xs
xsm
sm
md
lg

ERAเปิดตัว ‘รีจีนัลแฟรนไชส์’ ลุยบ้านตากอากาศดันยอดปี53

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“อีอาร์เอ แฟรนไชส์” เชื่อแนวโน้มเศรษฐกิจปี 53 ฟื้นตัวชัดเจน ชูโมเดลแฟรนไชส์ รุกธุรกิจ ลุยเปิดรีจีนัลแฟรนไชส์ บริการซื้อขายบ้านพักตากอากาศจับต่างชาติ ประเดิมพื้นที่พัทยา ต้นปีหน้า พร้อมเร่งขยายแฟรนไชส์ หลังลูกค้าโครงการฝากขายบ้านสูงสุดในรอบ 5 ปี ตั้งเป้ายอดขายปี 53 โตกว่า 50%

นายวรเดช ศิวเตชานนท์ ประธานบริหาร บริษัท อีอาร์เอ แฟรนไชส์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ ERA กล่าวว่า แนวโน้มเศรษฐกิจในปี53 ที่คาดการณ์ว่าจะฟื้นตัวอย่างชัดเจน ส่งผลต่อปัจจัยในการซื้อขายที่อยู่อาศัยและธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ประเภทบ้านมือสองที่คาดว่าจะเติบโตไม่ต่ำกว่า 10% เมื่อเทียบกับปี52 ที่มีมูลค่าตลาดรวมประมาณ 100,000ล้านบาท

ทั้งนี้ จากแนวโน้มดังกล่าว บริษัทฯมีแผนขยายธุรกิจแฟรนไชส์บริการซื้อ-ขาย-เช่าอสังหาริมทรัพย์มากขึ้น โดยจะเปิดสาขารีจีนัล (regional) แฟรนไชส์ ซึ่งเป็นแฟรนไชส์ของสำนักงานภาคในหัวเมืองใหญ่และแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญๆ โดยเตรียมเปิดตัวรีจีนัล แฟรนไชส์ สาขาแรกที่พัทยาในเดือนม.ค.ปี53 เพื่อให้บริการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ผ่านตัวแทนขายใน 5 จังหวัดใกล้เคียง โดยจะเน้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ประเภทบ้านเดี่ยวหลังที่ 2 หรือบ้านพักตากอากาศ ที่คาดว่าจะได้รับความสนใจจากลูกค้าที่มีกำลังซื้อในประเทศ และชาวต่างชาติที่พักอาศัยในไทย ร่วมถึงลูกค้าต่างชาติที่ต้องการซื้อบ้านเป็นของตัวเองตามแหล่งท่องเที่ยวสำคัญๆ

“เราจะใช้รูปแบบการประมูลบ้านผ่านตัวแทนนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ในการซื้อขายบ้านหลังที่ 2 ของบริษัทเนื่องจากมีเครือข่ายตัวแทนนายหน้าในต่างประเทศ เช่น อินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์ รวมถึงการใช้เครื่องมือทางการตลาดผ่านเว็บไซต์ ERATV.TV ทำให้โอกาสในการขายบ้านมีมากขึ้น”

นอกจากนี้ ยังมีแผนเปิดแฟรนไชส์ภายใต้ชื่อ ERA Home Base ที่ให้นายหน้าตัวแทนขายรายย่อยเริ่มต้นทำธุรกิจนายหน้าตัวแทนขายอสังหาริมทรัพย์ได้ โดยใช้ที่พักอาศัยเปิดเป็นสำนักงาน และใช้องค์ความรู้ของบริษัทฯ ในการทำธุรกิจนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งบริษัทฯ เรียกเก็บค่ารอยัลตี้ ฟีที่ 6% ในการทำธุรกิจ โดยคาดว่าภายในปี 53 จะมี ERA Home Base ประมาณ 20 ราย ขณะที่รูปแบบแฟรนไชส์ ERA Connect มีแผนจะขยายเพิ่มอีก 10 สาขา จากปัจจุบันมี 28 สาขา รวมถึงรูปแบบแฟรนไชส์รายบุคคล ที่เป็นสมาชิกขายบ้าน จะขยายเพิ่มอีก 1,000 คน จากปัจจุบันที่มี 1,635 คน

นายวรเดช กล่าวว่า แผนการขยายธุรกิจดังกล่าว รองรับกับแนวโน้มของลูกค้าที่มีความต้องการให้บริษัทฯ ทำหน้าที่ตัวแทนนายหน้าขายอสังหาริมทรัพย์ให้ ซึ่งมีมากกว่า 1,000 ราย สูงสุดในรอบ 5 ปี ขณะนี้มีผู้ประกอบการในโครงการอสังหาริมทรัพย์ทั้งรายเล็กและรายใหญ่สนใจให้บริษัทฯ ทำหน้าที่ขายอสังหาริมทรัพย์ให้ ส่งผลให้จำนวนอสังหาริมทรัพย์ที่ฝากขายผ่านบริษัทฯ เพิ่มขึ้นเป็น 12,000-13,000 ยูนิต โดยมีระดับราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 3-7 ล้านบาท แบ่งเป็นประเภทบ้านเดี่ยวคิดเป็น 35% คอนโดมิเนียม 35% และที่เหลืออีก 30% เป็นสินค้าประเภททาวน์เฮ้าส์และที่ดินเปล่า เมื่อเทียบกับปี 2552 ที่มี 8,000-10,000 ยูนิต

ทั้งนี้ คาดว่าจากปัจจัยบวกทางเศรษฐกิจและแผนดำเนินธุรกิจในปี 2553 ดังกล่าว จะช่วยเพิ่มโอกาสทางการขายและยอดขายของบริษัทฯ ให้เติบโตขึ้น 50% เมื่อเทียบกับปี 2552 ที่คาดว่าจะมียอดขาย 2,200 ล้านบาท หรือเพิ่มส่วนแบ่งตลาดในกลุ่มบ้านมือสองเป็น 8-10% จากเดิมที่มีส่วนแบ่งอยู่ที่ 3-5%
กำลังโหลดความคิดเห็น