เอแบคโพล เผยชาวบ้าน 75.2% ยังไม่ทราบว่า สหภาพฯ รฟท.หยุดเดินรถ เพราะประท้วงแผนแปรรูปรถไฟ แต่รู้แค่ปัญหาเฉพาะหน้า เพราะมีปัญหาเดือดร้อน ขณะที่ 69.6% ห่วงเรื่องการทุจริตโกงกิน พร้อมต้องการให้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาภายใน
สำนักวิจัยเอแบคโพล มหาวิทยาลัยอัสสัมชัน เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ 1,217 ครัวเรือน กรณีสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ การรถไฟแห่งประเทศไทย (สร.รฟท.) ประท้วงกระทรวงคมนาคม เพื่อให้ระงับแผนการแปรรูปการรถไฟ (แผนฟื้นฟู รฟท.) เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2552 (วานนี้) โดยกำหนดหัวข้อเรื่องชาวบ้านรู้สึกอย่างไรต่อการหยุดเดินรถไฟ และรัฐบาลภายใต้การนำของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี
โดยผลการสำรวจพบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ 75.2% ไม่เห็นด้วยกับ การหยุดเดินรถไฟเพื่อประท้วงรัฐบาล เนื่องจากชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน และไม่มีทางเลือกอื่น ในการเดินทางเพราะไม่มีเงิน นอกจากนี้ ยังทำให้เศรษฐกิจแย่ลงไปอีก ขายของไม่ได้ และคนเจ็บป่วย ไม่สามารถเดินทางไปหาหมอได้ แต่มีความเห็น 24.8% ระบุว่าเห็นด้วย เพราะไม่ชอบรัฐบาลชุดปัจจุบันนี้ไม่ต้องการให้ขายสมบัติชาติ เป็นห่วงอนาคตของการรถไฟ และเป็นเรื่องปกติในสังคมประชาธิปไตย
สำหรับในแง่ของความรู้สึกต่อรัฐบาลและต่อพนักงานการรถไฟฯ จากเหตุการณ์หยุดเดินรถไฟนั้น ประชาชนส่วนใหญ่ 53.8% รู้สึกแย่ ไม่ดีต่อทั้งรัฐบาลและพนักงานการรถไฟ หลังเกิดการหยุดเดินรถ ส่วน 15.3% รู้สึกแย่ต่อรัฐบาล และอีก 10.8% รู้สึกแย่ต่อพนักงานการรถไฟ ขณะที่ 20.1% ไม่รู้สึกอะไร
เมื่อถามถึงความในใจที่อยากบอกรัฐบาลชุดปัจจุบัน ในเรื่องการปรับเปลี่ยนการบริหารรัฐวิสาหกิจต่างๆ พบว่า ส่วนใหญ่ 69.6%อยากบอกให้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่นในแต่ละหน่วยงานดีกว่า หยุดขายสมบัติของประชาชน อยากให้ปรับเปลี่ยนการบริหารของรัฐวิสาหกิจตามแต่รัฐบาลเห็นสมควร