xs
xsm
sm
md
lg

'พรูเดนเชียล'ฮุบAIA ทุ่ม3.5หมื่นล้านUSซื้อกิจการผงาดเบอร์1โลก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เอเอฟพี/รอยเตอร์ - “พรูเดนเชียล” บริษัทประกันภัยสัญชาติอังกฤษ แถลงวานนี้(1)ว่า สามารถทำความตกลงกับ “เอไอจี” เพื่อเข้าซื้อ “เอไอเอ” กิจการประกันชีวิตยักษ์ใหญ่ในเอเชีย ในราคา 35,500 ล้านดอลลาร์ ซึ่งจะทำให้พรูเดนเชียล ผงาดโดดเด่นกลายเป็นผู้นำในภาคประกันภัย-ประกันชีวิต อันเป็นหนึ่งในตลาดบริการทางการเงินที่กำลังเติบโตขยายตัวอย่างรวดเร็วที่สุดของโลก

อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นของพรูเดนเชียลได้ตกฮวบลงมากว่า 11% ในการซื้อขายช่วงเช้าของตลาดลอนดอน สืบเนื่องจากข่าวที่ว่า ข้อตกลงซื้อขายที่ทางพรูเดนเชียลจะจ่ายเป็นเงินสดบวกกับหุ้นของตนเองคราวนี้ จะทำให้พรูเดนเชียลต้องมีการออกหุ้นใหม่ทั้งหุ้นสามัญและหุ้นกู้เป็นจำนวนมาก

“พรูเดนเชียล พีแอลซี ได้บรรลุข้อตกลงกับ อเมริกัน อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป อิงก์ (เอไอจี) ในเรื่องเงื่อนไขต่างๆ ของการควบรวมกันระหว่างพรูเดนเชียล กับ เอไอเอ กรุ๊ป ลิมิเต็ด ซึ่งเป็นกิจการในเครือที่เอไอจีเป็นเจ้าของอยู่แต่ผู้เดียว” บริษัทประกันภัยอังกฤษระบุในคำแถลง พร้อมกับแจกแจงว่า เอไอจีจะได้รับเงินจากการขายเอไอเอ เป็นมูลค่ารวม 35,500 ล้านดอลลาร์ โดยแบ่งเป็นเงินสด 25,000 ล้านดอลลาร์ และเป็นหุ้นพรูเดนเชียลตลอดจนหลักทรัพย์อื่นๆ อีก 10,500 ล้านดอลลาร์

เงินสดที่จะต้องจ่ายให้แก่เอไอจีนี้ ทางพรูเดนเชียลจะระดมหามาด้วยการออกตราสารรูปแบบต่างๆ โดยเป็นตราสารทางด้านหลักทรัพย์ 20,000 ล้านดอลลาร์ และตราสารหนี้อีก 5,000 ล้านดอลลาร์ เรื่องนี้ทำให้พวกนักลงทุนและนักวิเคราะห์ลงความเห็นว่า จำเป็นจะต้องทราบรายละเอียดให้มากขึ้นเกี่ยวกับฐานะทางการเงินของเอไอเอ จึงจะวินิจฉัยได้ว่าข้อตกลงนี้สมเหตุสมผลหรือไม่

ทั้งนี้เนื่องจากการออกตราสารด้านหลักทรัพย์ ซึ่งในที่สุดแล้วก็อาจจะส่งผลทำให้มีหุ้นสามัญเพิ่มขึ้นมา เป็นจำนวน 20,000 ล้านดอลลาร์ จะเกือบเท่ากับมูลค่าตามราคาตลาดหุ้นของพรูเดนเชียลทั้งบริษัทในปัจจุบัน ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 23,000 ล้านดอลลาร์ทีเดียว

เอไอเอ ซึ่งตั้งสำนักงานใหญ่อยู่ที่ฮ่องกง ถือเป็นเพชรประดับมงกุฏในเอเชียของเอไอจี กิจการที่มีอายุเก่าแก่นมนานถึง 90 ปีแห่งนี้ ปัจจุบันบริหารจัดการสินทรัพย์มูลค่ามากกว่า 60,000 ล้านดอลลาร์ และมีลูกค้ามาซื้อกรมธรรม์ประเภทต่างๆ ราว 20 ล้านราย หรือเกือบๆ เท่ากับหนึ่งในสามของฐานลูกค้าทั้งหมดของเอไอจีทีเดียว

ขณะที่พรูเดนเชียล ซึ่งก่อตั้งในปี 1848 ก็กำลังขยายตลาดในเอเชีย นอกเหนือจากฐานอันเข้มแข็งในอังกฤษและสหรัฐฯ โดยในเอเชียนั้น เวลานี้บริษัทมีการดำเนินงานอยู่ใน 13 ตลาด รวมเป็นจำนวนลูกค้าประกันชีวิตมากกว่า 11 ล้านคน ทั้งนี้เอเชียเป็นภูมิภาคที่ทำกำไรถึง 44% ของยอดรวมกำไรที่ทั้งบริษัททำได้ในปี 2008

การที่พรูเดนเชียลผนวกรวมกับเอไอเอ เท่ากับทำให้กิจการของพรูเดนเชียลขยายเพิ่มขึ้นไปอีกราว 1 เท่าตัว และจะขึ้นชั้นกลายเป็นกิจการประกันภัย/ประกันชีวิตที่ไม่ใช่บริษัทจีน รายใหญ่ที่สุดในโลก เมื่อคำนวณจากมูลค่าตามราคาตลาดหุ้น โดยสามารถแซงหน้าคู่แข่งสำคัญอย่าง อัลลิแอนซ์ และ แอ็กซ่า

สำหรับเอไอจี ที่เคยเป็นบริษัทประกันภัยรายใหญ่ที่สุดของโลก ได้ตกอยู่ในภาวะแทบจะล้มละลายในเดือนกันยายน 2008 เมื่อไม่สามารถหาเงินจำนวนมหาศาลมาจ่ายให้พวกลูกค้า ซึ่งซื้อประกันภัยพวกหลักทรัพย์อิงสินเชื่อที่อยู่อาศัยตลอดจนสินทรัพย์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เอไอจีอยู่รอดมาได้ก็ด้วยการเข้าไปช่วยเหลือให้เงินกู้หลายระลอกของทางการสหรัฐฯ รวมแล้วประมาณ 182,300 ล้านดอลลาร์

รัฐบาลสหรัฐฯที่เวลานี้เป็นเจ้าของเอไอจีอยู่เกือบๆ 80% ต้องการให้บริษัทขายสินทรัพย์ที่มีค่าออกไปบางส่วน เพื่อนำเงินมาทยอยใช้คืนทางการ

ในปี 2008 เอไอจีเคยพยายามที่จะขายหุ้นจำนวน 49% ของเอไอเอ ด้วยวิธีการเปิดประมูล ทว่าต้องยกเลิกความคิดนี้ไป ภายหลังประสบความล้มเหลวไม่ได้ผู้เสนอซื้อที่บริษัทเห็นว่าเหมาะสม จากนั้นเอไอจีจึงเปลี่ยนแผนมาเป็นการนำเอาเอไอเอเข้าตลาดหลักทรัพย์ในเอเชีย โดยเป็นที่คาดหมายกันว่าอาจจะระดมเงินได้มากกว่า 10,000 ล้านดอลลาร์ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับจำนวนหุ้นที่จะนำออกเสนอขายแก่ประชาชน

แต่การทำข้อตกลงกับพรูเดนเชียลคราวนี้ จะทำให้เอไอจีไม่ต้องเสี่ยงกับความไม่แน่นอนในการนำหุ้นเอไอเอออกเสนอขายแก่ประชาชน ในสภาพที่ราคาหุ้นในตลาดแถบเอเชียมีความผันผวน อีกทั้งยังต้องแข่งขันกับหุ้นตัวอื่นๆ ที่ออกมาเสนอขายต่อประชาชนเช่นกัน
กำลังโหลดความคิดเห็น