โกลด์แมน แซคส์ คาดบริษัทบัตรเครดิตขนาดใหญ่ 2 แห่งของสหรัฐ มีตัวเลขขาดทุนอ่วมกว่า 20% หลังผู้บริโภคถูกกระทบจากศก.ทรุด
วันนี้ (18 มิ.ย.) นายริชาร์ด แรมส์เดน นักวิเคราะห์จากโกลด์แมน แซคส์ ได้กล่าวผ่านสำนักข่าวต่างประเทศโดยคาดการณ์ว่า ตัวเลขขาดทุนของบริษัทบัตรเครดิตอาจพุ่งขึ้นในอีก 12 เดือนข้างหน้า เนื่องจากผู้บริโภคได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่
"ที่ผ่านมานั้น ซิตี้กรุ๊ป แบค์ ออฟ อเมริกา และเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค มีตัวเลขขาดทุนในธุรกิจบัตรเครดิตหนักสุด โดยแต่ละแห่งขาดทุนกว่า 20% และคาดว่ายอดขาดทุนของบริษัทบัตรเครดิตจะยังคงเพิ่มขึ้นไปจนถึงปี 2551 เนื่องจากราคาบ้านทรุดตัวลง" ริชาร์ด กล่าวและเพิ่มเติมว่า
"ส่วนตัวเลขขาดทุนด้านบัตรเครดิตในสหรัฐจะพุ่งขึ้นเป็น 6.15% ในปี 2551 และ 6.60% ในปี 2552 ขณะที่ตัวเลขว่างงานจะเพิ่มขึ้นเป็น 6.4% ภายในปลายปี 2552 และคาดว่าจำนวนบริษัทที่ยื่นขอล้มละลายจะเพิ่มขึ้นเป็น 6.81% ในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปีหน้า"
สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ธุรกิจบัตรเครดิตได้รับผลกระทบค่อนข้างต่ำเนื่องจากผู้บริโภคสามารถกู้ยืมเงินมาจ่ายหนี้บัตรเครดิตได้ แต่ปัจจุบันสถานการณ์ในตลาดการเงินเปลี่ยนแปลงไป เนื่องจากสถาบันการเงินใช้มาตรการที่เข้มงวดมากขึ้นในการปล่อยสินเชื่อ ซึ่งทำให้ผู้บริโภคกู้เงินได้ลำบากขึ้น
วันนี้ (18 มิ.ย.) นายริชาร์ด แรมส์เดน นักวิเคราะห์จากโกลด์แมน แซคส์ ได้กล่าวผ่านสำนักข่าวต่างประเทศโดยคาดการณ์ว่า ตัวเลขขาดทุนของบริษัทบัตรเครดิตอาจพุ่งขึ้นในอีก 12 เดือนข้างหน้า เนื่องจากผู้บริโภคได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่
"ที่ผ่านมานั้น ซิตี้กรุ๊ป แบค์ ออฟ อเมริกา และเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค มีตัวเลขขาดทุนในธุรกิจบัตรเครดิตหนักสุด โดยแต่ละแห่งขาดทุนกว่า 20% และคาดว่ายอดขาดทุนของบริษัทบัตรเครดิตจะยังคงเพิ่มขึ้นไปจนถึงปี 2551 เนื่องจากราคาบ้านทรุดตัวลง" ริชาร์ด กล่าวและเพิ่มเติมว่า
"ส่วนตัวเลขขาดทุนด้านบัตรเครดิตในสหรัฐจะพุ่งขึ้นเป็น 6.15% ในปี 2551 และ 6.60% ในปี 2552 ขณะที่ตัวเลขว่างงานจะเพิ่มขึ้นเป็น 6.4% ภายในปลายปี 2552 และคาดว่าจำนวนบริษัทที่ยื่นขอล้มละลายจะเพิ่มขึ้นเป็น 6.81% ในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปีหน้า"
สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ธุรกิจบัตรเครดิตได้รับผลกระทบค่อนข้างต่ำเนื่องจากผู้บริโภคสามารถกู้ยืมเงินมาจ่ายหนี้บัตรเครดิตได้ แต่ปัจจุบันสถานการณ์ในตลาดการเงินเปลี่ยนแปลงไป เนื่องจากสถาบันการเงินใช้มาตรการที่เข้มงวดมากขึ้นในการปล่อยสินเชื่อ ซึ่งทำให้ผู้บริโภคกู้เงินได้ลำบากขึ้น
