ออมสินขยายธุรกิจเพิ่มรายได้ค่าธรรมเนียมทั้งภาครัฐ รายใหญ่ รายย่อย เล็งทั้งปี 53 เพิ่มสัดส่วนจาก 5% ให้เกิน 10% หรือมากกว่า 4 พันล้านบาท เดินหน้าลุยธุรกิจผู้ประสานงานจำหน่ายพันธบัตรรัฐวิสาหกิจ เปิดสาขาขายหน่วยลงทุนเพิ่มทางเลือกลูกค้ารายย่อย
นายธัชพล กาญจนกูล รองผู้อำนวยการ ธนาคารออมสิน ฝ่ายบริหารเงิน เปิดเผยว่า ธนาคารออมสินเตรียมขยายการให้บริการสู่ธุรกิจอื่นๆ เพิ่มเติมมากขึ้นเพื่อเพิ่มสัดส่วนรายได้ค่าธรรมเนียมจากเดิมที่มีสัดส่วนรายได้ค่าธรรมเนียมอยู่ที่ประมาณ 5% เพิ่มขึ้นเป็น 10% หรือประมาณ 4 พันล้านบาท โดยจะให้บริการอย่างครอบคลุมทั้งรายใหญ่และรายย่อย
สำหรับบริการกลุ่มแรกที่ได้เริ่มดำเนินการมาบ้างแล้วคือการประสานงานทางด้านการลงทุนของหน่วยงานภาครัฐและรัฐวิสาหกิจ ซึ่งหน่วยงานที่ใช้บริการของธนาคารออมสินแล้วได้แก่ บรรษัทตลาดรองสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย(บตท.) และธนาคารอาคารสงเคราะห์(ธอส.) ที่มีดีลทำซีเคียวรีไทเซชั่นวงเงิน 5 หมื่นล้านบาท ซึ่งบตท.จะเป็นผู้ออกพันธบัตรเพื่อซื้อหนี้จากธอส.และธนาคารออมสินจะเป็นผู้จัดจำหน่ายหากไม่หมดก็จะรับซื้อไว้ด้วย ส่วนอีกรายคือธนาคารอิสลามที่จะออกพันธบัตรซูกุกเช่นกัน
“นอกจากเป็นผู้ประสานงานด้านการลงทุนสำหรับหน่วยงานภาครัฐและรัฐวิสาหกิจแล้วธนาคารออมสินยังทำหน้าที่บริหารการเงินให้กับรัฐวิสาหกิจเพื่อให้การหมุนเวียนของสภาพคล่องมีความเหมาะสม อีกทั้งเป็นการช่วยผลักดันแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็งของรัฐบาลที่ต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการลงทุนทางด้านสาธารณูปโภคผ่านรัฐวิสาหกิจ” นายธัชพลกล่าว
นายธัชพลกล่าวว่า ขณะเดียวกันธนาคารออมสินยังเตรียมประสานงานให้พันธมิตรทางธุรกิจทั้งบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) เอ็มเอฟซี จำกัด(มหาชน) MFC และบลจ.ธนชาต ที่ธนาคารออมสินถือหุ้นเข้ามาเปิดบริการให้คำแนะนำทางด้านการเงินแก่ลูกค้าของธนาคารที่ต้องการเพิ่มทางเลือกการลงทุนนอกจากเงินฝากไปลงทุนในหลักทรัพย์อื่นที่บลจ.ทั้ง 2 แห่งมีให้บริการ และในอนาคตจะขยายไปยัง บลจ.อื่นๆ ด้วย ซึ่งจะทำให้ธนาคารมีรายได้จากส่วนนี้เพิ่มขึ้น
“การเพิ่มรายได้ค่าธรรมเนียมของธนาคารในระยะนี้อาจยากสักหน่อยเนื่องจากติดปัญหาการจัดซื้อจัดจ้างตามระบบราชการที่ทำให้การให้บริการรายย่อยยังไม่ทั่วถึง อีกทั้งแบงก์พาณิชย์ก็แข่งขันกันอย่างรุนแรง ซึ่งในระหว่างนี้ธนาคารจึงใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุดโดยการให้บริการทางการเงินด้านต่างๆ แก่ลูกค้าองค์กรที่มีความต้องการอยู่มากเพื่อเพิ่มสัดส่วนรายได้ค่าธรรมเนียมให้เกิด 10% ของรายได้รวมทั้งหมดในปีนี้” นายธัชพลกล่าว