" สุพันธ์ " มั่นใจปี 53 ซินเน็ค (ประเทศไทย) รายได้โตต่อเนื่องอีก 12% จากปี 52 ชี้ปัจจัยบวกเศรษฐกิจฟื้นตัว ตลาดไอทีโต แถมเม็ดเงินจากโครงการไทยเข้มแข็งออกสู่ตลาดหนุนอื้อ เชื่อยอดขายสินค้าไอทีวิ่งฉิว อีกทั้งคุมต้นทุนต่ำ ประกอบกับคุมต้นทุนยอดเยี่ยม เชื่อสะท้อนผลประกอบการเติบโตชัด ส่วนปี 52 มั่นใจทำรายได้ทะลุ 1.3 หมื่นล. ฝ่าวิกฤต
นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ SYNEX ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ต่อพ่วงคอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์ ระบบสารสนเทศและอุปกรณ์ไอที รายใหญ่ของประเทศไทย เปิดเผยถึงแนวโน้มธุรกิจในปี 53 ว่า มีโอกาสเติบโตต่อเนื่องจากปี 52 ได้ เนื่องจากได้เห็นสัญญาณบวกสนับสนุนอย่างชัดเจนโดยเฉพาะการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่จะสนับสนุนให้ตลาดสินค้าไอทีพลิกกลับมาเติบโตได้อีกครั้ง มีซอฟต์แวร์ใหม่ อย่าง Microsoft window 7 เข้ามากระตุ้นการใช้งานอุปกรณ์ไอทีของผู้บริโภค มีงบประมาณในโครงการไทยเข้มแข็งเข้ามาสนับสนุนการใช้สินค้าไอทีในสถานศึกษาสนับสนุนให้ยอดขายสินค้าของบริษัทเติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
" ในปี 53 เราเชื่อว่าตลาดไอทีจะพลิกกลับมาเติบโตได้ไม่ต่ำกว่า 5% จากปีนี้ที่คาดว่าจนถึงสิ้นปีตลาดไอทีจะยังติดลบในอัตรา 5% ซึ่งเป็นผลมาจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ทำให้ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคกลับมาอีกครั้ง ประกอบกับในปีนี้จะรับรู้รายได้จากการขายสินค้า Seagate เต็มปี ซึ่งปัจจุบันมีออเดอร์เพิ่มขึ้นเป็น 100 ล้านบาทต่อเดือน จากเดิม 60 ล้านบาทต่อเดือนซึ่งจะทำให้รายได้เติบโตขึ้นอย่างชัดเจน และนอกเหนือจากการมุ่งขายสินค้าแล้วในปีนี้เราจะให้ความสำคัญกับการให้บริการหลังการขายอย่างเข้มข้นยิ่งขึ้น และมุ่งขยายสาขาทั้งศูนย์บริการ และร้าน Cnex shop ซึ่งเป็นร้านค้าปลีกของ SYNEX เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า และเพิ่มรายได้ไปในเวลาเดียวกัน "
โดยมองว่าในปีหน้าจะเติบโตเนื่องจากสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่จะทำให้สินค้าไอทีกลับมาเติบโตได้อีกครั้งและซอฟต์แวร์ใหม่ๆ ที่ออกมาทำให้กระตุ้นการใช้งานของผู้บริโภค ประกอบกับงบประมาณไทยเข้มแข็งที่ออกมาซึ่งในส่วนนี้บริษัทได้รับงาน 20-30% ของไทยเข้มแข็งซึ่งจะทยอยทำ ซึ่งจะไปเริ่มรับรู้ในไตรมาสแรกปี 53 จะส่งผลให้ไตรมาส 1 ปี 53 เติบโตถึง 15% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1 แรกปี 52 สำหรับ Gross Profit Margin เชื่อว่าจะรักษาได้อัตราเดิมกว่า 5% คาด Dividend yield ปี 52 ประมาณ 7-10%
สำหรับปี 53 นั้น บริษัทมีแผนจะเพิ่มสาขา Cnex shop อีก 10 สาขา จากเดิม 17 สาขา ซึ่งจะใช้เงินลงทุนประมาณ 60 ล้านบาท รวมถึงการให้ความสำคัญต่อเนื่องจากปี 52 สนับสนุนทางการเงินกับลูกค้าให้ทั่วถึง เพราะหลังเกิดวิกฤตเศรษฐกิจพบว่าผู้ประกอบการรายอื่นจำกัดวงเงินสินเชื่อกับลูกค้า อีกทั้งธนาคารพาณิชย์จำกัดวงเงินสินเชื่อกับลูกค้า ส่งผลให้ลูกค้าหันมาซื้อสินค้าจาก SYNEX มากขึ้น ทำให้บริษัทต้องนำสินค้าใหม่ ๆ เข้ามาจำหน่ายเพื่อเพิ่มความหลากหลายและขยายฐานลูกค้าเพิ่ม
ดังนั้นจึงเชื่อว่า ปี 53 ตั้งเป้ารายได้ขยายตัวไม่ต่ำกว่า 12% หรืออยู่ที่ 15,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีนี้ที่คาดว่าจะทำได้ 13,000 ล้านบาท เพราะได้รับปัจจัยบวกจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ที่ทำให้สินค้าไอทีกลับมาเติบโตได้อีกครั้ง ประกอบมีซอฟต์แวร์ใหม่ๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทำช่วยกระตุ้นให้การใช้งานของผู้บริโภคเพิ่มขึ้นในทิศทางที่ดีอีกด้วย
"ภาพรวมของตลาดไอทีในปีหน้ามีทิศทางที่ดีขึ้นจากปีนี้มาก หลังเศรษฐกิจฟื้นตัว อีกทั้งในช่วงที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้มีการบริหารหนี้ของลูกค้าให้เหลือ 20 วันจากเดิม 1 เดือน ประกอบกับการลดค่าใช้จ่ายเดิมจาก 4% ต่อรายได้รวม มาอยู่ที่ 3.5% ต่อรายได้รวมฉะนั้นรายได้ปีหน้าคงเติบโตไม่ต่ำกว่า 12% และกำไรคงปรับตัวต่อเนื่องจากปี 52 ที่คาดว่ากำไรจะเติบโตไม่ต่ำกว่า 40-45% จากปี 51 " นายสุพันธ์ กล่าว
โดยแนวโน้มผลประกอบการในปี 52 ว่า มีความเป็นไปได้ที่จะเติบโตเกินความคาดหมายทั้งรายได้และกำไร สวนทางกับตลาดไอทีที่คาดว่าจะติดลบ 5% ซึ่งเป็นผลมาจากบริษัทฯ ได้ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ทางธุรกิจออกมารองรับโอกาสในช่วงที่ผู้ประกอบการรายอื่นได้จำกัดวงเงินสินเชื่อกับลูกค้า และธนาคารเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น ด้วยการสนับสนุนด้านการเงินให้กับลูกค้า ทำให้ลูกค้าซื้อสินค้าจากบริษัทฯ ได้มากกว่าเดิม นอกจากนั้นยังได้นำสินค้าใหม่เข้ามาจัดจำหน่ายเพิ่มขึ้นทำให้ฐานลูกค้าขยายตัวมากขึ้นกว่าเดิม และประการสำคัญตลาดสินค้าโน้ตบุ๊คได้เติบโตขึ้นเป็นอย่างมาก ซึ่งปัจจุบัน SYNEX ถือเป็นตัวแทนจำหน่ายโน้ตบุ๊ครายใหญ่รายหนึ่งของประเทศไทย โดยเฉพาะเป็นผู้จัดจำหน่ายสินค้าแบรนด์ HP จากบริษัทฮิวเลตต์ แพคการ์ด (ประเทศไทย) จำกัด
ประกอบกับในช่วงปลายปี 52 รัฐบาลมีงบประมาณไทยเข้มแข็งเข้ามากระตุ้นการใช้จ่ายภายในประเทศและบริษัทฯ ได้ปรับกลยุทธ์ทางการตลาดครั้งใหญ่ โดยหันมาสร้างการรับรู้และจดจำในสัญลักษณ์ Trusted by SYNNEX เพื่อเป็นสัญญลักษณ์การจัดจำหน่ายสินค้าที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน และการบริการหลังการขายที่ยอดเยี่ยม รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ มีผลให้ร้านค้าที่เป็นลูกค้าของบริษัทฯ สามารถจัดจำหน่ายสินค้าได้มากขึ้น ดังนั้น เมื่อรวมกับแผนการปรับลดต้นทุนที่ทำมาอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้ผลประกอบการมีแนวโน้มออกมาในทิศทางที่ดี โดยคาดว่ารายได้จะเติบโตได้ในอัตรา 10-15% ขึ้นสู่ระดับ 13,000 ล้านบาทได้สำเร็จ ซึ่งถือเป็นยอดขายที่บริษัทฯ ทำได้สูงสุดในรอบ 20 ปีที่ผ่านมา ซึ่งจะสะท้อนให้กำไรเติบโตในทิศทางเดียวกัน
นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ SYNEX ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ต่อพ่วงคอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์ ระบบสารสนเทศและอุปกรณ์ไอที รายใหญ่ของประเทศไทย เปิดเผยถึงแนวโน้มธุรกิจในปี 53 ว่า มีโอกาสเติบโตต่อเนื่องจากปี 52 ได้ เนื่องจากได้เห็นสัญญาณบวกสนับสนุนอย่างชัดเจนโดยเฉพาะการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่จะสนับสนุนให้ตลาดสินค้าไอทีพลิกกลับมาเติบโตได้อีกครั้ง มีซอฟต์แวร์ใหม่ อย่าง Microsoft window 7 เข้ามากระตุ้นการใช้งานอุปกรณ์ไอทีของผู้บริโภค มีงบประมาณในโครงการไทยเข้มแข็งเข้ามาสนับสนุนการใช้สินค้าไอทีในสถานศึกษาสนับสนุนให้ยอดขายสินค้าของบริษัทเติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
" ในปี 53 เราเชื่อว่าตลาดไอทีจะพลิกกลับมาเติบโตได้ไม่ต่ำกว่า 5% จากปีนี้ที่คาดว่าจนถึงสิ้นปีตลาดไอทีจะยังติดลบในอัตรา 5% ซึ่งเป็นผลมาจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ทำให้ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคกลับมาอีกครั้ง ประกอบกับในปีนี้จะรับรู้รายได้จากการขายสินค้า Seagate เต็มปี ซึ่งปัจจุบันมีออเดอร์เพิ่มขึ้นเป็น 100 ล้านบาทต่อเดือน จากเดิม 60 ล้านบาทต่อเดือนซึ่งจะทำให้รายได้เติบโตขึ้นอย่างชัดเจน และนอกเหนือจากการมุ่งขายสินค้าแล้วในปีนี้เราจะให้ความสำคัญกับการให้บริการหลังการขายอย่างเข้มข้นยิ่งขึ้น และมุ่งขยายสาขาทั้งศูนย์บริการ และร้าน Cnex shop ซึ่งเป็นร้านค้าปลีกของ SYNEX เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า และเพิ่มรายได้ไปในเวลาเดียวกัน "
โดยมองว่าในปีหน้าจะเติบโตเนื่องจากสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่จะทำให้สินค้าไอทีกลับมาเติบโตได้อีกครั้งและซอฟต์แวร์ใหม่ๆ ที่ออกมาทำให้กระตุ้นการใช้งานของผู้บริโภค ประกอบกับงบประมาณไทยเข้มแข็งที่ออกมาซึ่งในส่วนนี้บริษัทได้รับงาน 20-30% ของไทยเข้มแข็งซึ่งจะทยอยทำ ซึ่งจะไปเริ่มรับรู้ในไตรมาสแรกปี 53 จะส่งผลให้ไตรมาส 1 ปี 53 เติบโตถึง 15% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1 แรกปี 52 สำหรับ Gross Profit Margin เชื่อว่าจะรักษาได้อัตราเดิมกว่า 5% คาด Dividend yield ปี 52 ประมาณ 7-10%
สำหรับปี 53 นั้น บริษัทมีแผนจะเพิ่มสาขา Cnex shop อีก 10 สาขา จากเดิม 17 สาขา ซึ่งจะใช้เงินลงทุนประมาณ 60 ล้านบาท รวมถึงการให้ความสำคัญต่อเนื่องจากปี 52 สนับสนุนทางการเงินกับลูกค้าให้ทั่วถึง เพราะหลังเกิดวิกฤตเศรษฐกิจพบว่าผู้ประกอบการรายอื่นจำกัดวงเงินสินเชื่อกับลูกค้า อีกทั้งธนาคารพาณิชย์จำกัดวงเงินสินเชื่อกับลูกค้า ส่งผลให้ลูกค้าหันมาซื้อสินค้าจาก SYNEX มากขึ้น ทำให้บริษัทต้องนำสินค้าใหม่ ๆ เข้ามาจำหน่ายเพื่อเพิ่มความหลากหลายและขยายฐานลูกค้าเพิ่ม
ดังนั้นจึงเชื่อว่า ปี 53 ตั้งเป้ารายได้ขยายตัวไม่ต่ำกว่า 12% หรืออยู่ที่ 15,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีนี้ที่คาดว่าจะทำได้ 13,000 ล้านบาท เพราะได้รับปัจจัยบวกจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ที่ทำให้สินค้าไอทีกลับมาเติบโตได้อีกครั้ง ประกอบมีซอฟต์แวร์ใหม่ๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทำช่วยกระตุ้นให้การใช้งานของผู้บริโภคเพิ่มขึ้นในทิศทางที่ดีอีกด้วย
"ภาพรวมของตลาดไอทีในปีหน้ามีทิศทางที่ดีขึ้นจากปีนี้มาก หลังเศรษฐกิจฟื้นตัว อีกทั้งในช่วงที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้มีการบริหารหนี้ของลูกค้าให้เหลือ 20 วันจากเดิม 1 เดือน ประกอบกับการลดค่าใช้จ่ายเดิมจาก 4% ต่อรายได้รวม มาอยู่ที่ 3.5% ต่อรายได้รวมฉะนั้นรายได้ปีหน้าคงเติบโตไม่ต่ำกว่า 12% และกำไรคงปรับตัวต่อเนื่องจากปี 52 ที่คาดว่ากำไรจะเติบโตไม่ต่ำกว่า 40-45% จากปี 51 " นายสุพันธ์ กล่าว
โดยแนวโน้มผลประกอบการในปี 52 ว่า มีความเป็นไปได้ที่จะเติบโตเกินความคาดหมายทั้งรายได้และกำไร สวนทางกับตลาดไอทีที่คาดว่าจะติดลบ 5% ซึ่งเป็นผลมาจากบริษัทฯ ได้ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ทางธุรกิจออกมารองรับโอกาสในช่วงที่ผู้ประกอบการรายอื่นได้จำกัดวงเงินสินเชื่อกับลูกค้า และธนาคารเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น ด้วยการสนับสนุนด้านการเงินให้กับลูกค้า ทำให้ลูกค้าซื้อสินค้าจากบริษัทฯ ได้มากกว่าเดิม นอกจากนั้นยังได้นำสินค้าใหม่เข้ามาจัดจำหน่ายเพิ่มขึ้นทำให้ฐานลูกค้าขยายตัวมากขึ้นกว่าเดิม และประการสำคัญตลาดสินค้าโน้ตบุ๊คได้เติบโตขึ้นเป็นอย่างมาก ซึ่งปัจจุบัน SYNEX ถือเป็นตัวแทนจำหน่ายโน้ตบุ๊ครายใหญ่รายหนึ่งของประเทศไทย โดยเฉพาะเป็นผู้จัดจำหน่ายสินค้าแบรนด์ HP จากบริษัทฮิวเลตต์ แพคการ์ด (ประเทศไทย) จำกัด
ประกอบกับในช่วงปลายปี 52 รัฐบาลมีงบประมาณไทยเข้มแข็งเข้ามากระตุ้นการใช้จ่ายภายในประเทศและบริษัทฯ ได้ปรับกลยุทธ์ทางการตลาดครั้งใหญ่ โดยหันมาสร้างการรับรู้และจดจำในสัญลักษณ์ Trusted by SYNNEX เพื่อเป็นสัญญลักษณ์การจัดจำหน่ายสินค้าที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน และการบริการหลังการขายที่ยอดเยี่ยม รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ มีผลให้ร้านค้าที่เป็นลูกค้าของบริษัทฯ สามารถจัดจำหน่ายสินค้าได้มากขึ้น ดังนั้น เมื่อรวมกับแผนการปรับลดต้นทุนที่ทำมาอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้ผลประกอบการมีแนวโน้มออกมาในทิศทางที่ดี โดยคาดว่ารายได้จะเติบโตได้ในอัตรา 10-15% ขึ้นสู่ระดับ 13,000 ล้านบาทได้สำเร็จ ซึ่งถือเป็นยอดขายที่บริษัทฯ ทำได้สูงสุดในรอบ 20 ปีที่ผ่านมา ซึ่งจะสะท้อนให้กำไรเติบโตในทิศทางเดียวกัน