ตลาดหุ้นไทยภาคเช้าปิดเช้าบวก 0.66% สวนทิศทางตลาดต่างประเทศ โดยมีแรงซื้อในหุ้นกลุ่มพลังงาน โบรกฯ คาดนักลงทุนรายใหญ่ ผ่องถ่ายหุ้น-ล้างขาดทุนก่อนสิ้นปี โดยอาศัยกลไกรัฐ-อำนาจเหนือตลาด โดยอ้างเหตุพยุงสถานการณ์ตลาดหุ้น เชื่อดัชนียังไม่น่าจะยืนได้นาน เหตุ Sentiment ใน downside risk จากต่างประเทศยังมีอยู่กว้าง และปัจจัยการเมืองก็เป็นแรงกดดัน ล่าสุด ดัชนีภาคบ่ายปิดตลาดบวก 0.93%
วันนี้ ( 21 พ.ย.) ตลาดหุ้นไทยปิดตลาดช่วงเช้าที่ระดับ 396.45 จุด เพิ่มขึ้น 2.60 จุด เปลี่ยนแปลง +0.66% มูลค่าการซื้อขาย 6,865.44 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ PTT อยู่ที่ 141.00 บาท ลบ 1.00 บาท PTTEP อยู่ที่ 84.00 บาท ลบ 0.50 บาท BANPU อยู่ที่ 169.00 บาท บวก 2.00 บาท KBANK อยู่ที่ 45.50 บาท ลบ 0.25 บาท และ ITD อยู่ที่ 1.90 บาท บวก 0.10 บาท
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ ระบุว่า การปรับขึ้นของตลาดหุ้นไทยเช้านี้ สวนทางกับตลาดหุ้นในต่างประเทศ เนื่องจากนักลงทุนรายใหญ่ ได้เดินแผนปั่นหุ้น โดยประกาศเข้าซื้อหุ้นของตัวเอง ซึ่งเป้าหมายลึกๆ ก็เพื่อผ่องถ่ายหุ้นในมือ และหวังจะล้างขาดทุนในพอร์ตก่อนสิ้นปี โดยอาศัยกลไกนโยบายภาครัฐ และการใช้อำนาจเหนือตลาดที่มีอยู่ โดยอ้างว่าเป็นการพยุงสถานการณ์ตลาดหุ้น
น.ส.มยุรี โชวิกานต์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์ บล.กิมเอ็ง(ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มองว่าการเคลื่อนไหวเป็นในลักษณะของเทคนิคเคิลรีบาวน์ หลังจากที่ดัชนีก่อนหน้านี้ปรับตัวลงไปที่จุดต่ำสุดเดิมที่ 383-384 จุด ซึ่งตลาดบ้านเราดูดีกว่าตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ต่างปรับตัวลงกันทั่วหน้า
น.ส.มยุรี ยังเชื่อว่า ภาวะบวกในตลาดหุ้นไทยขณะนี้ คงจะไม่สามารถยืนได้นาน เนื่องจาก Sentiment ในเรื่องของ downside risk จากต่างประเทศยังมีอยู่กว้าง และปัจจัยการเมืองก็ดูเหมือนจะกลับมาอีกแล้ว ดังนั้นตลาดหุ้นไทยจึงเจอปัจจัยลบทั้งจากในประเทศและนอกประเทศ
แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ คาดว่า ตลาดฯน่าจะยังปรับตัวลง เนื่องจากเชื่อว่าเมื่อตลาดหุ้นในแถบยุโรปเปิดเทรดขึ้นมา ก็น่าจะมีแรงขายจากต่างชาติทางฝั่งยุโรปเข้ามาอีก พร้อมให้แนวรับ 380 จุด แนวต้าน 390 จุด
ทั้งนี้ ดัชนีปิดตลาดภาคบ่ายที่ระดับ 397.51 จุด เพิ่มขึ้น 3.66 จุด หรือเปลี่ยนแปลง 0.93% มูลค่าการซื้อขาย 11,342.84 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 1,168.05 ล้านบาท
