ค่ายเอพีแจงไตรมาส 3 กำไรสุทธิลดลง 24.6% จาก452.50 ล้านบาทเหลือ 341.06 ล้านบาท เหตุยอดรับรู้รายได้คอนโดฯลดลง ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเพิ่ม 26.4% ด้านลลิล พร็อพเพอร์ตี้ฯ ขอกวาดยอดขายอย่างเงียบๆ
นายพิเชษฐ วิภวศุภกร กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เอเชี่ยน พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน)หรือ AP กล่าวถึงผลประกอบการในไตรมาส 3 ปี 52 ว่า (ก.ค.-ก.ย.) ว่า บริษัทฯมีรายได้จากการขาย 2,685.46 ล้านบาท รายได้จากค่าบริการ 32.24 ล้านบาท รวมรายได้ 2,729.69 ล้านบาท ขณะที่ในไตรมาสเดียวกันของปี 51 บริษัทฯมีรายได้ 2,708.75 ล้านบาท รายได้ค่าบริการ 22.63 ล้านบาท รวมรายได้ 2,740.14 ล้านบาท
ด้านค่าใช้จ่ายรวมไตรมาส 3 ปีนี้ อยู่ที่ 2,190.23 ล้านบาทเทียบกับไตรมาส 3 ปี 51 ที่ 2,073.68 ล้านบาท ส่งผลให้ในไตรมาสนี้ บริษัทมีกำไรสุทธิ 341.06 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 24.6 จากกำไรสุทธิในช่วงเดียวกันของปี 51 ที่ 452.50 ล้านบาท
โดยสาเหตุหลักที่ทำให้กำไรสุทธิลดลงมาจาก อัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทลดลงจากร้อยละ 34.3 ในไตรมาส 3 ปี51 เป็นร้อยละ 32.6 เนื่องจากการรับรู้รายได้จากโครงการคอนโดมิเนียมมีสัดส่วนลดลงจากร้อยละ 50 ของรายได้รวม เป็นร้อยละ 43 เท่านั้น ซึ่งโครงการคอนโดฯมีอัตรากำไรขั้นต้นสูงกว่าโครงการบ้านเดี่ยวและทาวเฮาส์
ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร เพิ่มขึ้น 26.4% จากงวดเดียวกันของปีก่อน มาอยู่ที่ 358.7 ล้านบาท เนื่องจากค่าโฆษณาที่เพิ่มขึ้นจากการเปิดโครงการคอนโดฯ จำนวน 4 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 10,500 ล้านบาท ในไตรมาส 3 ปี 52 โดยในไตรมาส 3 บริษัทสามารถทำยอดขายสำหรับ 4 โครงการนี้ ได้ทั้งสิ้น 6,700 ล้านบาท
บริษัท ลลิลพร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) มีกำไรสุทธิทั้งสิ้น 89.80 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 27.17 ล้านบาท หรือคิดเป็นการเพิ่มขึ้นร้อยละ 43.38 ทั้งนี้สาเหตุที่กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น มาจากรายได้จากการขายเท่ากับ 391.447 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 56.053 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 16.71
นายพิเชษฐ วิภวศุภกร กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เอเชี่ยน พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน)หรือ AP กล่าวถึงผลประกอบการในไตรมาส 3 ปี 52 ว่า (ก.ค.-ก.ย.) ว่า บริษัทฯมีรายได้จากการขาย 2,685.46 ล้านบาท รายได้จากค่าบริการ 32.24 ล้านบาท รวมรายได้ 2,729.69 ล้านบาท ขณะที่ในไตรมาสเดียวกันของปี 51 บริษัทฯมีรายได้ 2,708.75 ล้านบาท รายได้ค่าบริการ 22.63 ล้านบาท รวมรายได้ 2,740.14 ล้านบาท
ด้านค่าใช้จ่ายรวมไตรมาส 3 ปีนี้ อยู่ที่ 2,190.23 ล้านบาทเทียบกับไตรมาส 3 ปี 51 ที่ 2,073.68 ล้านบาท ส่งผลให้ในไตรมาสนี้ บริษัทมีกำไรสุทธิ 341.06 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 24.6 จากกำไรสุทธิในช่วงเดียวกันของปี 51 ที่ 452.50 ล้านบาท
โดยสาเหตุหลักที่ทำให้กำไรสุทธิลดลงมาจาก อัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทลดลงจากร้อยละ 34.3 ในไตรมาส 3 ปี51 เป็นร้อยละ 32.6 เนื่องจากการรับรู้รายได้จากโครงการคอนโดมิเนียมมีสัดส่วนลดลงจากร้อยละ 50 ของรายได้รวม เป็นร้อยละ 43 เท่านั้น ซึ่งโครงการคอนโดฯมีอัตรากำไรขั้นต้นสูงกว่าโครงการบ้านเดี่ยวและทาวเฮาส์
ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร เพิ่มขึ้น 26.4% จากงวดเดียวกันของปีก่อน มาอยู่ที่ 358.7 ล้านบาท เนื่องจากค่าโฆษณาที่เพิ่มขึ้นจากการเปิดโครงการคอนโดฯ จำนวน 4 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 10,500 ล้านบาท ในไตรมาส 3 ปี 52 โดยในไตรมาส 3 บริษัทสามารถทำยอดขายสำหรับ 4 โครงการนี้ ได้ทั้งสิ้น 6,700 ล้านบาท
บริษัท ลลิลพร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) มีกำไรสุทธิทั้งสิ้น 89.80 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 27.17 ล้านบาท หรือคิดเป็นการเพิ่มขึ้นร้อยละ 43.38 ทั้งนี้สาเหตุที่กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น มาจากรายได้จากการขายเท่ากับ 391.447 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 56.053 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 16.71