แสนสิริฯแจงซื้อหุ้น"SUN"เจ้าของสัญเช่าระยะยาว "โครงการซัน สแควร์ สีลม" คาดเริ่มทำกำไรและทยอยรับรู้ระยะยาว เชื่อ4-5ปีเริ่มทยอยปันผล
นายวันจักร์ บุรณศิริ กรรมการและประธานผู้บริหารฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงความคืบห้าในการลงทุนเพิ่มเติมในบริษัท เอส.ยู.เอ็น. แมเนจเม้นท์ จำกัด ว่า หลังจากที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทีมติอนุมัติการลงทุนเพิ่มเติมในบริษัท เอส.ยู.เอ็น. แมเนจเม้นท์ จำกัด หรือ SUN หลังจากก่อนหน้านั้น แสนสิริฯได้ซื้อหุ้นสามัญทั้งหมดของ SUN จากบริษัท พีแอนด์พี เทเลคอม จำกัด รวมทั้งสิ้น 490,000 หุ้น หรือ 49% ของทุนที่ออกและเรียกชำระแล้ว โดยในปี 52 SUN มีรายได้จากการดำเนินงานรวม11.83 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 3.12 ล้านบาท
ทั้งนี้ SUN เป็นเจ้าของสิทธิการเช่าในอาคารพาณิชย์เพื่อการให้เช่าระยะยาว ชื่อ "โครงการซัน สแควร์ สีลม" ตั้งอยู่บริเวณซอยสีลม 21 กรุงเทพฯโดยอาคารเหล่านี้ได้มีการนำออกให้เช่าไปแล้ว มีกำหนดระยะเวลาการเช่า30 ปี ทั้งหมด และได้มีการเก็บค่าเช่าล่วงหน้าตลอดระยะเวลาการเช่าไว้เรียบร้อยแล้ว
"ตามวิธีปฏิบัติในทางบัญชีแล้ว รายรับค่าเช่าที่ได้รับมาไม่สามารถจะรับรู้เป็นรายได้ ทั้งจำนวนในรอบระยะเวลาบัญชีที่ได้รับแต่ต้องนำมาทยอยรับรู้เป็นรายได้เป็นจำนวนเท่าๆ กัน ตลอดระยะเวลาการเช่า เช่นเดียวกับต้นทุน เช่น ค่าก่อสร้าง และค่าเช่าที่ดิน ที่จะทยอยตัดจ่ายเป็นรายปีจำนวนเท่าๆกัน เพื่อให้สอดคล้องกับการรับรู้รายรับค่าเช่า"
จากกรณีดังกล่าว ทำให้เงินสดสุทธิที่ได้รับมาทั้งหมดถูกเก็บอยู่ในบริษัทรอที่จะรับรู้เป็นกำไร เพื่อจ่ายเป็นเงินปันผลต่อไป ในส่วนของผลขาดทุนสะสมที่ SUN บันทึกอยู่ในบัญชีขณะนี้ เกิดขึ้นจากความไม่สอดคล้องของการบันทึกรายได้กับรายจ่าย ผลขาดทุนเหล่านี้ ส่วนใหญ่เกิดจากค่าใช้จ่ายในการขายและการบริหารช่วงเริ่มต้นโครงการ และระหว่างระยะเวลาการก่อสร้างและการขายโครงการ ซึ่งต้องบันทึกบัญชีเป็นค่าใช้จ่ายทั้งจำนวนในรอบระยะเวลาบัญชีที่เกิดค่าใช้จ่าย ทั้งนี้หากบริษัทยังคงดำเนินการเช่นเดียวกับปัจจุบันอย่างต่อเนื่อง ผลขาดทุนสะสมนี้จะหมดไป เนื่องมาจากกำไรที่จะมีการทยอยรับรู้ในระยะเวลา 4 - 5 ปีข้างหน้า และ SUN ก็จะเริ่มมีกำไรที่จะทยอยจ่ายออกมาเป็นเงินปันผลได้
นายวันจักร์ บุรณศิริ กรรมการและประธานผู้บริหารฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงความคืบห้าในการลงทุนเพิ่มเติมในบริษัท เอส.ยู.เอ็น. แมเนจเม้นท์ จำกัด ว่า หลังจากที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทีมติอนุมัติการลงทุนเพิ่มเติมในบริษัท เอส.ยู.เอ็น. แมเนจเม้นท์ จำกัด หรือ SUN หลังจากก่อนหน้านั้น แสนสิริฯได้ซื้อหุ้นสามัญทั้งหมดของ SUN จากบริษัท พีแอนด์พี เทเลคอม จำกัด รวมทั้งสิ้น 490,000 หุ้น หรือ 49% ของทุนที่ออกและเรียกชำระแล้ว โดยในปี 52 SUN มีรายได้จากการดำเนินงานรวม11.83 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 3.12 ล้านบาท
ทั้งนี้ SUN เป็นเจ้าของสิทธิการเช่าในอาคารพาณิชย์เพื่อการให้เช่าระยะยาว ชื่อ "โครงการซัน สแควร์ สีลม" ตั้งอยู่บริเวณซอยสีลม 21 กรุงเทพฯโดยอาคารเหล่านี้ได้มีการนำออกให้เช่าไปแล้ว มีกำหนดระยะเวลาการเช่า30 ปี ทั้งหมด และได้มีการเก็บค่าเช่าล่วงหน้าตลอดระยะเวลาการเช่าไว้เรียบร้อยแล้ว
"ตามวิธีปฏิบัติในทางบัญชีแล้ว รายรับค่าเช่าที่ได้รับมาไม่สามารถจะรับรู้เป็นรายได้ ทั้งจำนวนในรอบระยะเวลาบัญชีที่ได้รับแต่ต้องนำมาทยอยรับรู้เป็นรายได้เป็นจำนวนเท่าๆ กัน ตลอดระยะเวลาการเช่า เช่นเดียวกับต้นทุน เช่น ค่าก่อสร้าง และค่าเช่าที่ดิน ที่จะทยอยตัดจ่ายเป็นรายปีจำนวนเท่าๆกัน เพื่อให้สอดคล้องกับการรับรู้รายรับค่าเช่า"
จากกรณีดังกล่าว ทำให้เงินสดสุทธิที่ได้รับมาทั้งหมดถูกเก็บอยู่ในบริษัทรอที่จะรับรู้เป็นกำไร เพื่อจ่ายเป็นเงินปันผลต่อไป ในส่วนของผลขาดทุนสะสมที่ SUN บันทึกอยู่ในบัญชีขณะนี้ เกิดขึ้นจากความไม่สอดคล้องของการบันทึกรายได้กับรายจ่าย ผลขาดทุนเหล่านี้ ส่วนใหญ่เกิดจากค่าใช้จ่ายในการขายและการบริหารช่วงเริ่มต้นโครงการ และระหว่างระยะเวลาการก่อสร้างและการขายโครงการ ซึ่งต้องบันทึกบัญชีเป็นค่าใช้จ่ายทั้งจำนวนในรอบระยะเวลาบัญชีที่เกิดค่าใช้จ่าย ทั้งนี้หากบริษัทยังคงดำเนินการเช่นเดียวกับปัจจุบันอย่างต่อเนื่อง ผลขาดทุนสะสมนี้จะหมดไป เนื่องมาจากกำไรที่จะมีการทยอยรับรู้ในระยะเวลา 4 - 5 ปีข้างหน้า และ SUN ก็จะเริ่มมีกำไรที่จะทยอยจ่ายออกมาเป็นเงินปันผลได้