วิกฤตเศรษกิจโลก การเมืองในประเทศ ส่งผลกระทบอสังหฯชะลอพัฒนาโครงการใหม่ ผู้ประกอบการวัสดุก่อสร้างโอด ยอดขายหดถ้วนหน้า คาดตลาดรวมปี52หดตัว10-15% จากปีที่ผ่านมา ด้านตราช้าง-คอนวูด-ตราเพชร เบนเข็มเจาะลูกค้าภูธร ซ่อมแซม ปรับปรุงบ้าน หนีตลาดจัดสรร หลังยอดขายตลาดอสังหาฯสุดเฉื่อย
นายธงชัย โสภณ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท กระเบื้องกระดาษไทย จำกัด ในเครือบริษัท SCG ผู้พัฒนาไม้สังเคราะห์ สมาร์ทวูดตราช้าง กล่าวว่า ภาวะวิกฤตเศรษฐกิจโลกและปัญหาในประเทศ ส่งผลกระทบต่อตลาดอสังหาฯชะลอจากปีที่ผ่านมาอย่างหนัก ซึ่งกระทบต่อการขยายตัวของตลาดวัสดุก่อสร้างโดยตรง ซึ่งคาดว่าในปีนี้ ตลาดวัสดุก่อสร้างรวม จะหดตัวลงประมาณ 10-15% อย่างไรก็ดี ในส่วนของตลาดวัสดุทดแทนไม้ หรือไม้สังเคราะห์นั้น คาดว่าจะหดตัวน้อยกว่ากลุ่มวัสดุก่อสร้างประเภทอื่นๆ เนื่องจาก กลุ่มวัสดุทดแทนไม้นั้น สามารถปรับใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย ในขณะเดียวกัน แนวโน้มการใช้ไม้จริงในการก่อสร้างลดลงตามกระแสโลกร้อน ทำให้โอกาการเติบโตของตลาดไม้สังเคราะห์มีโอกาสขยายตัวที่ดีอยู่ โดยในปีนี้ บริษัทจะเน้นเจาะตลาดลูกค้าต่างจังหวัดมากขึ้น เนื่องจากกลุ่มตลาดดังกล่าว ได้รับผลกระทบไม่มากเท่ากับกลุ่มลูกค้าคนทำงานในบริษัท
โดยในปีนี้ บริษัทตั้งเป้าว่าจะมียอดขายรวม 1,000 ล้านบาทเท่ากับปีที่ผ่านมา แบ่งออกเป็นยอดขายจากตลาดค้าปลีก 60-70% และตลาดโครงการจัดสรร 30-40 % ทั้งนี้ การเข้าถึงกลุ่มลูกค้าต่างจังหวัดนั้น บริษัทฯจะเน้นขายผ่านช่องทางร้านค้าของ SCG ซึ่งครอบคลุมตลาดอยู่แล้ว สำหรับในไตรมาสแรกที่่ผ่านมา บริษัทมียอดขายเติบโต 10%เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกของปี51
นาย สุทธิพันธ์ วัชโรภาส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คอนวูด จำกัด ผู้ผลิตแลจำหน่ายวัสดุทดแทนไม้ภายใต้ชื่อ "คอนวูด" กล่าวว่า การชะลอพัฒนาโครงการอสังหาฯทำให้ในปีนี้ บริษัทต้องเน้นจับกลุ่มลูกค้ารายย่อยเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพะกลุ่มลูกค้าที่ต้องการปรับปรุง และซ่อมแซมบ้าน โดยได้ปรับกลยุทธ์การตลาดใหม่อาศัยช่องทางการจัดจำหน่ายปูนซีเมนต์ตรานกอินทรีมากขึ้น
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังเตรียมงบในการทำตลาดไว้ 10-13% โดยจะเน้นการจัดกิจกรรมและจัดแคมเปญรวมกับตัวแทนจำหน่ายของบริษัท และเพื่อรองรับความต้องการลูกค้าที่ครอบคลุมมากขึ้น บริษัทได้เปิดตัวไม้เชิงชาย Tow In One และในช่วงครึ่งปีหลังจะเพิ่มเฉดสีให้มากขึ้น
“ในปี51ที่ผ่านมา บริษัทมียอดขายรวม 800ล้านบาท แบ่งออกเป็นยอดขายในประเทศ 95% และส่งออก 5% ซึ่งป็นการขายผ่านตัวแทนจำหน่ายทั้งหมด อย่างไรก็ดี บริษัทมีแผนจะเพิ่มสัดส่วนการส่งออกเพิ่มขึ้น โดยจะเน้นตลาดประเทศเพื่อนบ้านเป็นหลัก”
นายสาธิต สุดบรรทัด รองกรรมการผู้จัดการ สายงานการขายและการตลาด บริษัท กระเบื้องหลังคาตราเพชร จำกัด (มหาชน) (DRT) กล่าวว่า ในปีนี้ บริษทจะเน้นขยายตัวแทนการจำหน่ายในพื้นที่ต่างจังหวัด และตัวแทนจำหน่ายรายย่อยเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 10% โดยปัจจุบันมีตัวแทนจำหน่ายอยู่ 600 ราย การขยายตัวแทนจำหน่ายดังกล่าวนั้น เพื่อให้สอดรับกับนโยบายการตลาดในปีนี้ เนื่องจากบริษัทจะเน้นจับกลุ่มลูกค้ารายย่อยเพื่อรักษายอดขายให้เท่ากับปีที่ผ่านมา
ด้านนายวัชรมงคล เบญจธนะฉัตร์ ประธานกรรมการบริษัท บาธรูม ดีไซน์ จำกัด กล่าวว่า เศรษฐกิจที่อยู่ในช่วงขาลงส่งผลกระทบต่อยอดการสั่งซื้อสินค้าจากลูกค้าที่ลดลงประมาณ 5-10% แต่เชื่อว่าในครึ่งปีหลัง สถานการณ์ต่างๆจะเริ่มดีขึ้น ซึ่งบริษัทมีแผนทีจะเปิดตัวแบรนด์สินค้าใหม่ (Sub-Brand) ภายใต้แบรนด์ “Bathero” เป็นสินค้าขนาดเล็กที่ตกแต่งในห้องน้ำ เน้นสีสันสดใส ระดับราคาไม่เกิน 1,000 บาท ซึ่งต่างจากแบรนด์บาธรูม ที่เน้นกลุ่มไฮเอนด์ โดยจะเปิดตัวสินค้าล็อตแรกอย่างน้อย 10 รายการ ในเดือน มิ.ย. 52 นี้ สำหรับเป้าการขายรวมปี 52 คาดว่าจะเติบโตเท่ากับปีที่ผ่านมาประมาณ 10 % หรือ 300-400 ล้านบาท
นายธงชัย โสภณ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท กระเบื้องกระดาษไทย จำกัด ในเครือบริษัท SCG ผู้พัฒนาไม้สังเคราะห์ สมาร์ทวูดตราช้าง กล่าวว่า ภาวะวิกฤตเศรษฐกิจโลกและปัญหาในประเทศ ส่งผลกระทบต่อตลาดอสังหาฯชะลอจากปีที่ผ่านมาอย่างหนัก ซึ่งกระทบต่อการขยายตัวของตลาดวัสดุก่อสร้างโดยตรง ซึ่งคาดว่าในปีนี้ ตลาดวัสดุก่อสร้างรวม จะหดตัวลงประมาณ 10-15% อย่างไรก็ดี ในส่วนของตลาดวัสดุทดแทนไม้ หรือไม้สังเคราะห์นั้น คาดว่าจะหดตัวน้อยกว่ากลุ่มวัสดุก่อสร้างประเภทอื่นๆ เนื่องจาก กลุ่มวัสดุทดแทนไม้นั้น สามารถปรับใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย ในขณะเดียวกัน แนวโน้มการใช้ไม้จริงในการก่อสร้างลดลงตามกระแสโลกร้อน ทำให้โอกาการเติบโตของตลาดไม้สังเคราะห์มีโอกาสขยายตัวที่ดีอยู่ โดยในปีนี้ บริษัทจะเน้นเจาะตลาดลูกค้าต่างจังหวัดมากขึ้น เนื่องจากกลุ่มตลาดดังกล่าว ได้รับผลกระทบไม่มากเท่ากับกลุ่มลูกค้าคนทำงานในบริษัท
โดยในปีนี้ บริษัทตั้งเป้าว่าจะมียอดขายรวม 1,000 ล้านบาทเท่ากับปีที่ผ่านมา แบ่งออกเป็นยอดขายจากตลาดค้าปลีก 60-70% และตลาดโครงการจัดสรร 30-40 % ทั้งนี้ การเข้าถึงกลุ่มลูกค้าต่างจังหวัดนั้น บริษัทฯจะเน้นขายผ่านช่องทางร้านค้าของ SCG ซึ่งครอบคลุมตลาดอยู่แล้ว สำหรับในไตรมาสแรกที่่ผ่านมา บริษัทมียอดขายเติบโต 10%เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกของปี51
นาย สุทธิพันธ์ วัชโรภาส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คอนวูด จำกัด ผู้ผลิตแลจำหน่ายวัสดุทดแทนไม้ภายใต้ชื่อ "คอนวูด" กล่าวว่า การชะลอพัฒนาโครงการอสังหาฯทำให้ในปีนี้ บริษัทต้องเน้นจับกลุ่มลูกค้ารายย่อยเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพะกลุ่มลูกค้าที่ต้องการปรับปรุง และซ่อมแซมบ้าน โดยได้ปรับกลยุทธ์การตลาดใหม่อาศัยช่องทางการจัดจำหน่ายปูนซีเมนต์ตรานกอินทรีมากขึ้น
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังเตรียมงบในการทำตลาดไว้ 10-13% โดยจะเน้นการจัดกิจกรรมและจัดแคมเปญรวมกับตัวแทนจำหน่ายของบริษัท และเพื่อรองรับความต้องการลูกค้าที่ครอบคลุมมากขึ้น บริษัทได้เปิดตัวไม้เชิงชาย Tow In One และในช่วงครึ่งปีหลังจะเพิ่มเฉดสีให้มากขึ้น
“ในปี51ที่ผ่านมา บริษัทมียอดขายรวม 800ล้านบาท แบ่งออกเป็นยอดขายในประเทศ 95% และส่งออก 5% ซึ่งป็นการขายผ่านตัวแทนจำหน่ายทั้งหมด อย่างไรก็ดี บริษัทมีแผนจะเพิ่มสัดส่วนการส่งออกเพิ่มขึ้น โดยจะเน้นตลาดประเทศเพื่อนบ้านเป็นหลัก”
นายสาธิต สุดบรรทัด รองกรรมการผู้จัดการ สายงานการขายและการตลาด บริษัท กระเบื้องหลังคาตราเพชร จำกัด (มหาชน) (DRT) กล่าวว่า ในปีนี้ บริษทจะเน้นขยายตัวแทนการจำหน่ายในพื้นที่ต่างจังหวัด และตัวแทนจำหน่ายรายย่อยเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 10% โดยปัจจุบันมีตัวแทนจำหน่ายอยู่ 600 ราย การขยายตัวแทนจำหน่ายดังกล่าวนั้น เพื่อให้สอดรับกับนโยบายการตลาดในปีนี้ เนื่องจากบริษัทจะเน้นจับกลุ่มลูกค้ารายย่อยเพื่อรักษายอดขายให้เท่ากับปีที่ผ่านมา
ด้านนายวัชรมงคล เบญจธนะฉัตร์ ประธานกรรมการบริษัท บาธรูม ดีไซน์ จำกัด กล่าวว่า เศรษฐกิจที่อยู่ในช่วงขาลงส่งผลกระทบต่อยอดการสั่งซื้อสินค้าจากลูกค้าที่ลดลงประมาณ 5-10% แต่เชื่อว่าในครึ่งปีหลัง สถานการณ์ต่างๆจะเริ่มดีขึ้น ซึ่งบริษัทมีแผนทีจะเปิดตัวแบรนด์สินค้าใหม่ (Sub-Brand) ภายใต้แบรนด์ “Bathero” เป็นสินค้าขนาดเล็กที่ตกแต่งในห้องน้ำ เน้นสีสันสดใส ระดับราคาไม่เกิน 1,000 บาท ซึ่งต่างจากแบรนด์บาธรูม ที่เน้นกลุ่มไฮเอนด์ โดยจะเปิดตัวสินค้าล็อตแรกอย่างน้อย 10 รายการ ในเดือน มิ.ย. 52 นี้ สำหรับเป้าการขายรวมปี 52 คาดว่าจะเติบโตเท่ากับปีที่ผ่านมาประมาณ 10 % หรือ 300-400 ล้านบาท