เกียรติธนา เล็งดึงกองทุนเข้าถือหุ้นเพิ่มเสถียรภาพหนุนราคา กำหนดช่วงราคาหุ้น 4.50-4.80 บาท เตรียมสรุปต้น ก.ย. เปิดจองซื้อหุ้น 10-11 ก.ย. เข้าเทรด 18 ก.ย. ด้านผู้บริหารเผยแผนขยายตลาดต่างประเทศมากขึ้น –เตรียมประมูลงานใหม่ เชื่อดันรายได้ปีหน้าก้าวกระโดด
นายวิชา โตมานะ หัวหน้าฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.)ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)ในฐานะที่ปรึกษทางการเงิน บริษัท เกียรติธนา ขนส่ง จำกัด (มหาชน)หรือ KIAT เปิดเผยว่า บริษัทกำหนดช่วงราคาเสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO)ที่ 4.50-4.80 บาทต่อหุ้น ซึ่งจะสรุปราคาซื้อขายได้ต้นเดือนกันยายน หลังจากได้สำรวจความสนใจจองซื้อหุ้น (บุ๊คบิว)กับนักลงทุนทั่วไป และนักลงทุนสถาบัน โดยขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการนัดเข้าพบกองทุนต่างๆ
สำหรับการกำหนดช่วงราคาหุ้นที่ 4.50-4.80 บาทต่อหุ้นนั้นถือว่าเป็นราคาที่ไม่แพง หากพิจารณาจากกำไรสุทธิของเกียรติธนาและฐานเงินทุน จะมีค่าP/E ที่ 7 เท่า ขณะที่เทียบกับบริษัทที่เข้าจดทะเบียนและทำธุรกิจใกล้เคียงกับเกียรติธนามีค่า P/E ที่ 11 เท่า และจากบทวิเคราะห์ของบริษัทได้ประเมินราคาหุ้นเหมาะสมที่ระดับ 6 บาท ซึ่งให้ส่วนลดแก่นักลงทุน 25-30%
ทั้งนี้บริษัทจะเปิดให้นักลงทุนจองซื้อหุ้นระหว่างวันที่ 10-11 กันยายน จำนวน 40 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์)หุ้นละ 1 บาท และจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ (mai) 18 กันยายนนี้ โดยบริษัทจะแต่งตั้งผู้จัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่าย 4 ราย คือ บล.ฟินันเซีย ไซรัส บล.คันทรี่ กรุ๊ป บล.เคทีซีมิโก้ และ บล.โกลเบล็ก
" การเสนอขายหุ้นเกียรติธนา ขนส่งบริษัทได้มีการติดต่อไปยังกองทุนว่ามีความสนใจในการเข้ามาจองซื้อหุ้นหรือไม่ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างที่จะไปโรดโชว์กับกองทุน ว่าสนใจซื้อราคาระดับใดเพื่อทำบุ๊คบิว โดยการที่ บริษัทอยากจัดสรรหุ้นให้เพื่อที่จะทำให้ฐานนักลงทุนมีความหลากหลายและช่วยทำให้ราคาหุ้นมีเสถียรภาพ แต่ยังไม่ได้แบ่งสัดส่วนการขายหุ้นต้องรอดูความสนใจของกองทุนก่อน " นายวิชา กล่าว
นายเกียรติชัย มนต์เสรีนุสรณ์ กรรมการผู้จัดการ KIAT กล่าวว่า เงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้จะนำไปซื้อรถในการขนส่งสินค้าเพิ่ม จากปัจจุบันที่มี 300 คน เพื่อขยายฐานลูกค้าไปยังต่างประเทศมากขึ้น เช่น ลาว กัมพูชา เวียดนาม มาเลเซีย เพราะ บริษัทมีพันธมิตรอยู่ประเทศดังกล่าวแล้ว โดยคาดว่าจะเริ่มขยายตลาดต่างประเทศได้ปีหน้า จากปัจจุบันขนส่งที่ลาวและขยายการให้บริการขนส่งปิโตรเคมีที่นิคมุตสาหกรรม มาบตาพุดมากขึ้น
นอกจากนี้บริษัทมีแผนที่จะเข้าประมูลงานขนส่งสินค้าเชื้อเพลง พลังงาน สารเคมี และวัตถุอันตราย ให้กับธุรกิจและอุตสาหกรรมในประเทศมากขึ้น โดยจะทำให้รายได้ของบริษัทในปีหน้ามีการเติบโตแบบก้าวกระโดดจากปกติทุกปีบริษัทจะมีการการเติบโตของรายได้และกำไรเฉลี่ยที่ 10% ซึ่งครึ่งปีแรกปีนี้บริษัทมีรายได้ 255.92 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 60.87 ล้านบาท และบริษัทคาดว่าช่วงครึ่งปีหลังจะมีรายได้และกำไรไม่น้อยกว่าครึ่งปีแรก ขณะปี 2551 มีรายได้ 481.20 ล้านบาท เพิ่มขึ้น12.82% จากปี 2550 ที่มีรายได้ 426.50 ล้านบาท
นายวิชา โตมานะ หัวหน้าฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.)ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)ในฐานะที่ปรึกษทางการเงิน บริษัท เกียรติธนา ขนส่ง จำกัด (มหาชน)หรือ KIAT เปิดเผยว่า บริษัทกำหนดช่วงราคาเสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO)ที่ 4.50-4.80 บาทต่อหุ้น ซึ่งจะสรุปราคาซื้อขายได้ต้นเดือนกันยายน หลังจากได้สำรวจความสนใจจองซื้อหุ้น (บุ๊คบิว)กับนักลงทุนทั่วไป และนักลงทุนสถาบัน โดยขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการนัดเข้าพบกองทุนต่างๆ
สำหรับการกำหนดช่วงราคาหุ้นที่ 4.50-4.80 บาทต่อหุ้นนั้นถือว่าเป็นราคาที่ไม่แพง หากพิจารณาจากกำไรสุทธิของเกียรติธนาและฐานเงินทุน จะมีค่าP/E ที่ 7 เท่า ขณะที่เทียบกับบริษัทที่เข้าจดทะเบียนและทำธุรกิจใกล้เคียงกับเกียรติธนามีค่า P/E ที่ 11 เท่า และจากบทวิเคราะห์ของบริษัทได้ประเมินราคาหุ้นเหมาะสมที่ระดับ 6 บาท ซึ่งให้ส่วนลดแก่นักลงทุน 25-30%
ทั้งนี้บริษัทจะเปิดให้นักลงทุนจองซื้อหุ้นระหว่างวันที่ 10-11 กันยายน จำนวน 40 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์)หุ้นละ 1 บาท และจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ (mai) 18 กันยายนนี้ โดยบริษัทจะแต่งตั้งผู้จัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่าย 4 ราย คือ บล.ฟินันเซีย ไซรัส บล.คันทรี่ กรุ๊ป บล.เคทีซีมิโก้ และ บล.โกลเบล็ก
" การเสนอขายหุ้นเกียรติธนา ขนส่งบริษัทได้มีการติดต่อไปยังกองทุนว่ามีความสนใจในการเข้ามาจองซื้อหุ้นหรือไม่ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างที่จะไปโรดโชว์กับกองทุน ว่าสนใจซื้อราคาระดับใดเพื่อทำบุ๊คบิว โดยการที่ บริษัทอยากจัดสรรหุ้นให้เพื่อที่จะทำให้ฐานนักลงทุนมีความหลากหลายและช่วยทำให้ราคาหุ้นมีเสถียรภาพ แต่ยังไม่ได้แบ่งสัดส่วนการขายหุ้นต้องรอดูความสนใจของกองทุนก่อน " นายวิชา กล่าว
นายเกียรติชัย มนต์เสรีนุสรณ์ กรรมการผู้จัดการ KIAT กล่าวว่า เงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้จะนำไปซื้อรถในการขนส่งสินค้าเพิ่ม จากปัจจุบันที่มี 300 คน เพื่อขยายฐานลูกค้าไปยังต่างประเทศมากขึ้น เช่น ลาว กัมพูชา เวียดนาม มาเลเซีย เพราะ บริษัทมีพันธมิตรอยู่ประเทศดังกล่าวแล้ว โดยคาดว่าจะเริ่มขยายตลาดต่างประเทศได้ปีหน้า จากปัจจุบันขนส่งที่ลาวและขยายการให้บริการขนส่งปิโตรเคมีที่นิคมุตสาหกรรม มาบตาพุดมากขึ้น
นอกจากนี้บริษัทมีแผนที่จะเข้าประมูลงานขนส่งสินค้าเชื้อเพลง พลังงาน สารเคมี และวัตถุอันตราย ให้กับธุรกิจและอุตสาหกรรมในประเทศมากขึ้น โดยจะทำให้รายได้ของบริษัทในปีหน้ามีการเติบโตแบบก้าวกระโดดจากปกติทุกปีบริษัทจะมีการการเติบโตของรายได้และกำไรเฉลี่ยที่ 10% ซึ่งครึ่งปีแรกปีนี้บริษัทมีรายได้ 255.92 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 60.87 ล้านบาท และบริษัทคาดว่าช่วงครึ่งปีหลังจะมีรายได้และกำไรไม่น้อยกว่าครึ่งปีแรก ขณะปี 2551 มีรายได้ 481.20 ล้านบาท เพิ่มขึ้น12.82% จากปี 2550 ที่มีรายได้ 426.50 ล้านบาท