อินเตอร์แนชั่นเนิลเอนจีเนียริง ลดก่อนเพิ่มทุนเป็น 3,628.46 8 ล้านบาท ด้วยการออกหุ้นสามัญใหม่ 18,142.29 ล้านหุ้น พร้อมปรับลดพาร์เหลือ 0.10 บาท เพื่อใช้ขยายงานในอนาคต และออกหุ้นเพิ่มทุนใหม่ 9,071,145,000 หุ้น พาร์ละ0.05 บาท เพื่อรองรับการแปลงสภาพวอร์แรนต์ที่บริษัทจะออก 9,071,145,000 หน่วย จัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมฟรีภายหลังการแตกพาร์อัตราส่วน 2 หุ้นสามัญเดิมต่อ 1 หุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่ ราคาหุ้นละ 0.05 บาทต่อหุ้น กรณีหุ้นและวอร์แรนต์ใหม่ที่ออกคงเหลือให้บอร์ดพิจารณาอนุมัติจัดสรร PP
นางสัณห์จุฑา วิชชาวุธ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อินเตอร์แนชั่นเนิลเอนจีเนียริง จำกัด (มหาชน) ( IEC) แจ้งมติที่ประชุมคณะกรรมการครั้งที่ 3/2552 เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 52 ว่าบอร์ดอนุมัติให้ลดทุนจดทะเบียน จาก 2,200 ล้านบาท เหลือ 1,814,229,000 บาท โดยการตัดหุ้นสามัญที่ยังไม่ได้จำหน่าย 385,771,000 หุ้น
นอกจากนี้ ยังปรับมูลค่าหุ้นสามัญที่ตราไว้ (พาร์)ของบริษัทฯ จากเดิมมูลค่าหุ้นละ 1.00 บาท เป็นมูลค่าหุ้นละ 0.10 บาท ซึ่งจะทำให้ทุนจดทะเบียนใหม่เป็น 1,814,229,000 บาท แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญ 18,142,290,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 0.10 บาท หลังจากนั้นให้เพิ่มทุนอีก 1,814,229,000 บาท จากเดิม 1,814,229,000 บาท เป็นทุนจดทะเบียนใหม่ 3,628,458,000 บาท ด้วยการออกหุ้นสามัญใหม่ 18,142,290,000 หุ้น พาร์ 0.10 บาท เพื่อใช้รองรับการขยายธุรกิจในอนาคต
พร้อมอนุมัติออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่ 9,071,145,000 หุ้น โดยจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมภายหลังการแตกพาร์อัตราส่วน 2 หุ้นสามัญเดิมต่อ 1 หุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่ ราคาหุ้นละ 0.05 บาทต่อหุ้น สำหรับผู้ถือหุ้นเดิมที่มีชื่อปรากฏในสมุดทะเบียนที่บอร์ดให้ปิดสมุดทะเบียนเพื่อสิทธิในการซื้อหุ้นเพิ่มทุนหลังปรับพาร์แล้ว หากมีหุ้นเหลือจะจัดสรรให้กับบุคคลในวงจำกัด (PP)
จำนวน 9,071,145,000 หุ้น โดยจัดสรรให้แก่ ผู้ถือหุ้นเดิม
สำหรับการออกหุ้นเพิ่มทุนครั้งนี้ เพื่อรองรับการแปลงสภาพ ใบสำคัญแสดงสิทธิ (วอร์แรนต์) ที่บริษัทจะออก ครั้งที่ 1 ( IEC-W1 ) ไม่เกิน 9,071,145,000 หน่วย เป็นชนิดระบุชื่อผู้ถือและโอนเปลี่ยนมือได้ แจกฟรีผู้ถือหุ้นเดิมสัดส่วน 2 หุ้นสามัญเดิมต่อ 1 หน่วย โดยจัดสรรให้กับผู้ถือหุ้นเดิมที่มีชื่อปรากฏในสมุดทะเบียนที่บอร์ดให้ปิดสมุดทะเบียนเพื่อสิทธิในการซื้อหุ้นเพิ่มทุนภายหลัง จากปรับ
พาร์แล้ว กรณีมีวอร์แรนต์คงเหลือจะจัดสรรให้ PP
กำหนดวันประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 52 ในวันพฤหัสบดีที่ 23 เมษายน 52 และกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิในการเข้าร่วมประชุมสามัญผู้ถือหุ้นวันที่ 30 มีนาคม 52 และให้รวบรวมรายชื่อผู้ถือหุ้นตามมาตรา 225 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 โดยวิธีปิดสมุดทะเบียนในวันที่ 31 มีนาคม 52
นางสัณห์จุฑา วิชชาวุธ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อินเตอร์แนชั่นเนิลเอนจีเนียริง จำกัด (มหาชน) ( IEC) แจ้งมติที่ประชุมคณะกรรมการครั้งที่ 3/2552 เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 52 ว่าบอร์ดอนุมัติให้ลดทุนจดทะเบียน จาก 2,200 ล้านบาท เหลือ 1,814,229,000 บาท โดยการตัดหุ้นสามัญที่ยังไม่ได้จำหน่าย 385,771,000 หุ้น
นอกจากนี้ ยังปรับมูลค่าหุ้นสามัญที่ตราไว้ (พาร์)ของบริษัทฯ จากเดิมมูลค่าหุ้นละ 1.00 บาท เป็นมูลค่าหุ้นละ 0.10 บาท ซึ่งจะทำให้ทุนจดทะเบียนใหม่เป็น 1,814,229,000 บาท แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญ 18,142,290,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 0.10 บาท หลังจากนั้นให้เพิ่มทุนอีก 1,814,229,000 บาท จากเดิม 1,814,229,000 บาท เป็นทุนจดทะเบียนใหม่ 3,628,458,000 บาท ด้วยการออกหุ้นสามัญใหม่ 18,142,290,000 หุ้น พาร์ 0.10 บาท เพื่อใช้รองรับการขยายธุรกิจในอนาคต
พร้อมอนุมัติออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่ 9,071,145,000 หุ้น โดยจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมภายหลังการแตกพาร์อัตราส่วน 2 หุ้นสามัญเดิมต่อ 1 หุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่ ราคาหุ้นละ 0.05 บาทต่อหุ้น สำหรับผู้ถือหุ้นเดิมที่มีชื่อปรากฏในสมุดทะเบียนที่บอร์ดให้ปิดสมุดทะเบียนเพื่อสิทธิในการซื้อหุ้นเพิ่มทุนหลังปรับพาร์แล้ว หากมีหุ้นเหลือจะจัดสรรให้กับบุคคลในวงจำกัด (PP)
จำนวน 9,071,145,000 หุ้น โดยจัดสรรให้แก่ ผู้ถือหุ้นเดิม
สำหรับการออกหุ้นเพิ่มทุนครั้งนี้ เพื่อรองรับการแปลงสภาพ ใบสำคัญแสดงสิทธิ (วอร์แรนต์) ที่บริษัทจะออก ครั้งที่ 1 ( IEC-W1 ) ไม่เกิน 9,071,145,000 หน่วย เป็นชนิดระบุชื่อผู้ถือและโอนเปลี่ยนมือได้ แจกฟรีผู้ถือหุ้นเดิมสัดส่วน 2 หุ้นสามัญเดิมต่อ 1 หน่วย โดยจัดสรรให้กับผู้ถือหุ้นเดิมที่มีชื่อปรากฏในสมุดทะเบียนที่บอร์ดให้ปิดสมุดทะเบียนเพื่อสิทธิในการซื้อหุ้นเพิ่มทุนภายหลัง จากปรับ
พาร์แล้ว กรณีมีวอร์แรนต์คงเหลือจะจัดสรรให้ PP
กำหนดวันประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 52 ในวันพฤหัสบดีที่ 23 เมษายน 52 และกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิในการเข้าร่วมประชุมสามัญผู้ถือหุ้นวันที่ 30 มีนาคม 52 และให้รวบรวมรายชื่อผู้ถือหุ้นตามมาตรา 225 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 โดยวิธีปิดสมุดทะเบียนในวันที่ 31 มีนาคม 52
