สภาคองเกรสของสหรัฐฯ ผ่านแผนกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล 8.25 แสนล้านดอลลาร์ เตรียมอัดฉีดใส่ระบบ ก.พ.นี้ "เฟด" คงอัตราดอกเบี้ยไว้ใกล้ระดับ 0.25 % หวังคงเครื่องมือทางการเงินไว้ต่อสู้ความเสี่ยง หากนโยบายการคลังไม่ได้ผล
สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ (สภาคองเกรส) ให้ความเห็นชอบต่อแผนกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลมูลค่า 825,000 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 28.8 ล้านล้านบาท
ทั้งนี้ สภาคองเกรสมีมติด้วยคะแนน 244 ต่อ 188 เสียง ผ่านแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ ของรัฐบาล ซึ่งมุ่งเน้นการใช้จ่ายเร่งด่วน และการปรับลดการเก็บภาษี ตามที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามา คาดหวังว่าแผนการดังกล่าวจะช่วยสร้างงานได้ถึง 4 ล้านตำแหน่ง ขั้นตอนต่อไปแผนการใช้งบประมาณดังกล่าวจะถูกนำเข้าสู่การพิจารณาของวุฒิสภา ซึ่งอาจจะเริ่มมีการอภิปรายกันในสัปดาห์หน้า และคาดว่าประธานาธิบดีโอบามา เตรียมลงนามเป็นกฎหมายบังคับใช้ประมาณกลางเดือนกุมภาพันธ์ 2552 นี้
รายงานข่าวระบุเพิ่มเติมว่า ก่อนที่จะมีการลงมติของสภาฯ ส.ส.พรรครีพับลิกันเคยขู่ว่าจะไม่ให้ความเห็นชอบต่อแผนการดังกล่าว เนื่องจากเห็นว่ามาตรการลดหย่อนภาษียังไม่มีประสิทธิภาพพอ ในขณะที่การใช้จ่ายภาครัฐมีมากเกินจำเป็น ทำให้ประธานาธิบดีโอบามาต้องพบปะกับผู้นำ ส.ส.ของพรรครีพับลิกัน เพื่อโน้มน้าวให้ผ่านแผนการในครั้งนี้ เพราะมีความจำเป็นต่อการกอบกู้วิกฤตเศรษฐกิจให้รอดพ้นจากภาวะถดถอยรุนแรง อย่างไรก็ดี แม้จะมีการเจรจากัน แต่กลับพบว่ามี ส.ส.รีพับลินกันเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ลงมติให้ความเห็นชอบต่อแผนกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล
**เฟด คง ดบ.0.25% เก็บไว้เป็นท่าไม่ตาย
ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิม 0.25% หลังคณะกรรมการกำหนดนโยบายทางการเงินของ (บอร์ด) เฟด เสร็จสิ้นการประชุมตามกำหนด 2 วัน ที่ประชุมได้ตัดสินใจไม่เปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ย โดยลงคะแนนเสียง 8 ต่อ 1 เสียง ให้คงอยู่ใกล้ระดับศูนย์ที่ 0.25% ซึ่งกำหนดเอาไว้เมื่อเดือนที่แล้วต่อไปอีกสักระยะหนึ่ง
ทั้งนี้ เฟดได้ให้คำมั่นว่าจะใช้ทุกเครื่องมือเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ ซึ่งได้จัดเตรียมใช้นโบายทางการเงินอื่นๆ อาทิ การซื้อหนี้เสียในระยะยาวพร้อมขยายปริมาณการซื้อสินทรัพย์เสียดังกล่าว เพื่อให้สถานการณ์อันเกิดจากวิกฤตสินเชื่อดีขึ้น ท่ามกลางการหารือของเฟด กองทุนการเงินระหว่างประเทศหรือไอเอมเอฟ ก็ได้ปรับลดภาพรวมเศรษฐกิจของสหรัฐ โดยประเมินว่าในปี 2009 เศรษฐกิจจะหดตัว 1.6% ส่วนในวันศุกร์นี้ เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ มีกำหนดเปิดเผยสภาพการเคลื่อนไหวทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะสภาพการเศรษฐกิจในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 2008 ซึ่งคาดการว่าจะลดลงที่ 5.4%
