ตลาดหลักทรัพย์ฯ สั่ง เอส.อี.ซี. ออโต้เซลส์ แอนด์ เซอร์วิส ส่งงบไตรมาสแรกปีนี้ สิ้นสุด 31 มี.ค.52 ภายใน 10 พ.ค.นี้ หากพ้นเวลาอาจพิจารณาเพิกถอนหุ้นจากการเป็นบริษัทจดทะเบียน
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท. ) ได้ประกาศให้หลักทรัพย์ของบริษัท เอส.อี.ซี. ออโต้เซลส์ แอนด์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ SECC เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนเพิ่มเติม ตั้งแต่วันที่ 12 พฤศจิกายน 2552 เป็นต้นไป เนื่องจาก SECC ยังไม่ได้นำส่งงบการเงินไตรมาส 1 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2552 ซึ่งล่าช้า เกินกว่า 180 วัน จึงเป็นเหตุให้ SECC เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนเพิ่มเติมตามข้อบังคับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรื่องการเพิกถอนหลักทรัพย์จดทะเบียนพ.ศ.2542 และฉบับที่ 4 พ.ศ. 2549 ข้อ 9(3) และข้อ 9(5) และนโยบายการประกาศเข้าเกณฑ์อาจถูกเพิกถอนกรณีบริษัทจดทะเบียนนำส่งงบการเงินล่าช้าเกินกว่าที่กำหนด
โดยหาก SECC ยังคงไม่สามารถนำส่งงบการเงินดังกล่าวต่อตลาดหลักทรัพย์ได้ภายใน 180 วันนับจากวันประกาศเพิ่มเหตุ หรือภายในวันที่ 10 พฤษภาคม 2553 ตลาดหลักทรัพย์ อาจพิจารณาเพิกถอนหลักทรัพย์ของ SECC จากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน โดย SECC มีหน้าที่ดำเนินการแก้ไขเหตุแห่งการเพิกถอนตามแนวทางที่ตลาดหลักทรัพย์กำหนด เพื่อให้มีคุณสมบัติครบถ้วนในการเป็นบริษัทจดทะเบียน
อนึ่ง ตลาดหลักทรัพย์ได้เคยประกาศให้ SECC เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอน ดังนี้วันที่ 1 ก.ย. 52 บริษัทยังไม่นำส่งงบการเงินประจำปี สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2551 ซึ่งล่าช้าเกินกว่า 180 วัน และเมื่อ 22 ตุลาคม 2552 งบการเงินประจำปี สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2551 ปรากฎส่วนของผู้ถือหุ้นมีค่าน้อยกว่าศูนย์
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท. ) ได้ประกาศให้หลักทรัพย์ของบริษัท เอส.อี.ซี. ออโต้เซลส์ แอนด์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ SECC เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนเพิ่มเติม ตั้งแต่วันที่ 12 พฤศจิกายน 2552 เป็นต้นไป เนื่องจาก SECC ยังไม่ได้นำส่งงบการเงินไตรมาส 1 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2552 ซึ่งล่าช้า เกินกว่า 180 วัน จึงเป็นเหตุให้ SECC เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนเพิ่มเติมตามข้อบังคับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรื่องการเพิกถอนหลักทรัพย์จดทะเบียนพ.ศ.2542 และฉบับที่ 4 พ.ศ. 2549 ข้อ 9(3) และข้อ 9(5) และนโยบายการประกาศเข้าเกณฑ์อาจถูกเพิกถอนกรณีบริษัทจดทะเบียนนำส่งงบการเงินล่าช้าเกินกว่าที่กำหนด
โดยหาก SECC ยังคงไม่สามารถนำส่งงบการเงินดังกล่าวต่อตลาดหลักทรัพย์ได้ภายใน 180 วันนับจากวันประกาศเพิ่มเหตุ หรือภายในวันที่ 10 พฤษภาคม 2553 ตลาดหลักทรัพย์ อาจพิจารณาเพิกถอนหลักทรัพย์ของ SECC จากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน โดย SECC มีหน้าที่ดำเนินการแก้ไขเหตุแห่งการเพิกถอนตามแนวทางที่ตลาดหลักทรัพย์กำหนด เพื่อให้มีคุณสมบัติครบถ้วนในการเป็นบริษัทจดทะเบียน
อนึ่ง ตลาดหลักทรัพย์ได้เคยประกาศให้ SECC เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอน ดังนี้วันที่ 1 ก.ย. 52 บริษัทยังไม่นำส่งงบการเงินประจำปี สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2551 ซึ่งล่าช้าเกินกว่า 180 วัน และเมื่อ 22 ตุลาคม 2552 งบการเงินประจำปี สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2551 ปรากฎส่วนของผู้ถือหุ้นมีค่าน้อยกว่าศูนย์