TYCN ปรับโครงสร้างเงินลงทุน ด้วยการ ลดเงินลงทุนใน ไทยคูนสติลอินเตอร์เนชั่นแนล พร้อมตั้ง AllManage International Limited เพื่อให้เข้าลงทุนถือหุ้นในส่วนที่บริษัทไทยคูล สตีล อินเตอร์เนชั่นแนล หวังนำเงินใช้ในการดำเนินงาน หลังพิษการเงินลุกลามส่งผลให้เศรษฐกิจทั่วโลกซบ
นายหยาง โป๋ หลง กรรมการ บริษัท ไทยคูน เวิลด์ไวด์ กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (TYCN) แจ้งว่ามติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2551 ว่าบอร์ดได้มีมติอนุมัติให้จัดตั้งบริษัทย่อยแห่งใหม่ในประเทศเกาะบริชติช เวอร์จิ้น (BVI) โดยมีชื่อว่า AllManage International Limited (AMIL) เพื่อวัตถุประสงค์ในการปรับโครงสร้างการลงทุน ซึ่งบริษัทย่อยแห่งใหม่นี้จะมีทุนจดทะเบียนทั้งสิ้น 23 ล้านเหรียญสหรัฐและมีบริษัทฯ เป็นผู้ถือหุ้นทั้งหมดร้อยละ 100 และที่ประชุมได้อนุมัติการปรับโครงสร้างการลงทุน โดยให้ AMIL เป็นผู้ถือหุ้นร้อยละ 10 ในบริษัท ไทยคูล สตีล อินเตอร์เนชั่นแนล (Tycoons Steel International Co., Ltd.) (TSI) ตั้งอยู่ที่เกาะเคย์แมน
ทั้งนี้ ตามที่เศรษฐกิจทั่วโลกในปัจจุบันอ่อนลง และความรุนแรงทางการเงินทั่วโลกส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรม เพื่อการใช้เงินลงทุนของผู้ถือหุ้นให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด และต้องการนำเงินไปใช้ในการดำเนินงานของบริษัท ซึ่งTSI ต้องการลดทุนจดทะเบียนชำระแล้วจำนวน 200 ล้านเหรียญสหรัฐ และชำระคืนให้กับผู้ถือหุ้นตามสัดส่วนของจำนวนหุ้น เดิม TSI มีทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 230 ล้านเหรียญสหรัฐ และจะเป็น 30 ล้านเหรียญสหรัฐ หลังจากทำการลดทุน และเมื่อเศรษฐกิจโลกกลับคืนสู่สภาวะปกติ TSI อาจจะเพิ่มทุนในสัดส่วนของจำนวนหุ้นอีกครั้ง
นอกจากนี้ บริษัทย่อย AMIL ของบริษัทฯ เดิมลงทุนใน TSI จำนวน 23 ล้านเหรียญสหรัฐ เทียบเท่าร้อยละ 10 ของจำนวนหุ้นใน TSI หลังจาก TSI ลดทุนจดทะเบียนลง บริษัท AMIL สามารถรับเอาเงินลงทุน จำนวน 20 ล้านเหรียญสหรัฐคืน ดังนั้น จำนวนเงินลงทุนของ AMIL ใน TSI จะเป็น 3 ล้านเหรียญสหรัฐ และสัดส่วนของผู้ถือหุ้นยังคงอยู่ร้อยละ 10
โดย บริษัทย่อย AMIL ของTYCN ทุนจดทะเบียนและชำระแล้ว 23 ล้านเหรียญสหรัฐ และ บริษัทฯ เป็นผู้ถือหุ้นทั้งหมด ร้อยละ100 ผลจากการที่ TSI ลดทุนจดทะเบียนชำระแล้ว ดังนั้น คณะกรรมการของบริษัทฯ ได้อนุมัติในการประชุมครั้งที่ 5/2551 เมื่อวันที่22 ธันวาคม 2551 ถึงแผนลดทุนจดทะเบียนของ AMIL ด้วย จากเดิม 23 ล้านเหรียญสหรัฐเป็น 3 ล้านเหรียญสหรัฐ จำนวนที่ลดลง 20 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 690 ล้านบาท (1 ดอลลาร์สหรัฐเท่ากับ 34.50 บาท) คิดเป็นร้อยละ 8.69 ของสินทรัพย์ที่มีตัวตน (งบการเงินของบริษัทฯ 30 กันยายน 2551) จะส่งคืนเงินลงทุนให้บริษัทฯ ก่อนวันที่ 31 ธันวาคม 2551 ดังนั้นเงินลงทุนของบริษัทฯ ใน AMIL จะเป็น 3 ล้านเหรียญสหรัฐ และบริษัทฯ ยังคงเป็นผู้ถือหุ้นทั้งหมด (ร้อยละ 100)
นายหยาง โป๋ หลง กรรมการ บริษัท ไทยคูน เวิลด์ไวด์ กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (TYCN) แจ้งว่ามติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2551 ว่าบอร์ดได้มีมติอนุมัติให้จัดตั้งบริษัทย่อยแห่งใหม่ในประเทศเกาะบริชติช เวอร์จิ้น (BVI) โดยมีชื่อว่า AllManage International Limited (AMIL) เพื่อวัตถุประสงค์ในการปรับโครงสร้างการลงทุน ซึ่งบริษัทย่อยแห่งใหม่นี้จะมีทุนจดทะเบียนทั้งสิ้น 23 ล้านเหรียญสหรัฐและมีบริษัทฯ เป็นผู้ถือหุ้นทั้งหมดร้อยละ 100 และที่ประชุมได้อนุมัติการปรับโครงสร้างการลงทุน โดยให้ AMIL เป็นผู้ถือหุ้นร้อยละ 10 ในบริษัท ไทยคูล สตีล อินเตอร์เนชั่นแนล (Tycoons Steel International Co., Ltd.) (TSI) ตั้งอยู่ที่เกาะเคย์แมน
ทั้งนี้ ตามที่เศรษฐกิจทั่วโลกในปัจจุบันอ่อนลง และความรุนแรงทางการเงินทั่วโลกส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรม เพื่อการใช้เงินลงทุนของผู้ถือหุ้นให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด และต้องการนำเงินไปใช้ในการดำเนินงานของบริษัท ซึ่งTSI ต้องการลดทุนจดทะเบียนชำระแล้วจำนวน 200 ล้านเหรียญสหรัฐ และชำระคืนให้กับผู้ถือหุ้นตามสัดส่วนของจำนวนหุ้น เดิม TSI มีทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 230 ล้านเหรียญสหรัฐ และจะเป็น 30 ล้านเหรียญสหรัฐ หลังจากทำการลดทุน และเมื่อเศรษฐกิจโลกกลับคืนสู่สภาวะปกติ TSI อาจจะเพิ่มทุนในสัดส่วนของจำนวนหุ้นอีกครั้ง
นอกจากนี้ บริษัทย่อย AMIL ของบริษัทฯ เดิมลงทุนใน TSI จำนวน 23 ล้านเหรียญสหรัฐ เทียบเท่าร้อยละ 10 ของจำนวนหุ้นใน TSI หลังจาก TSI ลดทุนจดทะเบียนลง บริษัท AMIL สามารถรับเอาเงินลงทุน จำนวน 20 ล้านเหรียญสหรัฐคืน ดังนั้น จำนวนเงินลงทุนของ AMIL ใน TSI จะเป็น 3 ล้านเหรียญสหรัฐ และสัดส่วนของผู้ถือหุ้นยังคงอยู่ร้อยละ 10
โดย บริษัทย่อย AMIL ของTYCN ทุนจดทะเบียนและชำระแล้ว 23 ล้านเหรียญสหรัฐ และ บริษัทฯ เป็นผู้ถือหุ้นทั้งหมด ร้อยละ100 ผลจากการที่ TSI ลดทุนจดทะเบียนชำระแล้ว ดังนั้น คณะกรรมการของบริษัทฯ ได้อนุมัติในการประชุมครั้งที่ 5/2551 เมื่อวันที่22 ธันวาคม 2551 ถึงแผนลดทุนจดทะเบียนของ AMIL ด้วย จากเดิม 23 ล้านเหรียญสหรัฐเป็น 3 ล้านเหรียญสหรัฐ จำนวนที่ลดลง 20 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 690 ล้านบาท (1 ดอลลาร์สหรัฐเท่ากับ 34.50 บาท) คิดเป็นร้อยละ 8.69 ของสินทรัพย์ที่มีตัวตน (งบการเงินของบริษัทฯ 30 กันยายน 2551) จะส่งคืนเงินลงทุนให้บริษัทฯ ก่อนวันที่ 31 ธันวาคม 2551 ดังนั้นเงินลงทุนของบริษัทฯ ใน AMIL จะเป็น 3 ล้านเหรียญสหรัฐ และบริษัทฯ ยังคงเป็นผู้ถือหุ้นทั้งหมด (ร้อยละ 100)