รัฐบาลเตรียมอัดงบไทยเข้มแข็ง 300 ล้านบาท เยียวยาปัญหาชาวบ้านมาบตาพุด เตรียมขยายขนาดโรงพยาบาลเป็น 200 เตียง รองรับผู้เจ็บป่วย พร้อมแจงการดำเนินการตรงนี้ต้องไม่ใช้กระบวนการปกติในการแก้ไขปัญหา เพราะในพื้นที่มาบตาพุดมีประชากรแฝงมาก งบท้องถิ่นไม่เพียงพอกับการแก้ไขปัญหาได้
นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีที่ศาลปกครองสั่งระงับโครงการลงทุนในพื้นที่มาบตาพุด จังหวัดระยอง 76 โครงการ โดยระบุว่า ระหว่างที่รอการตัดสินของศาลปกครอง รัฐบาลต้องแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการลงทุน ในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดควบคู่ไปด้วย โดยจะเร่งดำเนินการคือ โรงพยาบาลที่เดิมได้มีการอนุมัติให้มีการขยายเตียงคนไข้เป็น 120 เตียงเมื่อ 4 ปีที่แล้ว แต่การดำเนินงานล่าช้า เพิ่งเซ็นสัญญาก่อสร้างเมื่อ 2 เดือนที่แล้ว
ดังนั้น รัฐบาลจึงมีความเห็นว่าควรจะมีการขยายเตียงในโรงพยาบาลเพิ่มเป็น 200 เตียง โดยใช้งบประมาณจากโครงการไทยเข้มแข็ง รวมทั้งต้องเร่งแก้ไขปัญหาขยะในเทศบาลมาบตาพุดเป็นการเร่งด่วน โดยจะนำงบประมาณจากโครงการไทยเข้มแข็งจำนวน 300 ล้านบาท ให้กับผู้ว่าราชการจังหวัดนำไปดำเนินการ
สำหรับเรื่องทางคดีที่อยู่ในศาลคงต้องปล่อยให้เดินไปตามกระบวนการ สิ่งที่รัฐบาลต้องทำควบคู่กันคือการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนให้เป็นรูปธรรม ซึ่งการดำเนินการตรงนี้ต้องไม่ใช้กระบวนการปกติในการแก้ไขปัญหา เพราะในพื้นที่มาบตาพุดมีประชากรแฝงมาก งบท้องถิ่นไม่เพียงพอกับการแก้ไขปัญหาได้
นายกอร์ปศักดิ์ กล่าวว่า ส่วนการสร้างความมั่นใจให้กับเอกชนในเรื่องการลงทุนนั้นคงต้องปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการ แต่สิ่งสำคัญคือต้องทำอะไรที่แก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้านควบคู่ไปด้วย
นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีที่ศาลปกครองสั่งระงับโครงการลงทุนในพื้นที่มาบตาพุด จังหวัดระยอง 76 โครงการ โดยระบุว่า ระหว่างที่รอการตัดสินของศาลปกครอง รัฐบาลต้องแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการลงทุน ในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดควบคู่ไปด้วย โดยจะเร่งดำเนินการคือ โรงพยาบาลที่เดิมได้มีการอนุมัติให้มีการขยายเตียงคนไข้เป็น 120 เตียงเมื่อ 4 ปีที่แล้ว แต่การดำเนินงานล่าช้า เพิ่งเซ็นสัญญาก่อสร้างเมื่อ 2 เดือนที่แล้ว
ดังนั้น รัฐบาลจึงมีความเห็นว่าควรจะมีการขยายเตียงในโรงพยาบาลเพิ่มเป็น 200 เตียง โดยใช้งบประมาณจากโครงการไทยเข้มแข็ง รวมทั้งต้องเร่งแก้ไขปัญหาขยะในเทศบาลมาบตาพุดเป็นการเร่งด่วน โดยจะนำงบประมาณจากโครงการไทยเข้มแข็งจำนวน 300 ล้านบาท ให้กับผู้ว่าราชการจังหวัดนำไปดำเนินการ
สำหรับเรื่องทางคดีที่อยู่ในศาลคงต้องปล่อยให้เดินไปตามกระบวนการ สิ่งที่รัฐบาลต้องทำควบคู่กันคือการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนให้เป็นรูปธรรม ซึ่งการดำเนินการตรงนี้ต้องไม่ใช้กระบวนการปกติในการแก้ไขปัญหา เพราะในพื้นที่มาบตาพุดมีประชากรแฝงมาก งบท้องถิ่นไม่เพียงพอกับการแก้ไขปัญหาได้
นายกอร์ปศักดิ์ กล่าวว่า ส่วนการสร้างความมั่นใจให้กับเอกชนในเรื่องการลงทุนนั้นคงต้องปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการ แต่สิ่งสำคัญคือต้องทำอะไรที่แก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้านควบคู่ไปด้วย
