อัปยศการเมืองแบบเก่า ใช้อำนาจมิชอบผ่านหน่วยงาน คปภ.บีบบริษัทประกันห้ามขายกรมธรรม์อิสรภาพให้นักรบศรีวิชัยผู้ต้องหาบุกเอ็นบีที "วิริยะประกันภัย" ป่วน ต้องเรียกประชุมบอร์ด ถกกระแสกดดัน ลั่นยึดหลักธุรกิจ แต่ยอมรับช่วยได้แค่ 9 ราย วงการแฉหากฮึดฮัดอาจเจออำนาจมืดสั่งสรรพากรเล่นงานภาษี หมอเลี้ยบปัดแทรกแซง ยันเป็นเรื่องเอกชน
จากปัญหาความล่าช้าในการขอปล่อยตัวชั่วคราวกลุ่มนักรบศรีวิชัยและการ์ดพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ผู้ต้องหาคดีร่วมกันใช้กำลังบุกรุกเข้าไปยึดอาคารสำนักงานสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (NBT) แหล่งข่าววงการประกันภัยเปิดเผยว่า มีการแทรกแซงจากฝ่ายการเมืองไม่ให้เอกชนขายกรมธรรม์อิสรภาพ โดยสั่งการผ่านคณะกรรมการส่งเสริมและกำกับการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ที่กำกับบริษัทประกันภัยให้สั่งบริษัทประกันอีกทอด สร้างความอึดอัดให้บริษัทประกันภัยและกระทบต่อการขอปล่อยตัวชั่วคราวของผู้ต้องหากลุ่มดังกล่าว
ทั้งนี้ หลักทั่วไปในการซื้อกรมธรรม์ประกันอิสรภาพจากบริษัทประกันภัยนั้น คดีที่บริษัทจะปฏิเสธรับทำประกันนั้นคือคดีที่ผิดศีลธรรม เช่น คดียาเสพติดและคดีกระทำชำเรา บริษัทประกันภัยในประเทศที่รับทำประกันอิสรภาพมีการห้ามแค่ 2 เงื่อนไขนี้เท่านั้น ดังนั้นการบุกเข้ายึดสถานีโทรทัศน์เอ็นบีทีเมื่อวันที่ 26 สิงหาคมที่ผ่านมาถือเป็นกรณีทั่วไป หากเป็นประเด็นทางการเมือง ก็ยังถือเป็นเรื่องเล็กน้อยคือทำลายทรัพย์สินทางราชการ บริษัทประกันภัยก็สามารถรับทำประกันอิสรภาพได้โดยไม่มีปัญหาแต่อย่างใดไม่ถือเป็นเรื่องร้ายแรง
"ฝ่ายการเมืองแทรกแซงเพราะการบุกยึดและทำลายทรัพย์สินเอ็นบีที เป็นการกระทำของฝ่ายตรงข้ามกับรัฐบาล เป็นเหตุผลให้การประกันตัวล่าช้า มีเพียงบริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด ที่ยืนยันจะขายประกันตามหลักธุรกิจ เมื่อวานนี้ (9 ก.ย.) ก็ยังคงชะลอไว้ก่อน ส่วนบริษัทอื่นกลัวว่าอำนาจกระทรวงการคลังใช้กรมสรรพากรมาเล่นงานเรื่องภาษี" แหล่งข่าวกล่าวและว่า การแทรกแซงจากฝ่ายการเมืองมีตั้งแต่การตั้งวงเงินหลักทรัพย์ที่เดิมตั้งไว้นักศึกษา 20,000 บาท ส่วนที่ไม่เป็นนักศึกษา 50,000 บาท แต่พอถึงเวลาที่ทนายพันธมิตรยื่นประกันวงเงินประกันเพิ่มเป็น 200,000 ทุกราย นอกจากนี้ผู้ต้องหาส่วนใหญ่ แม้จะมีการซื้อกรมธรรม์จากบริษัทไปได้ก็ไม่สามารถจะใช้ได้ เนื่องจากทางองค์คณะผู้พิพากษาไม่ให้ประกันตัว
***วิริยะดิ้นช่วยได้แค่นักศึกษา
รายงานข่าวระบุว่า วานนี้ (10 ก.ย.) คณะกรรมการบริษัทฯ มีการเรียกประชุมด่วนก่อนมีคำสั่งห้ามผู้บริหารและพนักงานให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ทั้งนี้ การรับประกันผู้ต้องหาจะเข้มงวดมากขึ้น
แหล่งข่าวบริษัท วิริยะประกันภัยยอมรับว่า ผู้ต้องหาจะไม่ได้รับประกันทุกราย ส่วนความคืบหน้าล่าสุดบริษัทรับประกันเฉพาะที่เป็นนักศึกษาทั้งสิ้น 9 ราย บริษัทฯ พยายามเต็มความสามารถและยึดหลักธุรกิจ เมื่อประกอบกับเหตุผลที่เห็นว่าทั้ง 9 รายยังศึกษาอยู่ มีโอกาสที่จะหลบคดีน้อย ประกอบกับมีญาติร่วมค้ำประกันจึงได้รับการให้ประกัน
"ที่เหลือบริษัทไม่ปฏิเสธแต่ต้องดูรายละเอียดอีกครั้งหนึ่ง เราขอย้ำว่าเราเป็นกลางไม่ได้อยู่ข้างใคร แต่ทุกคนมีสิทธิเสรีภาพก็ต้องต่อสู้ว่าเป็นกบฎจริงหรือ ข้อหามันดูร้ายแรง ทุกคนเป็นผู้ต้องหา เขายังไม่ผิด ก็ต้องมีโอกาสต่อสู้ และนักศึกษาที่เรารับก็เพื่อให้เขามีโอกาสและความเสี่ยงที่จะหนีก็มีน้อย"
สำหรับค่าใช้จ่ายการซื้อกรมธรรม์ประกันอิสรภาพนั้นโดยปกติแล้วหากผู้ที่มีอาชีพเสี่ยงซื้อไว้ก่อนเกิดคดีความจะคิดที่อัตรา 1% ของวงเงินหลักทรัพย์ค้ำประกัน แต่หากซื้อหลังจากเกิดคดีความจะคิดในอัตรา 7% ของวงเงินหลักทรัพย์ค้ำประกัน ซึ่งกรณีของกลุ่มนักรบศรีวิชัยนั้นซื้อแบบกลุ่ม บริษัทอาจคิดค่าเบี้ยในอัตราส่วนลดพิเศษให้ด้วยโดยดูผู้ค้ำประกันว่ามีความน่าเชื่อถือในสังคมหรือไม่
บ่ายวานนี้ นายนิติธร ล้ำเหลือ ทนายความสิทธิมนุษยชน สภาทนายความ เปิดเผยว่ายื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว ผู้ต้องหาคดี 18 คน โดยยื่นหลักทรัพย์ เป็นกรมธรรม์ประกันอิสรภาพของ บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัดและเงินสด มูลค่าคนละ 200,000 บาท ศาลพิจารณาคำร้องและหลักทรัพย์แล้ว จึงมีคำสั่งปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องหาไปก่อนเพียง 2 คน ที่เหลืออีก 16 คน ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาสั่งประกันของศาล
***เลี้ยบปัดแทรกแซงเอกชน
เกี่ยวกับกรณีดังกล่าว นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รักษาการรองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ในฐานะผู้ดูแลสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมและกำกับการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ที่กำกับบริษัทประกันภัย กล่าวว่า ตนไม่ได้สั่งการหรือห้ามบริษัทประกันภัยปฏิเสธการรับประกันอิสรภาพของกลุ่มนักรบศรีวิชัย เพราะเป็นเรื่องการทำธุรกิจของภาคเอกชนที่จะตัดสินใจรับทำประกันอิสรภาพให้กับกลุ่มผู้ถูกจับกลุ่มหรือไม่
"กระทรวงการคลังไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องหรือแทรกแซง เป็นเรื่องบริหารความเสี่ยงของภาคเอกชนในการทำธุรกิจ” นพ.สุรพงษ์กล่าว
จากปัญหาความล่าช้าในการขอปล่อยตัวชั่วคราวกลุ่มนักรบศรีวิชัยและการ์ดพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ผู้ต้องหาคดีร่วมกันใช้กำลังบุกรุกเข้าไปยึดอาคารสำนักงานสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (NBT) แหล่งข่าววงการประกันภัยเปิดเผยว่า มีการแทรกแซงจากฝ่ายการเมืองไม่ให้เอกชนขายกรมธรรม์อิสรภาพ โดยสั่งการผ่านคณะกรรมการส่งเสริมและกำกับการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ที่กำกับบริษัทประกันภัยให้สั่งบริษัทประกันอีกทอด สร้างความอึดอัดให้บริษัทประกันภัยและกระทบต่อการขอปล่อยตัวชั่วคราวของผู้ต้องหากลุ่มดังกล่าว
ทั้งนี้ หลักทั่วไปในการซื้อกรมธรรม์ประกันอิสรภาพจากบริษัทประกันภัยนั้น คดีที่บริษัทจะปฏิเสธรับทำประกันนั้นคือคดีที่ผิดศีลธรรม เช่น คดียาเสพติดและคดีกระทำชำเรา บริษัทประกันภัยในประเทศที่รับทำประกันอิสรภาพมีการห้ามแค่ 2 เงื่อนไขนี้เท่านั้น ดังนั้นการบุกเข้ายึดสถานีโทรทัศน์เอ็นบีทีเมื่อวันที่ 26 สิงหาคมที่ผ่านมาถือเป็นกรณีทั่วไป หากเป็นประเด็นทางการเมือง ก็ยังถือเป็นเรื่องเล็กน้อยคือทำลายทรัพย์สินทางราชการ บริษัทประกันภัยก็สามารถรับทำประกันอิสรภาพได้โดยไม่มีปัญหาแต่อย่างใดไม่ถือเป็นเรื่องร้ายแรง
"ฝ่ายการเมืองแทรกแซงเพราะการบุกยึดและทำลายทรัพย์สินเอ็นบีที เป็นการกระทำของฝ่ายตรงข้ามกับรัฐบาล เป็นเหตุผลให้การประกันตัวล่าช้า มีเพียงบริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด ที่ยืนยันจะขายประกันตามหลักธุรกิจ เมื่อวานนี้ (9 ก.ย.) ก็ยังคงชะลอไว้ก่อน ส่วนบริษัทอื่นกลัวว่าอำนาจกระทรวงการคลังใช้กรมสรรพากรมาเล่นงานเรื่องภาษี" แหล่งข่าวกล่าวและว่า การแทรกแซงจากฝ่ายการเมืองมีตั้งแต่การตั้งวงเงินหลักทรัพย์ที่เดิมตั้งไว้นักศึกษา 20,000 บาท ส่วนที่ไม่เป็นนักศึกษา 50,000 บาท แต่พอถึงเวลาที่ทนายพันธมิตรยื่นประกันวงเงินประกันเพิ่มเป็น 200,000 ทุกราย นอกจากนี้ผู้ต้องหาส่วนใหญ่ แม้จะมีการซื้อกรมธรรม์จากบริษัทไปได้ก็ไม่สามารถจะใช้ได้ เนื่องจากทางองค์คณะผู้พิพากษาไม่ให้ประกันตัว
***วิริยะดิ้นช่วยได้แค่นักศึกษา
รายงานข่าวระบุว่า วานนี้ (10 ก.ย.) คณะกรรมการบริษัทฯ มีการเรียกประชุมด่วนก่อนมีคำสั่งห้ามผู้บริหารและพนักงานให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ทั้งนี้ การรับประกันผู้ต้องหาจะเข้มงวดมากขึ้น
แหล่งข่าวบริษัท วิริยะประกันภัยยอมรับว่า ผู้ต้องหาจะไม่ได้รับประกันทุกราย ส่วนความคืบหน้าล่าสุดบริษัทรับประกันเฉพาะที่เป็นนักศึกษาทั้งสิ้น 9 ราย บริษัทฯ พยายามเต็มความสามารถและยึดหลักธุรกิจ เมื่อประกอบกับเหตุผลที่เห็นว่าทั้ง 9 รายยังศึกษาอยู่ มีโอกาสที่จะหลบคดีน้อย ประกอบกับมีญาติร่วมค้ำประกันจึงได้รับการให้ประกัน
"ที่เหลือบริษัทไม่ปฏิเสธแต่ต้องดูรายละเอียดอีกครั้งหนึ่ง เราขอย้ำว่าเราเป็นกลางไม่ได้อยู่ข้างใคร แต่ทุกคนมีสิทธิเสรีภาพก็ต้องต่อสู้ว่าเป็นกบฎจริงหรือ ข้อหามันดูร้ายแรง ทุกคนเป็นผู้ต้องหา เขายังไม่ผิด ก็ต้องมีโอกาสต่อสู้ และนักศึกษาที่เรารับก็เพื่อให้เขามีโอกาสและความเสี่ยงที่จะหนีก็มีน้อย"
สำหรับค่าใช้จ่ายการซื้อกรมธรรม์ประกันอิสรภาพนั้นโดยปกติแล้วหากผู้ที่มีอาชีพเสี่ยงซื้อไว้ก่อนเกิดคดีความจะคิดที่อัตรา 1% ของวงเงินหลักทรัพย์ค้ำประกัน แต่หากซื้อหลังจากเกิดคดีความจะคิดในอัตรา 7% ของวงเงินหลักทรัพย์ค้ำประกัน ซึ่งกรณีของกลุ่มนักรบศรีวิชัยนั้นซื้อแบบกลุ่ม บริษัทอาจคิดค่าเบี้ยในอัตราส่วนลดพิเศษให้ด้วยโดยดูผู้ค้ำประกันว่ามีความน่าเชื่อถือในสังคมหรือไม่
บ่ายวานนี้ นายนิติธร ล้ำเหลือ ทนายความสิทธิมนุษยชน สภาทนายความ เปิดเผยว่ายื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว ผู้ต้องหาคดี 18 คน โดยยื่นหลักทรัพย์ เป็นกรมธรรม์ประกันอิสรภาพของ บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัดและเงินสด มูลค่าคนละ 200,000 บาท ศาลพิจารณาคำร้องและหลักทรัพย์แล้ว จึงมีคำสั่งปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องหาไปก่อนเพียง 2 คน ที่เหลืออีก 16 คน ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาสั่งประกันของศาล
***เลี้ยบปัดแทรกแซงเอกชน
เกี่ยวกับกรณีดังกล่าว นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รักษาการรองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ในฐานะผู้ดูแลสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมและกำกับการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ที่กำกับบริษัทประกันภัย กล่าวว่า ตนไม่ได้สั่งการหรือห้ามบริษัทประกันภัยปฏิเสธการรับประกันอิสรภาพของกลุ่มนักรบศรีวิชัย เพราะเป็นเรื่องการทำธุรกิจของภาคเอกชนที่จะตัดสินใจรับทำประกันอิสรภาพให้กับกลุ่มผู้ถูกจับกลุ่มหรือไม่
"กระทรวงการคลังไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องหรือแทรกแซง เป็นเรื่องบริหารความเสี่ยงของภาคเอกชนในการทำธุรกิจ” นพ.สุรพงษ์กล่าว