ไทยสตีลโปรไฟล์ ยื่นไฟลิ่งขายไอพีโอ 400 หุ้น ระดมทุนขยายขนาดเตาอุ่นเหล็ก 150-200 ล้านบาท ติดตั้งแท่นรีดร้อยเพิ่ม ดันกำลังการผลิตเพิ่มเป็น 4.5 แสนตันต่อปี จาก 3.2 แสนตันต่อปี
รายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) แจ้งว่า บริษัทไทยสตีลโปรไฟล์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายเหล็กเส้น ได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) เพื่อเสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้แรก (ไอพีโอ)จำนวน 400 ล้านหุ้น คิดเป็น 20% ของจำนวนหุ้นที่เรียกชำระแล้ว มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์)หุ้นละ 0.25 บาท โดยจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ซึ่งแต่งตั้งบริษัทหลักทรัพย์ (บล.)บีฟิท จำกัด (มหาชน)หรือ BSECเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน โดยภายหลังขายหุ้นจะมีทุนจดทะเบียนชำระแล้วเป็น 500 ล้านบาท
สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้บริษัทจะนำไปขยายขนาดเตาอุ่นเหล็ก และติดตั้งแท่นรีดร้อนเพิ่ม เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตตลอดจนใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงาน เพื่อรองรับยอดจากจำหน่ายสินค้าที่เพิ่มขึ้นของบริษัทในอนาคต โดยบริษัทมีแผนที่จะเพิ่มจำนวนแท่นรีดร้อนกำลังสูง 1 แท่น ซึ่งการปรับปรุงดังกล่าวจะทำให้กำลังการผลิตของบริษัทเพิ่มขึ้นจาก 50 ตันต่อชั่วโมง เป็น 70 ตันต่อชั่วโมง หรือเพิ่มขึ้นจาก 320,000 ตันต่อปี เป็น 450,000 ตันต่อปี
ทั้งนี้ การเพิ่มขนาดเตาอุ่นเหล็กจะสามารถในการรองรับเหล็กแท่งยาวที่มีควาได้ถึง 12 เมตรจากเดิมซึ่งรองรับเหล็กแท่งที่มีความยาวเพียง 7 เมตร บริษัทคาดว่าโครงการปรับปรุงประสิทธิภาพเตาอุ่นเหล็กนี้จะใช้เงินลงทุนประมาณ 150-200 ล้านบาท จากปัจจุบันอยู่ระหว่างการพิจารณาเตาอุ่นเหล็กจากผู้ผลิตชั้นนำจากประเทศอิตาลี โดยบริษัทคาดว่าจะทำการสั่งซื้อภายในไตรมาส2/2552 และเริ่มใช้งานได้ภายในช่วงไตรมาส4/2552
ผลการดำเนินงานปี 2548 บริษัทมีรายได้จากการขาย 2,941.73 ล้านบาท ปี 2549 มีรายได้จากการขาย 2,743.20 ล้านบาท ลดลงเพราะ ความต้องการใช้เหล็กเส้นในประเทศลดลง ปี 2550 มีรายได้ จำนวน 3,239.31 ล้านบาท โดยครึ่งปีแรกปี2551 มีรายได้จำนวน 2,132.87 ล้านบาท บริษัทมีกำไรสุทธิ ปี 2548จำนวน 48.23 ล้านบาท เพิ่มเป็น 75.23 ล้านบาทในปี 2549 ปี 2550 มีกำไรสุทธิ 108.75 ล้านบาท และครึ่งปีแรก2551 มีกำไรสุทิ 398.75 ล้านบาท
รายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) แจ้งว่า บริษัทไทยสตีลโปรไฟล์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายเหล็กเส้น ได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) เพื่อเสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้แรก (ไอพีโอ)จำนวน 400 ล้านหุ้น คิดเป็น 20% ของจำนวนหุ้นที่เรียกชำระแล้ว มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์)หุ้นละ 0.25 บาท โดยจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ซึ่งแต่งตั้งบริษัทหลักทรัพย์ (บล.)บีฟิท จำกัด (มหาชน)หรือ BSECเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน โดยภายหลังขายหุ้นจะมีทุนจดทะเบียนชำระแล้วเป็น 500 ล้านบาท
สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้บริษัทจะนำไปขยายขนาดเตาอุ่นเหล็ก และติดตั้งแท่นรีดร้อนเพิ่ม เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตตลอดจนใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงาน เพื่อรองรับยอดจากจำหน่ายสินค้าที่เพิ่มขึ้นของบริษัทในอนาคต โดยบริษัทมีแผนที่จะเพิ่มจำนวนแท่นรีดร้อนกำลังสูง 1 แท่น ซึ่งการปรับปรุงดังกล่าวจะทำให้กำลังการผลิตของบริษัทเพิ่มขึ้นจาก 50 ตันต่อชั่วโมง เป็น 70 ตันต่อชั่วโมง หรือเพิ่มขึ้นจาก 320,000 ตันต่อปี เป็น 450,000 ตันต่อปี
ทั้งนี้ การเพิ่มขนาดเตาอุ่นเหล็กจะสามารถในการรองรับเหล็กแท่งยาวที่มีควาได้ถึง 12 เมตรจากเดิมซึ่งรองรับเหล็กแท่งที่มีความยาวเพียง 7 เมตร บริษัทคาดว่าโครงการปรับปรุงประสิทธิภาพเตาอุ่นเหล็กนี้จะใช้เงินลงทุนประมาณ 150-200 ล้านบาท จากปัจจุบันอยู่ระหว่างการพิจารณาเตาอุ่นเหล็กจากผู้ผลิตชั้นนำจากประเทศอิตาลี โดยบริษัทคาดว่าจะทำการสั่งซื้อภายในไตรมาส2/2552 และเริ่มใช้งานได้ภายในช่วงไตรมาส4/2552
ผลการดำเนินงานปี 2548 บริษัทมีรายได้จากการขาย 2,941.73 ล้านบาท ปี 2549 มีรายได้จากการขาย 2,743.20 ล้านบาท ลดลงเพราะ ความต้องการใช้เหล็กเส้นในประเทศลดลง ปี 2550 มีรายได้ จำนวน 3,239.31 ล้านบาท โดยครึ่งปีแรกปี2551 มีรายได้จำนวน 2,132.87 ล้านบาท บริษัทมีกำไรสุทธิ ปี 2548จำนวน 48.23 ล้านบาท เพิ่มเป็น 75.23 ล้านบาทในปี 2549 ปี 2550 มีกำไรสุทธิ 108.75 ล้านบาท และครึ่งปีแรก2551 มีกำไรสุทิ 398.75 ล้านบาท
