ก.ล.ต.จัดสัมมนาเตรียมพร้อม บล.สู่มาตรฐานบัญชีสากล 24 พ.ย.นี้ เพื่อรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับอุปสรรคและปัญหา และนำไปเป็นแนวทางในการแก้ไขในครั้งต่อไป
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้จัดงานสัมมนา "การเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับมาตรฐานการบัญชีระหว่างประเทศ" ให้แก่บริษัทหลักทรัพย์และบริษัทที่ได้รับใบอนุญาตตัวแทนซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้า เพื่อให้ตระหนักและเตรียมความพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงอย่างมากของมาตรฐานการบัญชี โดยมีผู้สอบบัญชีรับอนุญาตจากบริษัท เอินส์ท แอนด์ ยัง จำกัด เป็นวิทยากรถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ในวันที่ 24 พฤศจิกายน 2552 นี้
หลังจากนั้น ก.ล.ต.จะรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับอุปสรรคและปัญหาในการเตรียมความพร้อมของผู้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ด้วยแบบสอบถาม เพื่อประโยชน์ในการวางแนวทางแก้ไขอุปสรรคและปัญหาต่อไป
ทั้งนี้ เป็นไปตามที่คณะกรรมการกำหนดมาตรฐานการบัญชีมีแผนการที่จะปรับปรุงมาตรฐานการบัญชีของไทยหลายฉบับ รวมทั้งจะมีการออกมาตรฐานการบัญชีและมาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับใหม่อีกหลายฉบับ เพื่อให้มาตรฐานของไทยมีหลักการและเนื้อหาสอดคล้องกับมาตรฐานการบัญชีสากล (International Financial Report Standard: IFRS/International Accounting Standard: IAS) โดยคาดว่ามาตรฐานการบัญชีของไทยที่แก้ไขและออกใหม่ดังกล่าวจะทยอยมีผลใช้บังคับตั้งแต่ปี 2554 ซึ่งแต่ละฉบับจะมีผลกระทบต่อระบบและวิธีการจัดเก็บข้อมูลเพื่อประกอบการบันทึกบัญชีของผู้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์มากน้อยแตกต่างกันไป
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้จัดงานสัมมนา "การเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับมาตรฐานการบัญชีระหว่างประเทศ" ให้แก่บริษัทหลักทรัพย์และบริษัทที่ได้รับใบอนุญาตตัวแทนซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้า เพื่อให้ตระหนักและเตรียมความพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงอย่างมากของมาตรฐานการบัญชี โดยมีผู้สอบบัญชีรับอนุญาตจากบริษัท เอินส์ท แอนด์ ยัง จำกัด เป็นวิทยากรถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ในวันที่ 24 พฤศจิกายน 2552 นี้
หลังจากนั้น ก.ล.ต.จะรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับอุปสรรคและปัญหาในการเตรียมความพร้อมของผู้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ด้วยแบบสอบถาม เพื่อประโยชน์ในการวางแนวทางแก้ไขอุปสรรคและปัญหาต่อไป
ทั้งนี้ เป็นไปตามที่คณะกรรมการกำหนดมาตรฐานการบัญชีมีแผนการที่จะปรับปรุงมาตรฐานการบัญชีของไทยหลายฉบับ รวมทั้งจะมีการออกมาตรฐานการบัญชีและมาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับใหม่อีกหลายฉบับ เพื่อให้มาตรฐานของไทยมีหลักการและเนื้อหาสอดคล้องกับมาตรฐานการบัญชีสากล (International Financial Report Standard: IFRS/International Accounting Standard: IAS) โดยคาดว่ามาตรฐานการบัญชีของไทยที่แก้ไขและออกใหม่ดังกล่าวจะทยอยมีผลใช้บังคับตั้งแต่ปี 2554 ซึ่งแต่ละฉบับจะมีผลกระทบต่อระบบและวิธีการจัดเก็บข้อมูลเพื่อประกอบการบันทึกบัญชีของผู้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์มากน้อยแตกต่างกันไป