บีโอไอทุ่มสุดตัวอัดโปรโมชันใหญ่ ลดแหลก-แจกแถม ดึงทุนต่างชาติ

บอร์ดบีโอไอ ไฟเขียวมาตรการกระตุ้นการลงทุน เพิ่มประเภทกิจการที่ได้รับส่งเสริมภายใต้มาตรการพิเศษเร่งรัดการลงทุน พร้อมลดข้อจำกัด-อุปสรรคในการดำเนินธุรกิจ จูงใจเว้นอากรขาเข้าเครื่องจักร-เว้นภาษีเงินได้ 8 ปี

นายชาญชัย ชัยรุ่งเรือง รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บอร์ดบีโอไอ) ที่มี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน วานนี้ (4 มี.ค.) โดยระบุว่า ที่ประชุมได้รับทราบถึงสถานการณ์ด้านการลงทุนของประเทศในปัจจุบัน มั่นใจว่า โครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจของไทยยังเข้มแข็ง ประกอบกับสถานการณ์ต่างๆ ชัดเจนมากขึ้น คาดว่า วิกฤตเศรษฐกิจ จะไม่ส่งผลกระทบต่อการลงทุนในระยะยาวของนักธุรกิจไทยและนักธุรกิจจากต่างประเทศ

บีโอไอ ยังได้รายงานภาวะการลงทุนในช่วงต้นปี 2552 ซึ่งพบว่า นักลงทุนยังสนใจเข้ามาลงทุนในไทย โดยตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2552 ถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2552 มีโครงการยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนรวม 141 โครงการ มูลค่าเงินลงทุน 108,700 ล้านบาท มีโครงการสำคัญคือ การผลิตไฟฟ้าจากก๊าซธรรมชาติ 2 โครงการ มูลค่าลงทุนรวมกว่า 81,000 ล้านบาทก่อให้เกิดการจ้างแรงงานกว่า 6,700 คน โดยการลงทุนด้านบริการและสาธารณูปโภคพบว่ามีการลงทุนสูงสุดเมื่อเทียบกับอุตสาหกรรมอื่นๆ คือ มีมูลค่าถึง 92,500 ล้านบาท

บีโอไอ ยังระบุเพิ่มเติมว่า แนวโน้มการลงทุนจากนี้ไปจะเพิ่มมากขึ้นได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับการดำเนินงานของภาครัฐอย่างจริงจัง โดยเฉพาะการผลักดันให้ภาคเอกชนลงทุนในโครงการเหล็กขั้นต้นคุณภาพสูง และการเร่งรัดจัดหาพื้นที่เพื่อพัฒนาเป็นเขตอุตสาหกรรมในพื้นที่ชายฝั่งทะเลภาคใต้ (Southern Seaboard) รองรับการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรมในอนาคต โดยเฉพาะอุตสาหกรรมปิโตรเคมี เหล็กและพลังงานทดแทน

โดยวานนี้ บอร์ดบีโอไอเห็นชอบให้เพิ่มประเภทกิจการใน 6 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มกิจการที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง ให้ครอบคลุมถึงการผลิตอุปกรณ์ โทรคมนาคม และชิ้นส่วนที่ใช้กับผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ กลุ่มโครงการลงทุนขนาดใหญ่ ได้แก่ การผลิตรถไฟหรือรถไฟฟ้า หรือชิ้นส่วน (เฉพาะระบบราง) กิจการผลิตท่อเหล็กหรือท่อไร้สนิม กิจการผลิตผลิตภัณฑ์คอนกรีตอัดแรงสำหรับงานสาธารณูปโภค เป็นต้น ส่วนกลุ่มอุตสาหกรรมที่ใช้ผลิตผลทางการเกษตรเป็นวัตถุดิบ และใช้เทคโนโลยีขั้นสูง เห็นชอบให้เพิ่มกิจการอาหารทางการแพทย์ และกิจการผลิตยางยานพาหนะ

ทั้งนี้ กิจการใน 6 กลุ่มอุตสาหกรรมที่อยู่ภายใต้มาตรการพิเศษเพื่อเร่งรัดการลงทุน ยกเว้นโครงการที่ตั้งในเขตกรุงเทพฯ จะได้รับยกเว้นอากรขาเข้าเครื่องจักร และได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 8 ปี รวมทั้งได้รับลดหย่อนภาษีเงินได้สำหรับกำไรสุทธิที่ได้จากการลงทุน 50% เป็นเวลาไม่เกิน 5 ปี นับจากวันที่พ้นกำหนดได้รับยกเว้นภาษี

นอกจากนี้ ยังเห็นชอบให้ขยายเวลาหลักเกณฑ์ส่งเสริมการลงทุนในเขต 2 รวมทั้งนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง และใน จ.ระยอง โดยจะขยายระยะเวลาออกไปอีก 5 ปี จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2557 เพื่อกระตุ้นให้เกิดการลงทุนในภาวะวิกฤต และส่งเสริมให้มีการลงทุนอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน บอร์ดบีโอไอยังพิจารณาช่วยเหลือผู้ประกอบการโรงแรมที่ได้รับผลกระทบจากการวิกฤตเศรษฐกิจปลายปี 2551 ด้วยการยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับการลงทุนเพิ่มนาน 8 ปี