มหกรรมการเงิน ครั้งที่ 8 ยอดผู้เข้าชมงานทะลักกว่า 7 แสนคน ดันเม็ดเงินสะพัดสูงสุดถึง 1.2 แสนล้านบาท แห่กู้ซื้อบ้านอันดับหนึ่ง 9.3 หมื่นล้านบาท สินเชื่อ SMEs ครองที่สองยอดพุ่ง 2 หมื่นล้านบาท ยอดซื้อสลากออมทรัพย์สูงอันดับสาม 1.3 พันล้านบาท และอันดับสี่สินเชื่อบุคคล 1.2 พันล้าน ขณะที่ยอดซื้อกองทุนรวมทะลุ 600 ล้านบาท
นายสันติ วิริยะรังสฤษฏ์ ประธานจัดงานมหกรรมการเงิน เปิดเผยว่า งานมหกรรมการเงินครั้งที่ 8 MONEY EXPO 2008 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 8-11 พฤษภาคม 2551 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม มีประชาชนให้ความสนใจเข้าชมงานอย่างคับคั่งสวนทางสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน โดยมีผู้เข้าชมงานหนาแน่นตลอดทั้ง 4 วัน กว่า 7 แสนคน และมีผู้สมัครใช้บริการจากสถาบันการเงินที่เข้าร่วมงานทั้งธนาคาร, บริษัทหลักทรัพย์ บริษัทจัดการกองทุน และบริษัทประกันชีวิต/ประกันภัย 163,248 ราย มียออดธุรกรรมรวมมูลค่าทั้งสิ้น 121,277 ล้านบาท ซึ่งเป็นยอดธุรกรรมที่สูงที่สุดในรอบ 8 ปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้ สินเชื่อบ้านยังคงเป็นธุรกรรมที่ผู้เข้าชมงานสมัครใช้บริการมากที่สุดเป็นอันดับหนึ่งรวมมูลค่า 93,890 ล้านบาท หรือคิดเป็น 77% ของปริมาณธุรกรรมรวม เนื่องจากธนาคารและสถาบันการเงินมีการแข่งขันกันเสนออัตราดอกเบี้ยต่ำสุด 0% ตั้งแต่ 3 เดือน ถึง 9 เดือน และยังมีโปรโมชั่นลุ้นจับรางวัลรับดอกเบี้ย 0% นานถึง 1 ปี พร้อมได้สิทธิ์ชิงรางวัลรถยนต์อีกต่อหนึ่งด้วย
"นอกเหนือจากการแข่งขันเรื่องดอกเบี้ยของธนาคารภายในงานแล้ว ความต้องการที่อยู่อาศัยของประชาชนก็ยังเพิ่มขึ้นจากมาตรการลดภาษีของรัฐบาลที่ช่วยกระตุ้นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มค่าลดหย่อนภาษีดอกเบี้ยเงินกู้ซื้อบ้านเป็น 1 แสนบาท การลดภาษีธุรกิจเฉพาะเหลือ 0.01% การลดค่าธรรมเนียมการโอนที่ดินและค่าธรรมเนียมการจดจำนองเหลือ 0.01%"
ส่วนธุรกรรมที่ผู้สมัครใช้บริการมากเป็นอันดับสองคือ สินเชื่อ SMEs มูลค่า 20,827 ล้านบาท คิดเป็นกว่า 17% ขณะที่อันดับสามได้แก่ การซื้อสลากออมทรัพย์มูลค่า 1,340 ล้านบาท
บริการทางการเงินที่ผู้เข้าชมงานให้ความสนใจมากเช่นเดียวกัน ได้แก่ สินเชื่อบุคคล มูลค่ารวมกว่า 1,200 ล้านบาท การสมัครบัตรเครดิตรวมมูลค่า 930 ล้านบาท และการซื้อสินทรัพย์รอการขาย(NPA) รวมมูลค่า 865 ล้านบาท
ส่วนบริการทางด้านการลงทุนปีนี้มีประชาชนนักลงทุนให้ความสนใจไม่แพ้บริการทางการเงิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของกองทุนรวม มียอดซื้อกองทุนรวมสูงถึงกว่า 600 ล้านบาท จากผู้ซื้อจำนวน 4,700 ราย และมีผู้สนใจเปิดบัญชีซื้อขายหุ้น 3,500 ราย สะท้อนว่าผู้เข้าชมงานแสวงหาทางเลือกในการลงทุน เพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่ดีขึ้น
และการซื้อกรมธรรม์ประกันชีวิตทั้งจากบริษัทประกันชีวิตและแบงก์แอสชัวรันส์ในปีนี้มียอดซื้อกรมธรรม์ 1,700 ราย รวมมูลค่ากว่า 400 ล้านบาท