อสังหาฯ รายใหญ่ประกาศยอดขายครึ่งปีแรกทะลุเป้า แสนสิริโชว์ยอดขาย 9,200 ล้านบาท ลุยปรับแผนเปิดโครงการใหม่ 19 โครงการ จากเดิม 16 โครงการ แจงยอดแบล็กล็อคตุนในมือ 18,000 ล้านบาท ด้านเอพีระบุสถานการณ์ตลาดไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด ผู้บริโภคกล้าตัดสินใจซื้อมากขึ้น ครึ่งปีกวาดยอดขาย 5,243 ล้านบาท ส่วนมั่นคงเคหะการทำยอดได้ 41% ของเป้าทั้งปี
นายเศรษฐา ทวีสิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แผนการดำเนินธุรกิจของกลุ่มบริษัทแสนสิริในช่วงครึ่งแรกของปี 2552 ประสบความสำเร็จอย่างมาก โดยสามารถสร้างยอดขายโครงการที่อยู่อาศัยในช่วงไตรมาสแรกมูลค่ารวมกว่า 6,100 ล้านบาท ส่วนไตรมาส 2 ยอดขาย 3,100 ล้านบาท ทำให้สามารถสร้างยอดขายรวมในช่วงครึ่งปีแรกประมาณ 9,200 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็น 55% ของยอดขายทั้งปีจากที่วางเป้าหมายไว้ที่ประมาณ 17,000 ล้านบาท จึงเชื่อมั่นว่ากลุ่มแสนสิริจะสามารถสร้างยอดขายปี 52 ได้ตามเป้าหมายอย่างแน่นอน
นอกจากนี้ กลุ่มแสนสิริ มียอดขายที่รอรับรู้รายได้ (Pre-sale backlog) จากโครงการที่อยู่อาศัยต่างๆ โดยเฉพาะโครงการคอนโดมิเนียม เป็นมูลค่ากว่า 18,000 ล้านบาท ในจำนวนนี้จะรับรู้รายได้ในปีนี้ 14,300 ล้านบาท หรือคิดเป็น 87% ของเป้าหมายการขาย ส่วนที่เหลือจะทยอยรับรู้รายได้ภายใน 1-3 ปี
ในขณะที่แผนการดำเนินธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลังนี้ จะมีการขยายโครงการที่อยู่อาศัยใหม่ๆ อีกประมาณ 8 โครงการ ทั้งคอนโดมิเนียม บ้านเดี่ยว และทาวน์เฮาส์ เพื่อรองรับความต้องการของกลุ่มลูกค้าทุกเซกเมนต์ โดยมีมูลค่าโครงการขายรวม 7,600 ล้านบาท
“ที่ผ่านมาการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยของกลุ่มแสนสิริประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก โดยปัจจัยที่สนับสนุนให้กลุ่มบริษัทแสนสิริประสบความสำเร็จด้านการขายโครงการที่อยู่อาศัย ส่วนหนึ่งเป็นผลจากความต้องการที่อยู่อาศัยของลูกค้ายังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการรุกจัดกิจกรรมทางการตลาดด้วยการร่วมกับพันธมิตรต่างๆ เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายหลังของแสนสิริ ส่งผลให้สามารถสร้างยอดขายจากการทำการตลาดในรูปแบบดังกล่าวได้เป็นอย่างมาก และจะยังคงเป็นกลยุทธ์การตลาดที่แสนสิริจะนำมาใช้อย่างต่อเนื่อง” นายเศรษฐา กล่าว
สำหรับแผนการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยใหม่ของกลุ่มบริษัทแสนสิริ จำกัด (มหาชน) ได้ปรับเป้าจากเดิมที่วางไว้ 16 โครงการ เป็น 19 โครงการ โดยในช่วงครึ่งหลังของปี 2552 จะมีการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยใหม่ๆ อีกประมาณ 8 โครงการ แบ่งเป็นโครงการคอนโดมิเนียมระดับพรีเมียม ในทำเลย่านธุรกิจกลางใจเมือง (CBD) 2 โครงการ มูลค่าการขายรวมประมาณ 3,000 ล้านบาท และยังมีแผนการพัฒนาโครงการบ้านเดี่ยว สำหรับลูกค้าระดับกลาง 3 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 2,900 ล้านบาท รวมทั้งโครงการทาวน์เฮาส์ประมาณ 3 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 1,700 ล้านบาท รวมมูลค่าโครงการที่จะพัฒนาใหม่ทั้งสิ้น ประมาณ 7,600 ล้านบาท ส่วนที่เหลืออีก 11 โครงการจะไปเปิดในปี 53
นายเศรษฐา กล่าวต่อว่า ขณะนี้สถานการณ์ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เริ่มฟื้นตัวและมีความชัดเจนมากขึ้น เนื่องจากผู้บริโภคมีความมั่นใจในสถานการณ์ทางการเมืองที่เริ่มคลี่คลายและมีเสถียรภาพมากขึ้นจากช่วงที่ผ่านมา นอกจากนี้ทิศทางของภาคธุรกิจในประเทศ อาทิ ภาคการส่งออก ภาคอุตสาหกรรม ก็เริ่มปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้นเป็นลำดับ
**เอพีครึ่งปีแรกโกย5,200ล้าน.
นายวิษณุ สุชาติล้ำพงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเชี่ยน พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) (AP) เปิดเผยว่า ในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้บริษัทมียอดจองรวม 5,243 ล้านบาท ในขณะที่ 6 เดือนแรกของปีที่แล้วมียอดจอง 4,433 ล้านบาท สะท้อนให้เห็นว่า ภาพรวมของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมาถือว่า สถานการณ์ไม่ได้มีอะไรที่เลวร้ายไปอย่างที่หลายคนคาดการณ์ไว้ ทั้งนี้บริษัทในตลาดหลักทรัพย์ในช่วงไตรมาส 1 ที่ผ่านมาโดยรวมเติบโตขึ้น รวมถึงยอดจองโดยรวมก็เริ่มกลับเข้าสู่สภาวะปกติ ปัจจัยสำคัญเป็นผลมาจากปัญหาการเมืองและเศรษฐกิจที่เริ่มคลี่คลายลง ส่งผลให้ผู้บริโภคเริ่มมีความมั่นใจและกล้าใช้เงินมากขึ้นกว่าช่วงปลายปีที่ผ่านมา
ดังนั้น บริษัทฯ จึงเปิด Pre-Sale โครงการ “Life @ ลาดพร้าว 18” คอนโดมิเนียมสูง 32 ชั้น 1 อาคาร จำนวน 457 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 2.63 ล้านบาท มูลค่า 1,500 ล้านบาท รองรับความต้องการที่อยู่อาศัยในทำเลย่านลาดพร้าว ห่างจากรถไฟฟ้า ใต้ดินสถานีลาดพร้าวเพียง 150 เมตร โดยบริษัทฯ พร้อมเปิดขายอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 18 กรกฎาคมเป็นต้นไป พร้อมจัดโปรโมชั่นพิเศษ ด้วยการมอบส่วนลดเงินสดมูลค่าสูงสุด 200,000 บาท สำหรับผู้ที่จองห้องชุดในโครงการดังกล่าว พร้อมเลือกรับฟรี มือถือ iPhone 3G หรือ กล้อง LOMO รุ่น LCA+ พิเศษสำหรับสมาชิกบัตรเครดิตไทยพาณิชย์ รับสิทธิผ่อนชำระเงินจอง 0% นาน 4 เดือน ผ่านระบบ SCB ดีจัง
**มั่นคงฯฟื้นตัวต่อเนื่อง
สำหรับบริษัทมั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) หรือ MK โดยนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ประเมินว่า ภาวะตลาดฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง จากสถานการณ์การเมืองที่ดีขึ้น, ภาวะเศรษฐกิจที่คาดว่าผ่านพ้นจุดต่ำสุดไปแล้ว และมาตรการกระตุ้นธุรกิจอสังหาฯ จากรัฐบาล รวมถึงซัพพลายบ้านใหม่ในช่วงครึ่งปีแรกที่ลดลง 50% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยยอดขายไตรมาส 2/52 เพิ่มขึ้น 29% จากไตรมาสก่อนเป็น 580 ล้านบาท ยอดขายครึ่งปีแรกเท่ากับ 1,030 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็น 41% ของเป้ายอดขายทั้งปีของบริษัทที่ 2,500 ล้านบาท โดยคาดว่ายอดขายที่ยังไม่รับรู้ ณ สิ้นไตรมาส 2/52 จะเท่ากับ 780 ล้านบาท ซึ่งได้รอรับ 100% ของประมาณการรายได้ปีนี้ เชื่อว่ายอดขายจะดีขึ้นต่อเนื่องในครึ่งปีหลัง โดยได้แรงหนุนจากการเปิด 3 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 1,360 ล้านบาท รวมถึงการที่ผู้ซื้อบ้านจะเร่งตัดสินใจซื้อบ้านภายในปีนี้เพื่อรับประโยชน์จากมาตการกระตุ้นอสังหาฯ ของรัฐบาล
นายเศรษฐา ทวีสิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แผนการดำเนินธุรกิจของกลุ่มบริษัทแสนสิริในช่วงครึ่งแรกของปี 2552 ประสบความสำเร็จอย่างมาก โดยสามารถสร้างยอดขายโครงการที่อยู่อาศัยในช่วงไตรมาสแรกมูลค่ารวมกว่า 6,100 ล้านบาท ส่วนไตรมาส 2 ยอดขาย 3,100 ล้านบาท ทำให้สามารถสร้างยอดขายรวมในช่วงครึ่งปีแรกประมาณ 9,200 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็น 55% ของยอดขายทั้งปีจากที่วางเป้าหมายไว้ที่ประมาณ 17,000 ล้านบาท จึงเชื่อมั่นว่ากลุ่มแสนสิริจะสามารถสร้างยอดขายปี 52 ได้ตามเป้าหมายอย่างแน่นอน
นอกจากนี้ กลุ่มแสนสิริ มียอดขายที่รอรับรู้รายได้ (Pre-sale backlog) จากโครงการที่อยู่อาศัยต่างๆ โดยเฉพาะโครงการคอนโดมิเนียม เป็นมูลค่ากว่า 18,000 ล้านบาท ในจำนวนนี้จะรับรู้รายได้ในปีนี้ 14,300 ล้านบาท หรือคิดเป็น 87% ของเป้าหมายการขาย ส่วนที่เหลือจะทยอยรับรู้รายได้ภายใน 1-3 ปี
ในขณะที่แผนการดำเนินธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลังนี้ จะมีการขยายโครงการที่อยู่อาศัยใหม่ๆ อีกประมาณ 8 โครงการ ทั้งคอนโดมิเนียม บ้านเดี่ยว และทาวน์เฮาส์ เพื่อรองรับความต้องการของกลุ่มลูกค้าทุกเซกเมนต์ โดยมีมูลค่าโครงการขายรวม 7,600 ล้านบาท
“ที่ผ่านมาการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยของกลุ่มแสนสิริประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก โดยปัจจัยที่สนับสนุนให้กลุ่มบริษัทแสนสิริประสบความสำเร็จด้านการขายโครงการที่อยู่อาศัย ส่วนหนึ่งเป็นผลจากความต้องการที่อยู่อาศัยของลูกค้ายังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการรุกจัดกิจกรรมทางการตลาดด้วยการร่วมกับพันธมิตรต่างๆ เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายหลังของแสนสิริ ส่งผลให้สามารถสร้างยอดขายจากการทำการตลาดในรูปแบบดังกล่าวได้เป็นอย่างมาก และจะยังคงเป็นกลยุทธ์การตลาดที่แสนสิริจะนำมาใช้อย่างต่อเนื่อง” นายเศรษฐา กล่าว
สำหรับแผนการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยใหม่ของกลุ่มบริษัทแสนสิริ จำกัด (มหาชน) ได้ปรับเป้าจากเดิมที่วางไว้ 16 โครงการ เป็น 19 โครงการ โดยในช่วงครึ่งหลังของปี 2552 จะมีการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยใหม่ๆ อีกประมาณ 8 โครงการ แบ่งเป็นโครงการคอนโดมิเนียมระดับพรีเมียม ในทำเลย่านธุรกิจกลางใจเมือง (CBD) 2 โครงการ มูลค่าการขายรวมประมาณ 3,000 ล้านบาท และยังมีแผนการพัฒนาโครงการบ้านเดี่ยว สำหรับลูกค้าระดับกลาง 3 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 2,900 ล้านบาท รวมทั้งโครงการทาวน์เฮาส์ประมาณ 3 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 1,700 ล้านบาท รวมมูลค่าโครงการที่จะพัฒนาใหม่ทั้งสิ้น ประมาณ 7,600 ล้านบาท ส่วนที่เหลืออีก 11 โครงการจะไปเปิดในปี 53
นายเศรษฐา กล่าวต่อว่า ขณะนี้สถานการณ์ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เริ่มฟื้นตัวและมีความชัดเจนมากขึ้น เนื่องจากผู้บริโภคมีความมั่นใจในสถานการณ์ทางการเมืองที่เริ่มคลี่คลายและมีเสถียรภาพมากขึ้นจากช่วงที่ผ่านมา นอกจากนี้ทิศทางของภาคธุรกิจในประเทศ อาทิ ภาคการส่งออก ภาคอุตสาหกรรม ก็เริ่มปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้นเป็นลำดับ
**เอพีครึ่งปีแรกโกย5,200ล้าน.
นายวิษณุ สุชาติล้ำพงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเชี่ยน พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) (AP) เปิดเผยว่า ในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้บริษัทมียอดจองรวม 5,243 ล้านบาท ในขณะที่ 6 เดือนแรกของปีที่แล้วมียอดจอง 4,433 ล้านบาท สะท้อนให้เห็นว่า ภาพรวมของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมาถือว่า สถานการณ์ไม่ได้มีอะไรที่เลวร้ายไปอย่างที่หลายคนคาดการณ์ไว้ ทั้งนี้บริษัทในตลาดหลักทรัพย์ในช่วงไตรมาส 1 ที่ผ่านมาโดยรวมเติบโตขึ้น รวมถึงยอดจองโดยรวมก็เริ่มกลับเข้าสู่สภาวะปกติ ปัจจัยสำคัญเป็นผลมาจากปัญหาการเมืองและเศรษฐกิจที่เริ่มคลี่คลายลง ส่งผลให้ผู้บริโภคเริ่มมีความมั่นใจและกล้าใช้เงินมากขึ้นกว่าช่วงปลายปีที่ผ่านมา
ดังนั้น บริษัทฯ จึงเปิด Pre-Sale โครงการ “Life @ ลาดพร้าว 18” คอนโดมิเนียมสูง 32 ชั้น 1 อาคาร จำนวน 457 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 2.63 ล้านบาท มูลค่า 1,500 ล้านบาท รองรับความต้องการที่อยู่อาศัยในทำเลย่านลาดพร้าว ห่างจากรถไฟฟ้า ใต้ดินสถานีลาดพร้าวเพียง 150 เมตร โดยบริษัทฯ พร้อมเปิดขายอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 18 กรกฎาคมเป็นต้นไป พร้อมจัดโปรโมชั่นพิเศษ ด้วยการมอบส่วนลดเงินสดมูลค่าสูงสุด 200,000 บาท สำหรับผู้ที่จองห้องชุดในโครงการดังกล่าว พร้อมเลือกรับฟรี มือถือ iPhone 3G หรือ กล้อง LOMO รุ่น LCA+ พิเศษสำหรับสมาชิกบัตรเครดิตไทยพาณิชย์ รับสิทธิผ่อนชำระเงินจอง 0% นาน 4 เดือน ผ่านระบบ SCB ดีจัง
**มั่นคงฯฟื้นตัวต่อเนื่อง
สำหรับบริษัทมั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) หรือ MK โดยนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ประเมินว่า ภาวะตลาดฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง จากสถานการณ์การเมืองที่ดีขึ้น, ภาวะเศรษฐกิจที่คาดว่าผ่านพ้นจุดต่ำสุดไปแล้ว และมาตรการกระตุ้นธุรกิจอสังหาฯ จากรัฐบาล รวมถึงซัพพลายบ้านใหม่ในช่วงครึ่งปีแรกที่ลดลง 50% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยยอดขายไตรมาส 2/52 เพิ่มขึ้น 29% จากไตรมาสก่อนเป็น 580 ล้านบาท ยอดขายครึ่งปีแรกเท่ากับ 1,030 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็น 41% ของเป้ายอดขายทั้งปีของบริษัทที่ 2,500 ล้านบาท โดยคาดว่ายอดขายที่ยังไม่รับรู้ ณ สิ้นไตรมาส 2/52 จะเท่ากับ 780 ล้านบาท ซึ่งได้รอรับ 100% ของประมาณการรายได้ปีนี้ เชื่อว่ายอดขายจะดีขึ้นต่อเนื่องในครึ่งปีหลัง โดยได้แรงหนุนจากการเปิด 3 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 1,360 ล้านบาท รวมถึงการที่ผู้ซื้อบ้านจะเร่งตัดสินใจซื้อบ้านภายในปีนี้เพื่อรับประโยชน์จากมาตการกระตุ้นอสังหาฯ ของรัฐบาล