เกียรตินาคินจัดแคมเปญโละเอ็นพีเอส่งท้ายปี ขนทรัพย์ 100 รายการมูลค่า 800 ล้านให้ลูกค้าประมูล ระบุบางรายการมีราคาต่ำกว่าราคาตลาดสูงสุดถึง 45% จัดประมูลแบ่งเป็น 3 ครั้ง ครั้งแรกเริ่ม 27 ต.ค. นี้ ส่วนผลการดำเนินงานของธนาคารไตรมาส 3 ปี 2551 มีกำไรสุทธิ 674 ล้านบาท เพิ่ม 20%
นายธวัชไชย สุทธิกิจพิศาล กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) (KK)เปิดเผยว่า ปัจจุบันทรัพย์มือสองหรือทรัพย์สินรอการขาย(เอ็นพีเอ)ของธนาคาร นับเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภคมากขึ้น โดยภาพรวมเอ็นพีเอจะมีข้อได้เปรียบทางด้านที่ตั้ง ซึ่งเป็นทำเลที่ดีและหายากมากขึ้นในปัจจุบัน ทั้งนี้ ฝ่ายบริหารทรัพย์สินรอขายของธนาคารจึงได้จัดกิจกรรมพิเศษ “ประมูลทรัพย์คุณภาพ” ส่งท้ายปี โดยคัดทรัพย์คุณภาพร่วม 100 รายการ มาให้ทุกท่านได้ร่วมประมูล โดยแบ่งการประมูลเป็น 3 ครั้ง ซึ่งทรัพย์บางรายการมีราคาต่ำกว่าราคาตลาดสูงสุดถึง 45%
โดยเอ็นพีเอที่ธนาคารได้คัดเลือกมาเพื่อจัดประมูลในครั้งนี้ ส่วนใหญ่เป็นทรัพย์คุณภาพ นำไปพัฒนาต่อได้อีก ซึ่งบางแห่งเป็นที่ดินเปล่า ทำเลที่ตั้งดี รวมถึงบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ คอนโดมิเนียม อาคารพาณิชย์ เป็นต้น นอกจากนี้ ยังได้จัดเตรียมแคมเปญสินเชื่อเคหะ และการวางแผนทางการเงินไว้เพื่อรองรับการตัดสินใจสำหรับลูกค้าอีกด้วย
สำหรับกิจกรรมพิเศษ“ประมูลทรัพย์คุณภาพ”ส่งท้ายปี 2551 นี้ จัดรวม 3 ครั้ง แบ่งทรัพย์ออกเป็น 2 ประเภท คือ ทรัพย์ที่ราคาต่ำกว่า 10 ล้านบาท มีอยู่ 77 ชิ้น ส่วนใหญ่เป็น บ้านเดี่ยว, ทาวน์เฮ้าส์ และที่ดินเปล่า ทั่วประเทศ ส่วนทรัพย์ที่ราคาเกิน 10 ล้านบาท มี 22 ชิ้น ส่วนใหญ่เป็นทรัพย์เพื่อการลงทุน อาทิ ที่ดินเปล่า ในซอยพัฒนาการ 44 แปลง 3-2-19 ไร่ ราคาขั้นต่ำสำหรับการประมูล 38,596,800 บาท สำหรับแปลง 6-0-78 ไร่ ราคาขั้นต่ำสำหรับการประมูล 67,401,600 บาท มูลค่าร่วมของทรัพย์ที่นำออกมาประมูลครั้งนี้ประมาณ 800 ล้านบาท
"กิจกรรมพิเศษ “ประมูลทรัพย์คุณภาพ” ส่งท้ายปีทั้ง 3 ครั้งนี้ ใช้วิธียื่นซองประมูล (Tender offer) ผู้ที่เข้าประมูลจะต้องวางหลักทรัพย์ค้ำประกัน และปฏิบัติตามเงื่อนไขของธนาคาร โดยผู้ที่เสนอราคาสูงที่สุดและไม่น้อยกว่าราคาขั้นต่ำที่ธนาคารประกาศขาย จะเป็นผู้ชนะการประมูล สำหรับท่านที่สนใจสามารถดูรายละเอียดทรัพย์สินของธนาคาร ที่จะขายทุกรายการได้ที่ www.kkasset.com หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Call Center โทร 0-2680-3420-1 ทุกวัน ตามเวลาทำการ"นายธวัชไชยกล่าว
ส่วนผลการดำเนินงานของธนาคาร และบริษัทย่อย ในไตรมาส 3 ปี 2551 มีกำไรสุทธิ 674 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% เมื่อ เทียบกับไตรมาส 3 ปี 2550 ส่วนงวด 9 เดือนแรก สิ้นสุด 30 กันยายน 2551 ธนาคารฯ และบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ 1,532 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวของปีก่อน ซึ่งมาจากการขยายตัวของสินเชื่อเช่าซื้อที่เติบโตขึ้น 30.3% สินทรัพย์รวมของธนาคารฯ เพิ่มขึ้นเป็น 106,566 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.2% จากสิ้นปี 2550 ส่วนยอดทรัพย์สินรอการขายมีมูลค่ารวมประมาณ 7,722 ล้านบาท โดย 9 เดือนแรก ธนาคารได้จำหน่ายทรัพย์สินรอการขายได้ราว 1,210 ล้านบาท และคาดว่าจะทยอยลดขนาดลงจนหมดภายใน 2-5 ปีข้างหน้า
นายธวัชไชย สุทธิกิจพิศาล กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) (KK)เปิดเผยว่า ปัจจุบันทรัพย์มือสองหรือทรัพย์สินรอการขาย(เอ็นพีเอ)ของธนาคาร นับเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภคมากขึ้น โดยภาพรวมเอ็นพีเอจะมีข้อได้เปรียบทางด้านที่ตั้ง ซึ่งเป็นทำเลที่ดีและหายากมากขึ้นในปัจจุบัน ทั้งนี้ ฝ่ายบริหารทรัพย์สินรอขายของธนาคารจึงได้จัดกิจกรรมพิเศษ “ประมูลทรัพย์คุณภาพ” ส่งท้ายปี โดยคัดทรัพย์คุณภาพร่วม 100 รายการ มาให้ทุกท่านได้ร่วมประมูล โดยแบ่งการประมูลเป็น 3 ครั้ง ซึ่งทรัพย์บางรายการมีราคาต่ำกว่าราคาตลาดสูงสุดถึง 45%
โดยเอ็นพีเอที่ธนาคารได้คัดเลือกมาเพื่อจัดประมูลในครั้งนี้ ส่วนใหญ่เป็นทรัพย์คุณภาพ นำไปพัฒนาต่อได้อีก ซึ่งบางแห่งเป็นที่ดินเปล่า ทำเลที่ตั้งดี รวมถึงบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ คอนโดมิเนียม อาคารพาณิชย์ เป็นต้น นอกจากนี้ ยังได้จัดเตรียมแคมเปญสินเชื่อเคหะ และการวางแผนทางการเงินไว้เพื่อรองรับการตัดสินใจสำหรับลูกค้าอีกด้วย
สำหรับกิจกรรมพิเศษ“ประมูลทรัพย์คุณภาพ”ส่งท้ายปี 2551 นี้ จัดรวม 3 ครั้ง แบ่งทรัพย์ออกเป็น 2 ประเภท คือ ทรัพย์ที่ราคาต่ำกว่า 10 ล้านบาท มีอยู่ 77 ชิ้น ส่วนใหญ่เป็น บ้านเดี่ยว, ทาวน์เฮ้าส์ และที่ดินเปล่า ทั่วประเทศ ส่วนทรัพย์ที่ราคาเกิน 10 ล้านบาท มี 22 ชิ้น ส่วนใหญ่เป็นทรัพย์เพื่อการลงทุน อาทิ ที่ดินเปล่า ในซอยพัฒนาการ 44 แปลง 3-2-19 ไร่ ราคาขั้นต่ำสำหรับการประมูล 38,596,800 บาท สำหรับแปลง 6-0-78 ไร่ ราคาขั้นต่ำสำหรับการประมูล 67,401,600 บาท มูลค่าร่วมของทรัพย์ที่นำออกมาประมูลครั้งนี้ประมาณ 800 ล้านบาท
"กิจกรรมพิเศษ “ประมูลทรัพย์คุณภาพ” ส่งท้ายปีทั้ง 3 ครั้งนี้ ใช้วิธียื่นซองประมูล (Tender offer) ผู้ที่เข้าประมูลจะต้องวางหลักทรัพย์ค้ำประกัน และปฏิบัติตามเงื่อนไขของธนาคาร โดยผู้ที่เสนอราคาสูงที่สุดและไม่น้อยกว่าราคาขั้นต่ำที่ธนาคารประกาศขาย จะเป็นผู้ชนะการประมูล สำหรับท่านที่สนใจสามารถดูรายละเอียดทรัพย์สินของธนาคาร ที่จะขายทุกรายการได้ที่ www.kkasset.com หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Call Center โทร 0-2680-3420-1 ทุกวัน ตามเวลาทำการ"นายธวัชไชยกล่าว
ส่วนผลการดำเนินงานของธนาคาร และบริษัทย่อย ในไตรมาส 3 ปี 2551 มีกำไรสุทธิ 674 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% เมื่อ เทียบกับไตรมาส 3 ปี 2550 ส่วนงวด 9 เดือนแรก สิ้นสุด 30 กันยายน 2551 ธนาคารฯ และบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ 1,532 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวของปีก่อน ซึ่งมาจากการขยายตัวของสินเชื่อเช่าซื้อที่เติบโตขึ้น 30.3% สินทรัพย์รวมของธนาคารฯ เพิ่มขึ้นเป็น 106,566 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.2% จากสิ้นปี 2550 ส่วนยอดทรัพย์สินรอการขายมีมูลค่ารวมประมาณ 7,722 ล้านบาท โดย 9 เดือนแรก ธนาคารได้จำหน่ายทรัพย์สินรอการขายได้ราว 1,210 ล้านบาท และคาดว่าจะทยอยลดขนาดลงจนหมดภายใน 2-5 ปีข้างหน้า