xs
xsm
sm
md
lg

กองทุนหมู่บ้านได้ 3 ล้าน ธกส.สนองประชานิยม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ประชานิยมต่อเนื่อง ธ.ก.ส.เล็งขยายปล่อยกู้ต่อยอดกองทุนหมู่บ้านให้สูงสุดถึง 3 ล้านบาท จากเดิมให้จำกัดไม่เกิน 1 ล้านบาท ชี้ชาวบ้านมีวินัยสูงส่งผลหนี้เสียแค่ 1% ดันยอดปล่อยกู้ถึง 2 หมื่นล้าน ด้านออมสินเหลือยอดคงค้างแค่ 3.6 พันล้านบาท เหตุกองทุนพึ่งตัวเองมากขึ้น

นายพรชัย ลิมปภาส ผู้อำนวยการฝ่ายสินเชื่อสถาบัน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวถึงการดำเนินโครงการกองทุนหมู่บ้านว่าในส่วนของ ธ.ก.ส.ที่ดูแลบัญชีอยู่รวมทั้งสิ้น 2.4 หมื่นกองทุน จากจำนวน 7.8 กองทุนนั้น แบ่งเป็นการปล่อยกู้แทนรัฐบาล 1.3 หมื่นล้านบาท ที่เหลือธนาคารออมสินเป็นผู้โอนเงินเข้าบัญชีกองทุน โดยในช่วงดำเนินโรงการมานั้นธนาคารมีการปล่อยกู้ต่อยอดให้หมู่บ้านอีกไม่เกิน 1 ล้านบาทนั้น รวมเป็นเม็ดเงินที่ปล่อยไปแล้ว 1.6 หมื่นล้านบาท

ช่วงครึ่งหลังของปีนี้เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลธนาคารจะพิจารณาปล่อยกู้ต่อยอดให้หมู่บ้านและชุมเมืองที่มีศักยภาพ และมีขนาดใหญ่เพิ่มขึ้นเป็นไม่เกิน 3 ล้านบาท เพราะ 1 ล้านบาท อาจไม่เพียงพอเพื่อให้กองทุนสามารถนำไปจัดสรรไปกู้ต่อให้สมาชิกหมู่บ้านเพื่อประกอบอาชีพและหารายได้เพิ่มในภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน โดยคาดว่าสิ้นปีนี้วงเงินปล่อยกู้จะเพิ่มอีก 4 พันล้านบาท รวมเป็นการปล่อยกู้หมุนเวียนให้กองทุนเพิ่มขึ้นไปถึง 2 หมื่นล้านบาท และอาจเพิ่มขึ้นอีกในปีถัดๆ ไป

“การปล่อยสินเชื่อต่อยอดให้กองทุนนั้นส่วนใหญ่มีการชำระคืนที่ค่อนข้างดี มีหนี้เสียเพียงแค่ 1% เท่านั้น น้อยกว่าหนี้เสียภาพรวมของโครงการกองทุนหมู่บ้านที่เป็นเงินงบประมาณหมู่บ้านละ 1 ล้านบาทที่อยู่ในระดับ 4% ด้วยซ้ำ เพราะชาวบ้านมีระเบียบวินัยในการใช้เงิน และมีคณะกรรมการกองทุนช่วยสกรีนให้ในระดับหนึ่งอยู่แล้ว”นายพรชัย กล่าวและว่าในภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันนั้นรายย่อยยังมีความเข้มแข็งไม่น่าจะได้รับกระทบมากเหมือนคนในเมืองจึงเชื่อว่าจะไม่เกิดหนี้เสียเพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ตาม การดำเนินโครงการกองทุนหมู่บ้านนั้น ธ.ก.ส.ได้รับงบประมาณชำระคืนจากรัฐบาลเป็นประจำทุกปี และในปี 2552 จะได้รับจัดสรรอีก 3 พันล้านบาทก็จะครบตามจำนวน จึงไม่มีผลกระทบกับธนาคารแต่อย่างใดโดยยังเหลือเพียงเงินงวดใหม่ที่โอนให้กองทุนอีก 249 หมู่บ้านเท่านั้น

ด้านธนาคารออมสินระบุว่า ตั้งแต่เริ่มดำเนินโครงการกองทุนหมู่บ้านธนาคารปล่อยกู้ต่อยอดให้แล้วเป็นเงินกว่า 1 หมื่นล้านบาท จำนวน 1.16 กองทุน เฉลี่ยวงเงินตั้งแต่ 4 แสน-1.5 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับขนาดและศักยภาพของหมู่บ้าน โดยสิ้นเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมาเหลือสินเชื่อคงค้างเพียง 3.6 พันล้านบาท จำนวน 5.7 พันกองทุนและมีหนี้เสียเพียง 3% เท่านั้น ต่ำกว่าหนี้เสียที่ปล่อยกู้ในเมืองด้วยซ้ำ

ทั้งนี้ มองว่าการขอสินเชื่อต่อยอดมีแนวโน้มจะลดลงเรื่อยๆ เพราะหมู่บ้านจำนวนไม่น้อยสามารถพึ่งพาตัวเองได้ โดยการใช้เงินออมของสมาชิก ซึ่งขณะนี้มีการตั้งเป็นสถาบันการเงินชุมชนนำร่องแล้ว 179 แห่งมีเงินฝากและเงินออมรวมกันประมาณ 120 ล้านบาท ผู้ฝากกว่า 6 หมื่นราย มีการกู้เงินกว่า 94 ล้านบาท จำนวน 7.2 พันราย

ส่วนงบประมณที่รัฐบาลชำระคืนต่อเนื่องนั้น ในปี 2552 เหลือวงเงินอีกเพียง 300 กว่าล้านบาทเท่านั้น ในส่วนที่โอนเงินไปใหม่อีก 658 ล้านบาทนั้นไม่น่าจะมีปัญหา
กำลังโหลดความคิดเห็น