หอการค้าฯ ยอมรับทีมที่ปรึกษาเศรษฐกิจชุดใหม่ รวมสุดยอดมืออาชีพคับคั่ง แต่กังวลว่า อาจทำงานแบบตัวใครตัวมัน ชี้จุดอ่อนที่ผ่านมา "หมอเลี้ยบ" ยังไม่สามารถประสานงานได้ พร้อมแนะสมัครควรเข้ารับเป็นหัวหน้าทีมฯ แทน ด้านประธานฯ ส.อ.ท.แนะจับตารัฐมนตรีขาใหญ่ ชอบแย่งอวดเก่ง-เมินฟังคำแนะนำ
วันนี้ ( 3 ส.ค.) นายพรศิลป์ พัชรินทร์ตนะกุล กรรมการรองเลขาธิการ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวถึงการตั้งทีมเศรษฐกิจชุดใหม่ของรัฐบาล ซึ่งได้ดึงนักวิชาการและมืออาชีพมารวมกันอย่างคับคั่ง อาทิ นายวีรพงษ์ รามางกูร อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และนายณรงค์ชัย อัครเศรณี อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ , นายมนู เลียวไพโรจน์ อดีตปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม และอีกหลายคน ตนเองมองว่าทุกคนต่างมีความรู้ความสามารถและประสบการณ์สูง น่าจะสามารถให้คำปรึกษาแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจผ่านพ้นวิกฤติต่างๆ ได้อย่างแน่นอน
นายพรศิลป์ กล่าวว่า สิ่งที่เป็นห่วง คือ ไม่อยากเห็นการทำงานแบบตัวใครตัวมัน แม้จะมีทีมที่ปรึกษา อยากให้ฝ่ายการเมืองทุกฝ่ายเปิดใจทำงานร่วมกัน เพื่อให้ประสานการทำงาน จึงเชื่อว่าทีมที่ปรึกษาฯ น่าจะสามารถแก้ไขปัญหาประเทศได้ แต่สิ่งที่เป็นห่วง คือ ทีมเศรษฐกิจฝ่ายการเมืองแม้จะปรับเปลี่ยนกระทรวงสำคัญ
"ที่ผ่านมา นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รมว.คลัง หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ ก็ยังไม่สามารถประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จึงอยากเสนอแนะให้นายกรัฐมนตรีเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยให้การทำงานเป็นไปในทิศทางเดียวกัน"
นายพรศิลป์ ยังเสนอให้การดำเนินการด้านเศรษฐกิจระหว่างประเทศ เช่น การดำเนินการภายใต้กรอบการเปิดเขตการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ไม่ต้องการเห็นภาพการทำงานในลักษณะต่างฝ่ายต่างทำ เพราะการค้าระหว่างประเทศจะต้องเป็นไปในทิศทางเดียวกัน
นอกจากนี้ รัฐบาลจะต้องดูแลภาคการผลิต โดยเน้นตั้งแต่กระบวนการผลิตและส่งออก ซึ่งเกี่ยวข้องกับกระทรวงอุตสาหกรรมและกระทรวงพาณิชย์ ดั้งนั้น การทำงานจะต้องเชื่อมโยงกัน วางกรอบการทำงานให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน และทำอย่างครบวงจร รวมถึงเร่งพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ ซึ่งตนเห็นว่ากระทรวงที่มีบทบาทสำคัญ คือ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ซึ่งในช่วงที่ผ่านมารัฐบาลไม่ค่อยให้ความสำคัญมากนัก เพราะโดยข้อเท็จจริงแล้วกระทรวงไอซีทีสามารถพัฒนานวัตกรรมใหม่ เพื่อต่อยอดในเชิงการค้าได้ การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจจะต้องเดินหน้าไปพร้อมๆ กัน
ด้านนายสันติ วิลาสศักดานนท์ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ตามที่นายกรัฐมนตรีได้แต่งตั้งทีมที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจนายกรัฐมนตรีทั้ง 5 คนนั้น อย่างน้อยคงทำให้ภาพลักษณ์ของรัฐบาลดีขึ้น เพราะนายวีรพงษ์ เป็นบุคคลที่รู้ภาพรวมเศรษฐกิจมหภาค และให้ความเห็นมุมมองทางเศรษฐกิจอย่างตรงไปตรงมา นายณรงค์ชัย ก็เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ภาคเอกชนบางส่วนมีความเป็นห่วงว่า เมื่อทีมที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีให้ความเห็นเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจแล้ว รัฐมนตรีเศรษฐกิจของรัฐบาลนี้จะฟังหรือไม่
ดังนั้น นายกรัฐมนตรีต้องให้อำนาจแก่ทีมที่ปรึกษาเศรษฐกิจด้วย และในการประชุมช่วงเริ่มแรกเพื่อให้เกิดความเชื่อมั่น นายกรัฐมนตรีน่าจะพิจารณามานั่งเป็นประธานในการประชุมระหว่างทีมที่ปรึกษาเศรฐษกิจและทีมรัฐมนตรีเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม จะต้องติดตามการทำงานว่า จะสามารถประสานการทำงานได้มากน้อยเพียงใด
ทั้งนี้ ต้องประสานงานกันให้ได้ ทุกกระทรวงและต้องทำงานพร้อมๆ กันไป ถึงจะมีพลังในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของประเทศ