อะโกร อินดัสเตรียล แมชชีนเนอรี่ แจงหยุดหน่วยงานประกอบเครื่องยนต์ดีเซลชั่วคราวไม่กระทบ เร่งทวนแผนการผลิตเพื่อลดต้นทุนและแข่งขันได้ เผยค้าเหล็กเชิงพาณิชย์คาดดำเนินการได้ พ.ย.ปีนี้ พร้อมตั้ง บริษัทย่อยใหม่เพื่อแยกหน่วยธุรกิจอย่างชัดเจน
นายสุทธิศักดิ์ โล่ห์สวัสดิ์ กรรมการ บริษัท อะโกร อินดัสเตรียล แมชชีนเนอรี่ จำกัด (มหาชน) (AMAC ) แจ้งมติที่ประชุมประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 9/2552 เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2552 ว่าบริษัทฯ ยังคงหยุดหน่วยงานบางส่วนของสายงานการประกอบเครื่องยนต์ดีเซลต่อเป็นการชั่วคราว ขณะบริษัทฯ มีสินค้าคงคลังเพียงพอสำหรับการจำหน่ายภายในปี 2552 จึงไม่ส่งผลกระทบต่อการจัดจำหน่ายสินค้าตามปกติของบริษัทฯ
ทั้งนี้ บริษัทฯ อยู่ระหว่างการทบทวนแผนงาน การผลิตเครื่องยนต์ดีเซล เพื่อหาแนวทางในการลดต้นทุนการผลิตเพื่อให้สามารถแข่งขันต่อไปได้ในทางธุรกิจ พร้อมเผยว่าการประกอบธุรกิจการค้าเหล็กเชิงพาณิชย์ บริษัทฯ คาดว่าจะสามารถดำเนินการได้ภายในเดือนพฤศจิกายน 2552 ซึ่งจะดำเนินธุรกิจควบคู่ไปกับธุรกิจการค้าเครื่องจักรกลทางการเกษตร
นอกจากนี้ บอร์ดยกเลิกมติการจัดตั้งบริษัทย่อย "บริษัท เอแมค แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด" ตามที่บริษัทฯ ได้แจ้งไปก่อนหน้านี้แล้วซึ่งการยกเลิกดังกล่าว ไม่มีผลกระทบต่อการดำเนินงานของบริษัทฯ เนื่องจากสถานะปัจจุบันยังไม่ได้มีการดำเนินการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทฯ แต่อย่างใด และตามที่ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2552 เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2552 มีมติให้ขยายขอบเขตการดำเนินธุรกิจค้าเหล็กนั้น คณะกรรมการบริษัทฯ เห็นว่า การแยกหน่วยธุรกิจค้าเหล็กและหน่วยธุรกิจเครื่องจักรกลทางการเกษตรให้เป็นอิสระจากกันจะทำให้ เกิดความคล่องตัวในการดำเนินธุรกิจ และสามารถประเมินประสิทธิภาพการบริหารธุรกิจได้อย่างชัดเจน
ดังนั้น บอร์ดจึงอนุมัติให้ตั้งบริษัทย่อยใหม่ คือ บริษัท เอแมค จำกัด ( อยู่ระหว่างการจองชื่อ) พร้อมเข้าถือหุ้น 99.99 % เพื่อประกอบธุรกิจการค้าเครื่องจักรกลทางการเกษตร (ขณะที่บริษัทยังคงป็นผู้ผลิตเครื่องจักรกลทางการเกษตรและซื้อมาขายไปสินค้าเหล็ก ) มีทุนจดทะเบียน 1,000,000 บาท แบ่งเป็นจำนวนหุ้น 1,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์)หุ้นละ 1 บาท และชำระแล้วทั้งจำนวน ซึ่้งการจัดตั้งบริษัทดังกล่าวเพื่อแยกหน่วยธุรกิจเครื่องจักรกลทางการเกษตร โดยใช้เงินทุนหมุนเวียนของบริษัท
สำหรับ รายการดังกล่าวไม่เข้าข่ายต้องดำเนินการตามประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุนเรื่องหลักเกณฑ์ในการทำรายการที่มีนัยสำคัญที่เข้าข่ายเป็นการได้มาและจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์และหลักเกณฑ์ในการทำรายการเกี่ยวโยงกัน
นายสุทธิศักดิ์ โล่ห์สวัสดิ์ กรรมการ บริษัท อะโกร อินดัสเตรียล แมชชีนเนอรี่ จำกัด (มหาชน) (AMAC ) แจ้งมติที่ประชุมประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 9/2552 เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2552 ว่าบริษัทฯ ยังคงหยุดหน่วยงานบางส่วนของสายงานการประกอบเครื่องยนต์ดีเซลต่อเป็นการชั่วคราว ขณะบริษัทฯ มีสินค้าคงคลังเพียงพอสำหรับการจำหน่ายภายในปี 2552 จึงไม่ส่งผลกระทบต่อการจัดจำหน่ายสินค้าตามปกติของบริษัทฯ
ทั้งนี้ บริษัทฯ อยู่ระหว่างการทบทวนแผนงาน การผลิตเครื่องยนต์ดีเซล เพื่อหาแนวทางในการลดต้นทุนการผลิตเพื่อให้สามารถแข่งขันต่อไปได้ในทางธุรกิจ พร้อมเผยว่าการประกอบธุรกิจการค้าเหล็กเชิงพาณิชย์ บริษัทฯ คาดว่าจะสามารถดำเนินการได้ภายในเดือนพฤศจิกายน 2552 ซึ่งจะดำเนินธุรกิจควบคู่ไปกับธุรกิจการค้าเครื่องจักรกลทางการเกษตร
นอกจากนี้ บอร์ดยกเลิกมติการจัดตั้งบริษัทย่อย "บริษัท เอแมค แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด" ตามที่บริษัทฯ ได้แจ้งไปก่อนหน้านี้แล้วซึ่งการยกเลิกดังกล่าว ไม่มีผลกระทบต่อการดำเนินงานของบริษัทฯ เนื่องจากสถานะปัจจุบันยังไม่ได้มีการดำเนินการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทฯ แต่อย่างใด และตามที่ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2552 เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2552 มีมติให้ขยายขอบเขตการดำเนินธุรกิจค้าเหล็กนั้น คณะกรรมการบริษัทฯ เห็นว่า การแยกหน่วยธุรกิจค้าเหล็กและหน่วยธุรกิจเครื่องจักรกลทางการเกษตรให้เป็นอิสระจากกันจะทำให้ เกิดความคล่องตัวในการดำเนินธุรกิจ และสามารถประเมินประสิทธิภาพการบริหารธุรกิจได้อย่างชัดเจน
ดังนั้น บอร์ดจึงอนุมัติให้ตั้งบริษัทย่อยใหม่ คือ บริษัท เอแมค จำกัด ( อยู่ระหว่างการจองชื่อ) พร้อมเข้าถือหุ้น 99.99 % เพื่อประกอบธุรกิจการค้าเครื่องจักรกลทางการเกษตร (ขณะที่บริษัทยังคงป็นผู้ผลิตเครื่องจักรกลทางการเกษตรและซื้อมาขายไปสินค้าเหล็ก ) มีทุนจดทะเบียน 1,000,000 บาท แบ่งเป็นจำนวนหุ้น 1,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์)หุ้นละ 1 บาท และชำระแล้วทั้งจำนวน ซึ่้งการจัดตั้งบริษัทดังกล่าวเพื่อแยกหน่วยธุรกิจเครื่องจักรกลทางการเกษตร โดยใช้เงินทุนหมุนเวียนของบริษัท
สำหรับ รายการดังกล่าวไม่เข้าข่ายต้องดำเนินการตามประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุนเรื่องหลักเกณฑ์ในการทำรายการที่มีนัยสำคัญที่เข้าข่ายเป็นการได้มาและจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์และหลักเกณฑ์ในการทำรายการเกี่ยวโยงกัน