรับแผนการลงทุนในปีนี้ จะต่อเนื่องจากปี 2552 โดยขยายโลจิสติกส์และศูนย์กระจายสินค้า(แวร์เฮาส์ ) เพื่อช่วยเพิ่มพื้นที่ในการเก็บสินค้าเพิ่มขึ้นเท่าตัวจากเดิม 5แสนลิตร ใช้เงินลงทุนรวม 400 ล้านบาท ซึ่งจะแล้วเสร็จในปีนี้ โดยปัจจุบันบริษัทฯมีกำลังการผลิตสีรวม 1.5 แสนตัน/ปี คาดว่าการลงทุนดังกล่าวจะรองรับการเติบโตของธุรกิจสีได้อีก 3ปีข้างหน้า
นายวรวัฒน์ ชัยยศบูรณะ รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท เบเยอร์ จำกัด กล่าวว่าปีนี้บริษัทฯตั้งเป้าหมายยอดขายอยู่ที่ 2,800 ล้านบาท ขยายตัวขึ้น 15%จากมูลค่าตลาดสีรวม 1.2 หมื่นล้านบาท ซึ่งเติบโตสูงกว่าการโตของอุตสาหกรรมสีที่ประเมินว่าปีนี้ขยายตัวเพียง 10%ขึ้นอยู่กับปัจจัยการเมืองในประเทศ
ทั้งนี้ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ บริษัทฯจะมีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อให้ทันสมัยตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ส่วนการออกแคมเปญออกใบรับประกันคุณภาพสีนาน 10ปีเพื่อการันตีคุณภาพของสีเบเยอร์ชิลด์ เวธเธอการ์ดต่อผู้บริโภคโดยตรง นับเป็นปฏิวัติวงการสีเป็นครั้งแรกที่ผู้ผลิตสีกล้าออกใบรับกันแบบนี้
ปัจจุบันสัดส่วนลูกโครงการคิดเป็น 60%ของยอดขายทั้งหมด ที่เหลือจะเป็นลูกค้าผู้บริโภคโดยตรง โดยบริษัทมีส่วนแบ่งการตลาดสีทาอาคารอยู่ 25% และในปีนี้ บริษัทมีเป้าหมายที่จะรุกตลาดสีทาอาคารภายใต้แนวคิดอีโค สมาร์ท ที่ดูแลเอาใจใส่สิ่งแวดล้อม โดยวางเป้าหมายว่าภายใน 5ปีข้างหน้าจะมีสัดส่วนสินค้าเพื่อสิ่งแวดล้อมให้มากกว่าที่มีอยู่ในปัจจุบัน 40% จากยอดขายสีกว่าหนึ่งล้านแกลลอน
สำหรับแผนการลงทุนในปีนี้ จะต่อเนื่องจากปี 2552 โดยขยายโลจิสติกส์และศูนย์กระจายสินค้า(แวร์เฮาส์ ) เพื่อช่วยเพิ่มพื้นที่ในการเก็บสินค้าเพิ่มขึ้นเท่าตัวจากเดิม 5แสนลิตร ใช้เงินลงทุนรวม 400 ล้านบาท ซึ่งจะแล้วเสร็จในปีนี้ โดยปัจจุบันบริษัทฯมีกำลังการผลิตสีรวม 1.5 แสนตัน/ปี คาดว่าการลงทุนดังกล่าวจะรองรับการเติบโตของธุรกิจสีได้อีก 3ปีข้างหน้า
