กองสลากฯ เร่งแก้ปัญหาเรื้อรัง “สลากกินแบ่งฯ” ราคาแพง เตรียมปรับวิธีการขายส่งใหม่อีกครั้ง หลังมาตรการเลื่อนวันออกรางวัล 1 วัน ไม่เห็นผล ขณะที่การพิมพ์สลากการกุศลเพิ่ม 4 ล้านฉบับ อยู่ระหว่างรอ 27 องค์กรการกุศล ยื่นโควตาเข้ามา คาดแล้วเสร็จ ต.ค.-พ.ย.นี้ ขณะที่การพิพม์เพิ่มทั่วไป 10 ล้านฉบับ ยังไม่มีข้อสรุป
นายวันชัย สุระกุล ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า จากปัญหาสลากเกินราคา ได้มีแนวทางในการจัดพิมพ์สลาก เพิ่มให้กับองค์การทหารผ่านศึก ซึ่งคณะกรรมการชุดที่ผ่านมาได้อนุมัติในหลักการไว้แล้ว สำนักงานสลากฯ กำลังเร่งจัดทำรายละเอียด เมื่อสรุปได้แล้วเสร็จจะนำเสนอต่อคณะกรรมการสำนักงานสลากฯ ชุดปัจจุบันให้เร็วที่สุด ส่วนการขออนุมัติพิมพ์สลากฯ เพิ่มอีก 10 ล้านฉบับสำหรับบุคคลทั่วไป ต้องรอให้คณะกรรมการสลากฯ พิจารณารายละเอียดอีกครั้งด้วยเช่นกัน
รายงานข่าวจากกรรมการสำนักงานสลากฯ เปิดเผยว่า การเพิ่มสลากการกุศลอีก 4 ล้านฉบับ ต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง เนื่องจากเป็นโควตาในส่วนขององค์กรการกุศล ทำให้ 27 องค์กรสามารถมาขอโควตาในส่วนนี้ได้ ดังนั้นสำนักงานสลากฯ จึงต้องส่งหนังสือไปยังองค์กรเหล่านี้ เพื่อทราบคำตอบกลับมาให้เรียบร้อยก่อน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาร้องเรียนมาภายหลัง เมื่อสำนักงานสลากฯ ต้องการพิมพ์สลากฯ เพิ่มอีก 4 ล้านฉบับ แต่องค์การทหารผ่านศึกและสมาคมทหารผ่านศึกได้ขอมา 2.5 ล้านฉบับ ดังนั้น จึงต้องรอให้องค์กรการกุศล มูลนิธิต่างๆ ขอโควตาเข้ามาให้ครบ 4 ล้านฉบับก่อน จากนั้นจึงนำเรื่องเสนอให้คณะกรรมการสลากฯ พิจารณาได้ คาดว่า จะแล้วเสร็จและพิมพ์สลากออกขายได้ในงวดเดือนตุลาคม-พฤษจิกายน 2552 นี้
รายงานข่าวแจ้งเพิ่มเติมว่า ส่วนการแก้ปัญหาสลากราคาแพงด้วยการเลื่อนวันขายสลากกินแบ่งช้าออกไปจากปกติอีก 1 วันนั้น ได้ผลแค่งวดแรกที่ผ่านมาเท่านั้น แต่ในงวดถัดมาไม่ได้ผลเท่าที่ควร และยังทำให้สลากฯ มีราคาสูงขึ้นกว่าเดิมอีก เพราะผู้ประกอบการมีต้นทุนเพิ่มขึ้น สำนักงานสลากฯ จึงต้องหาแนวทางแก้ปัญหาดังกล่าวใหม่ต่อไปแล้ว โดยอาจจะให้ปรับวิธีการขายใหม่ อาทิ ขยายระยะเวลาการขายให้มีหลาย ๆ วัน เพื่อให้การเดินทางมาซื้อของผู้ซื้อแต่ละรายไม่ตรงกัน แต่ทั้งนี้ยังไม่มีข้อสรุปที่จัดเจน เพราะยังมีเวลาดำเนินการอีกระยะหนึ่งก่อนที่จะเริ่มขายในงวดถัดไป
เนื่องจากกลุ่มพ่อค้าคนกลางได้พลิกสถานการณ์ ด้วยการระดมว่าจ้างกลุ่มบุคคลจำนวนมาก ให้มารวมชุดเข้าเล่มให้แล้วเสร็จภายในคืนเดียว เพื่อให้ส่งออกไปขายตามพื้นที่ต่างๆ ได้ทันตามกำหนดเวลาเดิม อีกทั้งยังส่งผลให้กลุ่มคนที่ต้องการเข้ามาซื้อสลากฯ กับกองสลากฯ ต้องเร่งเดินทางมารอซื้อเร็วขึ้นกว่าเดิม ซึ่งทำให้มีต้นทุนเพิ่มขึ้น ทั้งการว่าจ้างบุคคลมารวมเล่มให้แล้วเสร็จภายในคืนเดียว การเสียค่าใช้จ่ายในการเดินทางมาค้างแรมที่กทม.ก่อนปกติอีก 1 คืน เป็นต้น