อารียาฯ ปรับแผนลดต้นทุนก่อสร้าง หลังทุ่มงบซื้อหุ้น “วันอัพ”เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่99.99% หวังดึงระบบก่อสร้างสำเร็จรูปรองกับแผนพัฒนาโครงการทาวน์เฮาส์แบรนด์เดอะคัลเลอร์ –เอ สเปซ คุมต้นทุนก่อสร้าง ป้องการผันผวนราคาวัสดุ พร้อมส่ง “วันอัพ”รับงานก่อสร้างในตลาดเพิ่มรายได้ แจงปี52ลดคอนโดฯเพิ่มสัดส่วนพัฒนาทาวน์เฮาส์ ยันเสียงแข็งซัปพลายคอนโดฯในตลาดยังเหลืออื้อ ผู้ประกอบการหน้าใหม่ตบเท้าเข้าตลาดเพียบ
นายวิศิษฎ์ เลาหพูนรังษี ประธานกรรมการ บริษัท อารียา พรอพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ A กล่าวว่า ปัญหาวิกฤตการเงินและการผันผวนของราคาน้ำมันและปัญหาการผันผวนของราคาวัสดุก่อสร้าง ส่งผลให้ในปัจจุบันผู้ประกอบการอสังหาฯ ต้องให้ความสำคัญกับการควบคุมต้นทุนการพัฒนาโครงการอย่างมาก โดยเฉพาะปัญหาการผันผวนของราคาวัสดุก่อสร้าง ซึ่งได้รับผลกระทบจากการปรับตัวของราคาน้ำมันที่ร้อนแรงต่อเนื่องในช่วง1-2ปีที่ผ่านมา จากปัญหาดังกล่าวทำให้ผู้ปะกอบการนำระบบบริหารสต็อกวัสดุก่อสร้างเข้ามาใช้
โดยก่อนหน้านั้นผู้ประกอบการใช้วิธีการสต็อกวัสดุก่อสร้างบางตัว โดยเฉพาะวัสดุประเภทเหล็ก ที่มีราคาผันผวนสูง โดยมีการปรับตัวกว่า 100% เพื่อให้สามารถคุมต้นทุนการก่อสร้างไม่ให้ผันผวนมากนัก แต่อย่างไรก็ตาม หลังการเกิดวิกฤตการเงินโลกแล้ว ราคาวัสดุก่อสร้างหลายๆประเภท มีต้นทุนลดลง แต่ปัญหาคือผู้ประกอบการค้าวัสดุก่อสร้างยังไม่มีการปรับลดราคาวัสดุก่อสร้างลง หรือมีการปรับราคาลงน้อยกว่าที่ควรเป็น
“เพื่อเป็นการลดต้นทุนการก่อสร้างทำให้ผู้ประกอบการหลายๆ ราย ลงทุนในระบบการก่อสร้างสำเร็จรูป เพื่อรองรับงานก่อสร้างและพัฒนาโครงการของตนเอง ซึ่งสามารถช่วยลดต้นทุนการก่อสร้างและช่วยลดระยะเวลาการก่อสร้างลง ซึ่งบริษัทอารียาฯ เองก็มีแผนการนำเทคโนยโลยีการก่อสร้างดังกล่าวเข้ามารองรับการพัฒนาโครงการใหม่ในอนาคต รวมถึงมีแผนจะเข้าไปรับงานก่อสร้างในตลาดด้วย ”
นายวิศิษฎ์ กล่าวว่า ทั้งนี้ หลังจากที่คณะกรรมการ(บอร์ด)บริหารของบริษัทฯ มีการหารือกันในเรื่องดังกล่าว ที่ประชุมบอร์ดบริหาร ได้มีมติให้บริษัทอารียาฯ ทำการซื้อหุ้นสามัญของบริษัท วันอัพ จำกัด จากบริษัท เอส-ไลท์ คอนกรีต จำกัด ซึ่งจดทะเบียนในประเทศมาเลเซีย เพิ่มอีก 34.99% โดยมีการชำระค่าหุ้นแล้วเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 6.9 ล้านบาท ในราคามูลค่าตามบัญชี 9.99 บาทต่อหุ้น ในเดือน สิงหาคม 2551 ทำให้ปัจจุบัน บริษัท อารียาฯ จะถือหุ้นในบริษัท วันอัพ จำกัด เพิ่มจาก 64.99% เป็น 99.99 %
สำหรับการตัดสินใจซื้อหุ้นบริษัท วันอัพ ไว้เองทั้งหมดนั้น เนื่องจากบริษัทมีแผนจะนำเทคโนโลยีการก่อสร้างระบบสำเร็จรูปของ วันอัพ เข้ามารองรับการก่อสร้างโครงการทาวน์เฮาส์แบรนด์เดอะคัลเลอร์ และโครงการคอนโดมิเนียมในปี52 รวมถึงการเข้าไปรับงานก่อสร้างในตลาดด้วย โดยเฉพาะงานก่อสร้างทาวน์เฮาส์ของบริษัทในปีหน้า ซึ่งบริษัทมีแผนจะเพิ่มจำนวนให้มากขึ้นในขณะเดียวกันก็จะลดจำนวนการพัฒนาโครงการคอนโดมมิเนียมลง เนื่องจาก จำนวนสินค้า(ซัปพลาย)คอนโดฯในตลาดมีเหลือค่อนข้างมา ประกอบกับจำนวนผู้พัฒนาเองก็ขยายจำนวนเพิ่มขึ้น
“ในปีหน้านอกจากเราจะใช้บริษัทวันอัพ เข้ามาสนับสนุนการก่อสร้างขอบริษัทแล้ว ยังมีแผนจะส่งวันอัพ ออกรับงานก่อสร้างในตลาดด้วย ซึ่งจะทำให้บริษัทมีรายได้จากทั้งในส่วนการพัฒนาโครงการและการรับงานก่อสร้างจากภายนอกด้วย”
นายวิศิษฎ์ กล่าวอีกว่า ภาวะวิกฤตการเงินในปัจจุบันทำให้สถาบันการเงินมีความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น บริษัทจึงแก้ปัญหาให้แก่ลูกค้าโครงการที่ขอสินเชื่อไม่ผ่าน ซึ่งมีอยู่ประมาณ20% โดยการเจรจากับสถาบันการเงินที่ปล่อยสินเชื่อโครงการให้พิจารณาสินเชื่อแก่ลูกค้าที่ซื้อโครงการด้วย
ส่วนแผนการตลาด เพื่อเร่งการตัดสินใจลูกค้าให้เร็วขึ้น บริษัทได้ร่วมกับกลุ่มพานาโซนิคนำสินค้าเทคโนโลยีที่สามารถใช้ในบ้านและที่อยู่อาศัยไปใช้กับโครงการเอ สเปซ อ่อนนุช ขณะนี้อยู่ระหว่างการทยอยโอน 4 อาคาร จาก 8 อาคาร คิดเป็นยอดขาย 1,800 ล้านบาท โอนไปแล้ว 300 ล้านบาท คาดว่าภายในเดือน ธ.ค.จะมียอดโอน 400 ล้านบาท ที่เหลือจะโอนได้ทั้งหมดในเดือน มี.ค.52
นายวิศิษฎ์ เลาหพูนรังษี ประธานกรรมการ บริษัท อารียา พรอพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ A กล่าวว่า ปัญหาวิกฤตการเงินและการผันผวนของราคาน้ำมันและปัญหาการผันผวนของราคาวัสดุก่อสร้าง ส่งผลให้ในปัจจุบันผู้ประกอบการอสังหาฯ ต้องให้ความสำคัญกับการควบคุมต้นทุนการพัฒนาโครงการอย่างมาก โดยเฉพาะปัญหาการผันผวนของราคาวัสดุก่อสร้าง ซึ่งได้รับผลกระทบจากการปรับตัวของราคาน้ำมันที่ร้อนแรงต่อเนื่องในช่วง1-2ปีที่ผ่านมา จากปัญหาดังกล่าวทำให้ผู้ปะกอบการนำระบบบริหารสต็อกวัสดุก่อสร้างเข้ามาใช้
โดยก่อนหน้านั้นผู้ประกอบการใช้วิธีการสต็อกวัสดุก่อสร้างบางตัว โดยเฉพาะวัสดุประเภทเหล็ก ที่มีราคาผันผวนสูง โดยมีการปรับตัวกว่า 100% เพื่อให้สามารถคุมต้นทุนการก่อสร้างไม่ให้ผันผวนมากนัก แต่อย่างไรก็ตาม หลังการเกิดวิกฤตการเงินโลกแล้ว ราคาวัสดุก่อสร้างหลายๆประเภท มีต้นทุนลดลง แต่ปัญหาคือผู้ประกอบการค้าวัสดุก่อสร้างยังไม่มีการปรับลดราคาวัสดุก่อสร้างลง หรือมีการปรับราคาลงน้อยกว่าที่ควรเป็น
“เพื่อเป็นการลดต้นทุนการก่อสร้างทำให้ผู้ประกอบการหลายๆ ราย ลงทุนในระบบการก่อสร้างสำเร็จรูป เพื่อรองรับงานก่อสร้างและพัฒนาโครงการของตนเอง ซึ่งสามารถช่วยลดต้นทุนการก่อสร้างและช่วยลดระยะเวลาการก่อสร้างลง ซึ่งบริษัทอารียาฯ เองก็มีแผนการนำเทคโนยโลยีการก่อสร้างดังกล่าวเข้ามารองรับการพัฒนาโครงการใหม่ในอนาคต รวมถึงมีแผนจะเข้าไปรับงานก่อสร้างในตลาดด้วย ”
นายวิศิษฎ์ กล่าวว่า ทั้งนี้ หลังจากที่คณะกรรมการ(บอร์ด)บริหารของบริษัทฯ มีการหารือกันในเรื่องดังกล่าว ที่ประชุมบอร์ดบริหาร ได้มีมติให้บริษัทอารียาฯ ทำการซื้อหุ้นสามัญของบริษัท วันอัพ จำกัด จากบริษัท เอส-ไลท์ คอนกรีต จำกัด ซึ่งจดทะเบียนในประเทศมาเลเซีย เพิ่มอีก 34.99% โดยมีการชำระค่าหุ้นแล้วเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 6.9 ล้านบาท ในราคามูลค่าตามบัญชี 9.99 บาทต่อหุ้น ในเดือน สิงหาคม 2551 ทำให้ปัจจุบัน บริษัท อารียาฯ จะถือหุ้นในบริษัท วันอัพ จำกัด เพิ่มจาก 64.99% เป็น 99.99 %
สำหรับการตัดสินใจซื้อหุ้นบริษัท วันอัพ ไว้เองทั้งหมดนั้น เนื่องจากบริษัทมีแผนจะนำเทคโนโลยีการก่อสร้างระบบสำเร็จรูปของ วันอัพ เข้ามารองรับการก่อสร้างโครงการทาวน์เฮาส์แบรนด์เดอะคัลเลอร์ และโครงการคอนโดมิเนียมในปี52 รวมถึงการเข้าไปรับงานก่อสร้างในตลาดด้วย โดยเฉพาะงานก่อสร้างทาวน์เฮาส์ของบริษัทในปีหน้า ซึ่งบริษัทมีแผนจะเพิ่มจำนวนให้มากขึ้นในขณะเดียวกันก็จะลดจำนวนการพัฒนาโครงการคอนโดมมิเนียมลง เนื่องจาก จำนวนสินค้า(ซัปพลาย)คอนโดฯในตลาดมีเหลือค่อนข้างมา ประกอบกับจำนวนผู้พัฒนาเองก็ขยายจำนวนเพิ่มขึ้น
“ในปีหน้านอกจากเราจะใช้บริษัทวันอัพ เข้ามาสนับสนุนการก่อสร้างขอบริษัทแล้ว ยังมีแผนจะส่งวันอัพ ออกรับงานก่อสร้างในตลาดด้วย ซึ่งจะทำให้บริษัทมีรายได้จากทั้งในส่วนการพัฒนาโครงการและการรับงานก่อสร้างจากภายนอกด้วย”
นายวิศิษฎ์ กล่าวอีกว่า ภาวะวิกฤตการเงินในปัจจุบันทำให้สถาบันการเงินมีความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น บริษัทจึงแก้ปัญหาให้แก่ลูกค้าโครงการที่ขอสินเชื่อไม่ผ่าน ซึ่งมีอยู่ประมาณ20% โดยการเจรจากับสถาบันการเงินที่ปล่อยสินเชื่อโครงการให้พิจารณาสินเชื่อแก่ลูกค้าที่ซื้อโครงการด้วย
ส่วนแผนการตลาด เพื่อเร่งการตัดสินใจลูกค้าให้เร็วขึ้น บริษัทได้ร่วมกับกลุ่มพานาโซนิคนำสินค้าเทคโนโลยีที่สามารถใช้ในบ้านและที่อยู่อาศัยไปใช้กับโครงการเอ สเปซ อ่อนนุช ขณะนี้อยู่ระหว่างการทยอยโอน 4 อาคาร จาก 8 อาคาร คิดเป็นยอดขาย 1,800 ล้านบาท โอนไปแล้ว 300 ล้านบาท คาดว่าภายในเดือน ธ.ค.จะมียอดโอน 400 ล้านบาท ที่เหลือจะโอนได้ทั้งหมดในเดือน มี.ค.52
