สยามแก๊สฯ เดินหน้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ ด้วยการเสนอขาย 260 ล้านหุ้น พาร์ละ 1 บาท เพื่อนำเงินใช้ในการขยายงาน วางแผนทุ่มงบ 400 ล้านบาทรุกลงทุนในเวียดนาม เริ่มสร้างโรงงานปีนี้คาดเสร็จภายใน 1 ปี เหตุประชากรสูงและมีกำลังซื้อมาก เล็งลงทุนในประเทศแถบเอเชียเพิ่มอีกในอนาคต
นายศุภชัย วีรบวรพงษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมีคัลส์ จำกัด (มหาชน) (SGP) กล่าวถึงแนวทางการดำเนินงานของบริษัทว่าบริษัทเตรียมเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ด้วยการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุน 260 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท โดยแบ่งสัดส่วนการจำหน่ายให้กับผู้มีอุปการคุณ 50 % นักลงทุนทั่วไป 40 % และสถาบัน 10 %
ทั้งนี้ บริษัทฯ มีแผนที่จะนำเงินที่ได้ไปขยายธุรกิจสถานีบริการก๊าซ 20 สถานี ภายใน 3 ปี และขยายธุรกิจจำหน่ายแก๊ส LPGในเวียดนาม ตลอดจนชำระเงินกู้ และใช้เป็นเงินหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ พร้อมตั้งเป้าก้าวขึ้นสู่การเป็นผู้ประกอบธุรกิจพลังงานอันดับต้นๆ ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ปัจจุบัน บริษัทฯมีโครงสร้างรายได้อยู่ 3 กลุ่มใหญ่ คือ ลูกค้าที่นำก๊าซ LPG ไปใช้ในการหุงต้ม 60% ลูกค้าที่นำก๊าซ LPG ไปใช้เป็นเชื้อเพลิงในรถยนต์ 30% และกลุ่มสุดท้าย คือลูกค้าที่นำก๊าซ LPGไปใช้ในด้านอุตสาหกรรม 10 %
นายศุภชัยกล่าวถึงการขยายธุรกิจไปยังเวียดนามนั้น จะลงทุนที่เมืองโฮจิมินห์ เพราะมีท่าเรือและคลังสินค้าที่สามารถเก็บแก๊สได้ 700-800 ตัน ซึ่งใช้งบลงทุนประมาณ 400 ล้านบาท โดยจะเริ่มก่อสร้างภายในปีนี้และใช้เวลาก่อสร้างไม่เกิน 12 เดือน
"เราเลือกเวียดนาม เพราะที่นี่มีประชากรมากกว่าไทย คือ 80 ล้านคน และอัตราการเติบโตของเวียดนามก็มีถึง 10 % มา 5 ปีติดต่อกัน หรือคนเวียดนามเริ่มที่จะมีเงินมากกว่าช่วงก่อน ซึ่งแบรนด์ที่จะเข้าไปจำหน่ายในเวียดนามคือ ยูนิคแก๊ส เพราะคนเวียดนามใช้ถังแก๊สขนาด 12 กิโลกรัม และยูนิคแก๊สมีถังขนาดดังกล่าว สามารถทดแทนกันได้และเราก็มีถังขนาด 11.5 กิโลกรัมอยู่แล้ว ซึ่งจะส่งถังไปได้ทันที " นายศุภชัยกล่าวเสริม
นอกจากนี้ บริษัทยังมองการลงทุนไว้อีกหลายประเทศ ทั้ง จีน กัมพูชา แต่ขณะนี้ยังไม่ลงลึกในเรื่องของรายละเอียดมากนัก เพราะต้องศึกษาในอีกหลายๆด้าน เพื่อให้เกิดความมั่นใจในการลงทุน
นายศุภชัย วีรบวรพงษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมีคัลส์ จำกัด (มหาชน) (SGP) กล่าวถึงแนวทางการดำเนินงานของบริษัทว่าบริษัทเตรียมเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ด้วยการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุน 260 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท โดยแบ่งสัดส่วนการจำหน่ายให้กับผู้มีอุปการคุณ 50 % นักลงทุนทั่วไป 40 % และสถาบัน 10 %
ทั้งนี้ บริษัทฯ มีแผนที่จะนำเงินที่ได้ไปขยายธุรกิจสถานีบริการก๊าซ 20 สถานี ภายใน 3 ปี และขยายธุรกิจจำหน่ายแก๊ส LPGในเวียดนาม ตลอดจนชำระเงินกู้ และใช้เป็นเงินหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ พร้อมตั้งเป้าก้าวขึ้นสู่การเป็นผู้ประกอบธุรกิจพลังงานอันดับต้นๆ ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ปัจจุบัน บริษัทฯมีโครงสร้างรายได้อยู่ 3 กลุ่มใหญ่ คือ ลูกค้าที่นำก๊าซ LPG ไปใช้ในการหุงต้ม 60% ลูกค้าที่นำก๊าซ LPG ไปใช้เป็นเชื้อเพลิงในรถยนต์ 30% และกลุ่มสุดท้าย คือลูกค้าที่นำก๊าซ LPGไปใช้ในด้านอุตสาหกรรม 10 %
นายศุภชัยกล่าวถึงการขยายธุรกิจไปยังเวียดนามนั้น จะลงทุนที่เมืองโฮจิมินห์ เพราะมีท่าเรือและคลังสินค้าที่สามารถเก็บแก๊สได้ 700-800 ตัน ซึ่งใช้งบลงทุนประมาณ 400 ล้านบาท โดยจะเริ่มก่อสร้างภายในปีนี้และใช้เวลาก่อสร้างไม่เกิน 12 เดือน
"เราเลือกเวียดนาม เพราะที่นี่มีประชากรมากกว่าไทย คือ 80 ล้านคน และอัตราการเติบโตของเวียดนามก็มีถึง 10 % มา 5 ปีติดต่อกัน หรือคนเวียดนามเริ่มที่จะมีเงินมากกว่าช่วงก่อน ซึ่งแบรนด์ที่จะเข้าไปจำหน่ายในเวียดนามคือ ยูนิคแก๊ส เพราะคนเวียดนามใช้ถังแก๊สขนาด 12 กิโลกรัม และยูนิคแก๊สมีถังขนาดดังกล่าว สามารถทดแทนกันได้และเราก็มีถังขนาด 11.5 กิโลกรัมอยู่แล้ว ซึ่งจะส่งถังไปได้ทันที " นายศุภชัยกล่าวเสริม
นอกจากนี้ บริษัทยังมองการลงทุนไว้อีกหลายประเทศ ทั้ง จีน กัมพูชา แต่ขณะนี้ยังไม่ลงลึกในเรื่องของรายละเอียดมากนัก เพราะต้องศึกษาในอีกหลายๆด้าน เพื่อให้เกิดความมั่นใจในการลงทุน