World Economic Forum เผยปี 2009 ศก.โลก กำลังเผชิญ 5 ปัจจัยเสี่ยง ทั้งราคาอาหาร น้ำมันดิบ ก๊าซธรรมชาติ ค่าเงินดอลลาร์ การขาดดุลของสหรัฐฯ ศก.จีนชะลอตัว และการขาดดุลของรัฐบาลทั่วโลก
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า World Economic Forum ได้เปิดเผยรายงาน ความยาว 37 หน้า ที่ระบุถึงปัจจัยเสี่ยงทางด้านเศรษฐกิจที่ประเทศต่างๆ ทั่วโลกจะต้องเผชิญ ในปี 2009 โดยระบุว่า ในปีนี้มีปัจจัยเสี่ยงในด้านต่างๆ ทั้งสิ้น 36 ด้าน ที่อาจสร้างผลกระทบต่อปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจโลก ที่เลวร้ายอยู่แล้วให้เลวร้ายยิ่งขึ้นไปอีก
อย่างไรก็ตาม ในจำนวนปัจจัยเสี่ยงทั้ง 36 ประการนี้ World Economic Forum ระบุว่ามีอยู่ 5 ประการที่น่าเป็นห่วงมากที่สุดประกอบไปด้วย ความไม่แน่นอนของราคาอาหารในตลาดโลก ซึ่งจะยังคงมีความผันแปรอย่างมากต่อไปตลอดช่วงหลายปีนับจากนี้ ปัจจัยประการที่ 2 คือ ราคาน้ำมันและก๊าซธรรมชาติในตลาดโลก ซึ่งจำเป็นต้องจับตาอย่างใกล้ชิดตลอดช่วง 12 เดือน นับจากนี้เช่นกัน
ขณะปัจจัยเสี่ยงลำดับที่ 3 World Economic Forum ระบุว่า อยู่ที่ความตกต่ำของเศรษฐกิจในสหรัฐอเมริกา ซึ่งประเด็นนี้จะต้องมีการจับตาดูใน 2 ตัวแปรสำคัญ คือ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ และผลกระทบที่จะเกิดขึ้นตามมาจากการขาดดุลงบประมาณ ที่มีสัดส่วนสูงของสหรัฐฯ
ส่วนปัจจัยเสี่ยงอันดับที่ 4 คือ การชลอตัวของเศรษฐกิจจีน ที่เกิดจากรายได้จากการส่งออกสินค้าตกลงอย่างใจหายแม้ทางการจีนจะพยายามกระตุ้นการใช้จ่ายภายในประเทศ เพื่อชดเชยรายได้จากการส่งออกแล้วก็ตาม แต่ยังไม่อาจช่วยให้เศรษฐกิจของชาติยักษ์ใหญ่ในเอเชียอย่างจีนรอดพ้นการชะลอตัวไปได้
และปัจจัยเสี่ยงที่ World Economic Forum มองว่าจะมีผลต่อเศรษฐกิจโลกเป็นลำดับที่ 5 ในปีนี้ คือ การที่ประเทศต่างๆ มีแนวโน้มจะต้องเผชิญกับวิกฤตด้านงบประมาณมากขึ้น เนื่องจาก แต่ละประเทศจำเป็นต้องนำเงินจำนวนมากไปใช้ในโครงการกู้วิกฤต และให้ความช่วยเหลือทางด้านสวัสดิการสังคมแก่คนในประเทศของตน ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดปัญหาด้านการจัดการงบประมาณตามมา และอาจทำให้วิกฤตเศรษฐกิจในแต่ละประเทศ ย่ำแย่ลงไปอีก
ทั้งนี้ World Economic Forum จะจัดการประชุมประจำปี 2009 ที่เมือง ดาวอส-คลอสเทอร์ส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ระหว่างวันที่ 28 มกราคม 2552 ถึง 1กุมภาพันธ์ 2552 นี้ ภายใต้หัวข้อ " Shaping the Post-Crisis World "