ภาคอุตสาหกรรม โคม่าหนัก-ขาดสภาพคล่อง ส.อ.ท.ยอมรับ สมาชิกยื่นขอกู้เงินในโครงการเงินกู้ SME BANK แล้วจำนวน 4 รอบ รวม 128 ราย เป็นวงเงิน 4 พันล้าน แต่มีผู้กู้ผ่านเพียง 3 ราย คิดเป็นวงเงิน 63 ล้านเท่านั้น ขณะที่ความต้องการสินเชื่อในภาคอุตสาหกรรมทั้งระบบ มีสูงถึง 1 แสนล้านบาท
นายสมมาตร ขุนเศรษฐ เลขานุการสายงานสภาอุตสาหกรรมจังหวัด กล่าวภายหลังการหารือกับสมาชิกสภาอุตสาหกรรมทั่วประเทศ (ส.อ.ท.) โดยระบุว่า ผู้ประกอบการต้องการให้สถาบันการเงินของภาครัฐปล่อยสินเชื่อเพิ่มขึ้น เนื่องจากปัจจุบันผู้ประกอบการทุกภาคส่วน ยังประสบปัญหาการขาดสภาพคล่อง หลังสถาบันการเงินไม่ยอมปล่อยสินเชื่อ
นายสมมาตร กล่าวเพิ่มเติมว่า นับตั้งแต่เดือนมีนาคม-กรกฎาคม 2552 ที่ผ่านมา มีสมาชิกของสภาอุตสาหกรรมยื่นขอกู้เงินในโครงการเงินกู้ SME BANK แล้ว จำนวน 4 รอบ รวม 128 ราย เป็นวงเงิน 4,000 ล้านบาท ซึ่งที่ผ่านมามีความคืบหน้าว่ามีผู้กู้ผ่านเพียง 3 ราย คิดเป็นวงเงิน 63 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยังพบว่า สถาบันการเงินอื่นๆ ไม่ยอมปล่อยสินเชื่อให้เช่นกัน โดยระบุว่า ผู้ขอกู้มีหลักประกันไม่เพียงพอ เนื่องจากเป็นการกู้รอบที่ 2 อีกทั้งขั้นตอนในการขออนุมัติมีความล่าช้ามาก โดยบางสถาบันการเงินมีรายชื่อธุรกิจที่มีความเสี่ยงในการประกอบอาชีพ อาทิ ธุรกิจสิ่งทอและเสื้อผ้า ที่จะไม่ยอมอนุมัติเงินกู้ให้กับธุรกิจประเภทดังกล่าว
ขณะเดียวกัน สถาบันการเงินยังชะลอเวลาด้วยวิธีการขอข้อมูลต่างๆ เพิ่มเติม รวมทั้งอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ยังอยู่ในระดับสูงไม่แตกต่างจากสถาบันการเงินทั่วไป ส่งผลให้ผู้ประกอบการมีปัญหาทางด้านสภาพคล่อง ซึ่งพบว่าความต้องการสินเชื่อในภาคอุตสาหกรรมทั้งระบบมีอยู่ประมาณ 1 แสนล้านบาท
ดังนั้น ทางสภาอุตสาหกรรมจะทำการเสนอรัฐบาลถึงการฟื้นการจัดตั้งธนาคารเพื่อการอุตสาหกรรม สำหรับดูแลการปล่อยสินเชื่อภาคอุตสาหกรรม และเพื่อให้ผู้ประกอบการเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้มากขึ้น