เตือนภาวะเศรษฐกิจไทย กำลังเดินหน้าเข้าสู่จุดวิกฤตรุนแรง คาดภายใน 3-4 เดือนข้างหน้าอาจเผาจริง ผู้บริหาร ตลท.แนะรัฐใช้งบกระตุ้นศก.รอบใหม่ อัดฉีดตรงสู่ภาคธุรกิจที่มีปัญหาโดยตรง หวั่นงบกลางปี 1.2 แสนล้าน ไม่ช่วยแกปัญหา เช่นเดียวกับสหรัฐฯ ที่ใส่เงินลงไปแล้ว แต่เศรษฐกิจก็ยังไม่ดีขึ้น
นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้บริหารสถาบันวิจัยเพื่อตลาดทุน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวถึงทิศทางเศรษฐกิจไทยในปี 2552 มีแนวโน้มที่จะปรับตัวแย่ลง ซึ่งจะเห็นได้ชัดในอีก 3-4 เดือนข้างหน้า โดยเชื่อว่า วิกฤตเศรษฐกิจโลกครั้งนี้รุนแรงสุดในรอบ 80 ปี ดังนั้น รัฐบาลอย่าไปหวังให้เศรษฐกิจโต 3-5% ขอเพียงใช้มาตรการพาให้ไทยพ้นวิกฤตครั้งนี้ไปได้ก็พอ
นายกอบศักดิ์ กล่าวถึงงบกระตุ้นเศรษฐกิจก้อนแรกของรัฐบาล 1.2 แสนล้านบาท เป็นนโยบายที่เน้นแก้ปัญหาปลายทางให้คนรากหญ้าเพียงบางกลุ่ม แต่ไม่ได้แก้ปัญหาที่ต้นเหตุ พร้อมแนะนำว่า งบกระตุ้นหลังจากนี้ รัฐบาลควรนำเงินมาอัดฉีดเพื่อกระตุ้นโดยตรงต่อภาคธุรกิจ ทั้งการส่งออก ท่องเที่ยว สินค้าเกษตร หรือภาคการผลิตที่กำลังประสบปัญหาสภาพคล่อง
ตอนนี้สังคมเริ่มตั้งคำถามแล้วว่า เงินกระตุ้นเศรษฐกิจที่รัฐบาลกำลังทุ่มลงไปแก้ปัญหาได้ตรงจุดหรือไม่ มิฉะนั้นอาจเหมือนสหรัฐฯ ที่ใส่เงินลงไปแล้ว แต่เศรษฐกิจยังไม่ดีขึ้น ขณะนี้ โอกาสที่การส่งออกของไทยจะติดลบ 10% มีสูงมาก เพราะปัญหาของสหรัฐฯ มาจากสถาบันการเงิน และส่งผลกระทบต่อการปล่อยสินเชื่อ
นายปรเมธี วิมลศิริ ที่ปรึกษาด้านนโยบายและแผนงาน สำนักงานพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) กล่าวถึงมาตรการที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจให้ตรงจุด ได้แก่ กระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ และการลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ (เมกะโปรเจกต์)