นัมเบอร์วันฯ หมูไม่กลัวน้ำร้อน เปิดทาวน์โฮม 71 ยูนิต ย่านราม 2 ระบุกลุ่มลูกค้าเป้าหมายไม่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจ เล็งขยายอาณาจักรอพาร์ตเมนต์เพิ่ม หวังเจาะกลุ่มลูกค้าคนทำงาน ค่าเช่า 4,000-6,500 บาท/เดือน จำนวน 175 ห้อง ระบุความต้องการมีอีกเพียบ จากปัจจุบันมีอยู่กว่า 3,000 ห้อง
นางสุกัญญา สุวรรณนภาศรี กรรมการบริหาร บริษัท นัมเบอร์วัน เฮ้าส์ซิ่ง ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด (เจ้าของปากคลองตลาด) เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนเปิดตัวโครงการทาวน์โฮม H2O จำนวน 71 ยูนิต ขนาด ที่ดิน 26 ตรว. พื้นที่ใช้สอย 191-291 ตร.ม. จำนวน 3-4 ชั้น ราคาเริ่มต้น 3.89 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 300 ล้านบาท โดยพื้นที่โครงการตั้งอยู่ติดกับโครงการ บลู ลากูล ย่านมหาวิทยาลัยรามคำแหง 2 เน้นกลุ่มลูกค้าที่ทำธุรกิจ รวมถึงพ่อค้า แม่ค้า ในย่านราม 2 สามารถปรับเปลี่ยนพื้นที่ใช้สอยได้ทั้งเป็นที่อยู่อาศัยสำนักงาน ปัจจุบันได้ทำการเปิดพรีเซลล์ไปแล้วและมียอดขาย 1 ยูนิต
สำหรับการเปิดตัวโครงการในช่วงเศรษฐกิจชะลอตัว ที่อาจมีความเสี่ยงในเรื่องการชะลอตัดสินใจของลูกค้า แต่สำหรับโครงการ H2O นั้นกลุ่มลูกค้าเป้าหมายส่วนใหญ่เป็นพ่อค้า แม่ค้า หรือเจ้าของกิจการที่ทำธุรกิจหรือค้าขายในย่านราม 2 ซึ่งเป็นย่านที่อยู่อาศัยมีอพาร์ตเมนต์กว่า 3,000 ห้อง ผู้อยู่อาศัยไม่น้อยกว่า 5,000 คน ทำให้มีกำลังซื้อจำนวนมาก ส่งผลให้การค้าขายในย่านราม 2 คึกคักอยู่ตลอดเวลา และบางรายต้องการขยับขยายธุรกิจของตนเองหรือซื้อไว้อยู่อาศัย ดังนั้นจึงเชื่อว่า โครงการดังกล่าวจะยังมียอดขายที่ดี“ช่วงที่เปิดขายบลู ลากูนมีลูกค้าให้ความสนใจจำนวนมาก แต่ด้วยโครงการดังกล่าวเป็นบ้านเดี่ยวระดับราคาตั้งแต่ 5 ล้านบาท ขึ้นไป ทำให้ลูกค้าบางกลุ่มมีกำลังซื้อไม่เพียงพอ ประกอบกับข้อมูลที่ได้รับจากลูกค้า ต้องการให้ทางบริษัทฯพัฒนาโครงการที่ราคาถูกลงกว่านี้ จึงได้ตัดสินใจพัฒนา H2O ขึ้นมา
ส่วนความคืบหน้าของยอดขายโครงการบลู ลากูลที่มีจำนวน 268 ยูนิตนั้น ปัจจุบันขายไปแล้วกว่า 100 ยูนิต โดยคาดว่าจะสามารถปิดการขายได้ภายในปีหน้า ส่วนการพัฒนาโครงการใหม่นั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ ส่วนที่ดินในย่านราม 2 ยังมีอีกหลายแปลง แปลงที่อยู่ด้านหน้า ม.ราม 2 ปัจจุบันเหลือที่ดินประมาณ 10% จากทั้งหมด 110 ไร่
นอกจากนี้ บริษัทยังอยู่ระหว่างลงทุนก่อสร้างอพาร์ตเมนต์ 1 อาคาร จำนวน 175 ห้อง คาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ประมาณ เดือนมีนาคม 2552 จากเดิมที่มีอยู่ประมาณ 3,000 ห้อง ราคาค่าเช่า 1,900-2,700 บาท/เดือน โดยอพาร์ตเมนต์แห่งใหม่นี้จะขยายฐานลูกค้าในระดับบนๆมากขึ้น เน้นกลุ่มลูกค้าคนทำงาน โดยจะมีค่าเช่าประมาณ 4,000-6,500 บาท/เดือน ซึ่งลูกค้ากลุ่มนี้ยังมีความต้องการห้องพักอีกจำนวนมาก
นางสุกัญญา สุวรรณนภาศรี กรรมการบริหาร บริษัท นัมเบอร์วัน เฮ้าส์ซิ่ง ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด (เจ้าของปากคลองตลาด) เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนเปิดตัวโครงการทาวน์โฮม H2O จำนวน 71 ยูนิต ขนาด ที่ดิน 26 ตรว. พื้นที่ใช้สอย 191-291 ตร.ม. จำนวน 3-4 ชั้น ราคาเริ่มต้น 3.89 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 300 ล้านบาท โดยพื้นที่โครงการตั้งอยู่ติดกับโครงการ บลู ลากูล ย่านมหาวิทยาลัยรามคำแหง 2 เน้นกลุ่มลูกค้าที่ทำธุรกิจ รวมถึงพ่อค้า แม่ค้า ในย่านราม 2 สามารถปรับเปลี่ยนพื้นที่ใช้สอยได้ทั้งเป็นที่อยู่อาศัยสำนักงาน ปัจจุบันได้ทำการเปิดพรีเซลล์ไปแล้วและมียอดขาย 1 ยูนิต
สำหรับการเปิดตัวโครงการในช่วงเศรษฐกิจชะลอตัว ที่อาจมีความเสี่ยงในเรื่องการชะลอตัดสินใจของลูกค้า แต่สำหรับโครงการ H2O นั้นกลุ่มลูกค้าเป้าหมายส่วนใหญ่เป็นพ่อค้า แม่ค้า หรือเจ้าของกิจการที่ทำธุรกิจหรือค้าขายในย่านราม 2 ซึ่งเป็นย่านที่อยู่อาศัยมีอพาร์ตเมนต์กว่า 3,000 ห้อง ผู้อยู่อาศัยไม่น้อยกว่า 5,000 คน ทำให้มีกำลังซื้อจำนวนมาก ส่งผลให้การค้าขายในย่านราม 2 คึกคักอยู่ตลอดเวลา และบางรายต้องการขยับขยายธุรกิจของตนเองหรือซื้อไว้อยู่อาศัย ดังนั้นจึงเชื่อว่า โครงการดังกล่าวจะยังมียอดขายที่ดี“ช่วงที่เปิดขายบลู ลากูนมีลูกค้าให้ความสนใจจำนวนมาก แต่ด้วยโครงการดังกล่าวเป็นบ้านเดี่ยวระดับราคาตั้งแต่ 5 ล้านบาท ขึ้นไป ทำให้ลูกค้าบางกลุ่มมีกำลังซื้อไม่เพียงพอ ประกอบกับข้อมูลที่ได้รับจากลูกค้า ต้องการให้ทางบริษัทฯพัฒนาโครงการที่ราคาถูกลงกว่านี้ จึงได้ตัดสินใจพัฒนา H2O ขึ้นมา
ส่วนความคืบหน้าของยอดขายโครงการบลู ลากูลที่มีจำนวน 268 ยูนิตนั้น ปัจจุบันขายไปแล้วกว่า 100 ยูนิต โดยคาดว่าจะสามารถปิดการขายได้ภายในปีหน้า ส่วนการพัฒนาโครงการใหม่นั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ ส่วนที่ดินในย่านราม 2 ยังมีอีกหลายแปลง แปลงที่อยู่ด้านหน้า ม.ราม 2 ปัจจุบันเหลือที่ดินประมาณ 10% จากทั้งหมด 110 ไร่
นอกจากนี้ บริษัทยังอยู่ระหว่างลงทุนก่อสร้างอพาร์ตเมนต์ 1 อาคาร จำนวน 175 ห้อง คาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ประมาณ เดือนมีนาคม 2552 จากเดิมที่มีอยู่ประมาณ 3,000 ห้อง ราคาค่าเช่า 1,900-2,700 บาท/เดือน โดยอพาร์ตเมนต์แห่งใหม่นี้จะขยายฐานลูกค้าในระดับบนๆมากขึ้น เน้นกลุ่มลูกค้าคนทำงาน โดยจะมีค่าเช่าประมาณ 4,000-6,500 บาท/เดือน ซึ่งลูกค้ากลุ่มนี้ยังมีความต้องการห้องพักอีกจำนวนมาก
