EWC อัดงบ 500 ล้านบาท เพื่อต่อยอดธุรกิจเดิมและแตกไลน์ธุรกิจใหม่ เพื่อกระจายความเสี่ยง โดยเฉพาะธุรกิจวัสดุก่อสร้าง ขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจาพันธมิตร 3 ราย คาดได้ข้อสรุปครึ่งแรกปีนี้ ผู้บริหารเผยเดินหน้าบริหารงานสร้างธุรกิจแกร่ง หวังเปลี่ยนภาพลักษณ์ใหม่ เบรกแผนนำ เอื้อวิทยาและระยองไวร์ฯ เข้าจดทะเบียน ชี้ต้องการปรับฐานการเงินและแต่งตัวให้ดีก่อนขายหุ้น ประเมินปีนี้มีรายได้ 2.25 พันล. รับรู้จากงานในมือและจาก บ.ย่อย
นายวุฒิชัย ลีนะบรรจง กรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อีสเทิร์นไวร์ จำกัด (มหาชน) หรือ EWC เปิดเผยว่า ในปี 52 บริษัทฯ ตั้งงบลงทุนไว้ที่ 500 ล้านบาท เพื่อหวังต่อยอดธุรกิจเดิมและลงทุนในธุรกิจใหม่ โดยแบ่งเป็นลงทุนในธุรกิจวัสดุก่อสร้างมูลค่า 200 ล้านบาท ธุรกิจพลังงานอีกกว่า 250 ล้านบาท และส่วนที่เหลือเป็นการลงทุนในธุรกิจอื่นๆ เพื่อกระจายความเสี่ยงของธุรกิจ โดยเฉพาะในด้านธุรกิจวัสดุก่อสร้าง ปัจจุบันอยู่ระหว่างเจรจากับพันมิตรไว้ประมาณ 3 ราย และคาดว่าจะได้ข้อสรุปในครึ่งแรกของปีนี้
ทั้งนี้ บริษัทฯ ประเมินว่าปี 52 จะมีรายได้อยู่ที่ 2.25 พันล้านบาท เทียบกับปี 51 ที่มีรายได้ 2.1 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.15 ล้านบาท คิดเป็น 7.14% โดยเป็นการรับรู้รายได้จากงานในมือ (back log) ของ บมจ.เอื้อวิทยา ที่มีมูลค่า 700 ล้านบาท ซึ่งจะรับรู้ในปีนี้ประมาณ 500 ล้านบาท และคาดว่าจะเข้าประมูลงานของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ที่มูลค่าโครงการ 5 พันล้านบาท และรายได้จาก บริษัท เอ็นเนซอล จำกัด 400 ล้านบาท บริษัท ระยองไวร์ อินดัสตรีส์ จำกัด 700 ล้านบาท และที่เหลือมาจาก EWC และธุรกิจใหม่ในอนาคต
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าช่วงที่ผ่านนักลงทุนจะติดกับภาพลักษณ์ที่ไม่ดีของบริษัท แต่หลังจากนี้ทีมผู้บริหารชุดใหม่จะพยายามสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจปัจจุบัน ด้วยการปรับปรุงประสิทธิภาพในการผลิตและการบริหารการจัดการวัตถุดิบ และ ระบบคลังสินค้าเพื่อลดต้นทุนในการดำเนินงาน รวมถึงเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุน
ส่วนแนวคิดของบริษัทฯ ที่ต้องการนำ บมจ.เอื้อวิทยา และ บริษัทระยองไวร์ฯ เข้าจดทะเบียนและทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ปัจจุบันได้ชะลอแผนดังกล่าวออกไปก่อน เพราะต้องการปรับโครงสร้างและปูพื้นฐานการดำเนินงานของ 2 ธุรกิจนี้ให้แข็งแกร่งก่อน
นายวุฒิชัย ลีนะบรรจง กรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อีสเทิร์นไวร์ จำกัด (มหาชน) หรือ EWC เปิดเผยว่า ในปี 52 บริษัทฯ ตั้งงบลงทุนไว้ที่ 500 ล้านบาท เพื่อหวังต่อยอดธุรกิจเดิมและลงทุนในธุรกิจใหม่ โดยแบ่งเป็นลงทุนในธุรกิจวัสดุก่อสร้างมูลค่า 200 ล้านบาท ธุรกิจพลังงานอีกกว่า 250 ล้านบาท และส่วนที่เหลือเป็นการลงทุนในธุรกิจอื่นๆ เพื่อกระจายความเสี่ยงของธุรกิจ โดยเฉพาะในด้านธุรกิจวัสดุก่อสร้าง ปัจจุบันอยู่ระหว่างเจรจากับพันมิตรไว้ประมาณ 3 ราย และคาดว่าจะได้ข้อสรุปในครึ่งแรกของปีนี้
ทั้งนี้ บริษัทฯ ประเมินว่าปี 52 จะมีรายได้อยู่ที่ 2.25 พันล้านบาท เทียบกับปี 51 ที่มีรายได้ 2.1 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.15 ล้านบาท คิดเป็น 7.14% โดยเป็นการรับรู้รายได้จากงานในมือ (back log) ของ บมจ.เอื้อวิทยา ที่มีมูลค่า 700 ล้านบาท ซึ่งจะรับรู้ในปีนี้ประมาณ 500 ล้านบาท และคาดว่าจะเข้าประมูลงานของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ที่มูลค่าโครงการ 5 พันล้านบาท และรายได้จาก บริษัท เอ็นเนซอล จำกัด 400 ล้านบาท บริษัท ระยองไวร์ อินดัสตรีส์ จำกัด 700 ล้านบาท และที่เหลือมาจาก EWC และธุรกิจใหม่ในอนาคต
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าช่วงที่ผ่านนักลงทุนจะติดกับภาพลักษณ์ที่ไม่ดีของบริษัท แต่หลังจากนี้ทีมผู้บริหารชุดใหม่จะพยายามสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจปัจจุบัน ด้วยการปรับปรุงประสิทธิภาพในการผลิตและการบริหารการจัดการวัตถุดิบ และ ระบบคลังสินค้าเพื่อลดต้นทุนในการดำเนินงาน รวมถึงเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุน
ส่วนแนวคิดของบริษัทฯ ที่ต้องการนำ บมจ.เอื้อวิทยา และ บริษัทระยองไวร์ฯ เข้าจดทะเบียนและทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ปัจจุบันได้ชะลอแผนดังกล่าวออกไปก่อน เพราะต้องการปรับโครงสร้างและปูพื้นฐานการดำเนินงานของ 2 ธุรกิจนี้ให้แข็งแกร่งก่อน
