xs
xsm
sm
md
lg

ธนชาตขานรับนโยบายธปท. ขึ้นดบ.ฝากอีก 0.125–0.50%

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ธนชาตขานรับการขึ้นดอกเบี้ยนโยบายแบงก์ชาติ ประกาศปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินฝากประจำและตั๋วแลกเงิน ระยะเวลา 3 เดือน และ 6 เดือน อีก 0.125 –0.50 % มีผลทันที 17 ก.ค. 2551

นายประพันธ์ อนุพงษ์องอาจ ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานพัฒนาผลิตภัณฑ์ธนาคาร ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม ที่ผ่านมา เพื่อเป็นการตอบรับนโยบายของ ธปท. และ เพื่อให้ผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้นตามสภาพเศรษฐกิจแก่ผู้ฝากเงิน ธนาคารจึงได้ประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 3 เดือน และ 6 เดือน รวมถึง ตั๋วแลกเงินอายุ 3 เดือน และ 6 เดือน อีก 0.125 – 0.50 % มีผลทันทีวันที่ 17 กรกฎาคม 2551

โดยเงินฝากประจำ 3 เดือน เดิม ยอดเงินน้อยกว่า 5 แสนบาท ดอกเบี้ย 2.50% ตั้งแต่ 5 แสนบาทขึ้นไป ดอกเบี้ย 2.875% ปรับเป็น ยอดเงินน้อยกว่า 1 ล้านบาท ดอกเบี้ย 2.875% ตั้งแต่ 1 ล้านบาทขึ้นไป ดอกเบี้ย3.375%

เงินฝากประจำ 6 เดือน เดิม ยอดเงินน้อยกว่า 1 แสนบาท ดอกเบี้ย 2.50% ตั้งแต่ 1 แสน ไม่ถึง 5 แสนบาท ดอกเบี้ย 3% ปรับเป็น ยอดเงินน้อยกว่า 1 ล้านบาท ดอกเบี้ย 2.875% ตั้งแต่ 1 ล้านบาทขึ้นไป ดอกเบี้ย 3.375%

สำหรับตั๋วแลกเงิน เดิม ยอดเงินตั้งแต่ 5 แสนบาทขึ้นไป ระยะเวลา 3 เดือน ดอกเบี้ย 3.25% ระยะเวลา 6 เดือน ดอกเบี้ย 3.375% ปรับเป็น ดอกเบี้ย 3.50% ทั้ง 2 ระยะเวลา

นายประพันธ์ กล่าวว่า ธนาคารธนชาตมีนโยบายในการทำตลาดเชิงรุกด้านธุรกิจเงินฝาก โดยได้เสนออัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับเดียวกับกลุ่มธนาคารพาณิชย์ที่ให้อัตราดอกเบี้ยเงินฝากอยู่ในระดับสูง และมีผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่หลากหลาย เช่น เงินฝากประจำ 3 เดือน อัตราดอกเบี้ย 2.875 – 3.375% ตั๋วแลกเงิน 3 เดือน อัตราดอกเบี้ย 3.5% เงินฝากประจำปลอดภาษี 24 เดือน อัตราดอกเบี้ย 4.5%

นอกจากนี้ ธนาคารยังได้มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางด้านเงินฝากอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดได้ออกแคมเปญ“ฝากประจำทวีเงินทอง” สำหรับเงินฝากประจำ 9 เดือน ยอดเงินรวมขั้นต่ำ 1 ล้านบาท จะได้รับดอกเบี้ย 3.5% ต่อปี พร้อมรับทองคำน้ำหนักตั้งแต่ 12.5 สตางค์ ถึง 5 บาท ตามยอดเงินฝาก ซึ่งหลังจากเปิดรับฝากตั้งแต่ต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาปรากฎว่าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี มีเงินฝากเพิ่มขึ้นจากแคมเปญนี้ประมาณ 7,000 ล้านบาท
กำลังโหลดความคิดเห็น