ผู้จัดการ ตลท.พอใจราคาเปิดขายหุ้นเอสโซ่วันแรก เหนือจอง 10.90 บ.เชื่อเป็นไปตามภาวะอุตสาหกรรมพลังงานขาขึ้น อันเดอรไรต์ คาด ไล่ราคากันมันหยด ลุ้นทะลุ 13 บาท พร้อมเชื่อว่าไม่ต่ำ 11 บาท แน่นอน เพราะเป็นหุ้นตัวใหญ่สุดที่สุด นักลงทุนรอคอยมานานร่วม 2 ปี แย้มกองทุนแห่เก็บเข้าพอร์ตเพียบ รับปันผลทันที 1 บาท
วันนี้ (6 พ.ค.) นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า พอใจกับราคาเปิดการซื้อขายของหุ้นเอสโซ่ที่สามารถยืนราคาจองที่ 10.90 บาทได้ โดยเชื่อว่าเป็นไปตามภาวะอุตสาหกรรมพลังงานขาขึ้นและการที่บริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลในอัตราไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิช่วยให้ราคาหุ้นเอสโซ่นั้นมีเสถียรภาพ
เหตุที่ราคาหุ้น ESSO สูงขึ้นเหนือจองน่าจะเกิดจากภาวะของอุตสาหกรรมพลังงานที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น และจากการที่บริษัทจ่ายปันผลให้กับผู้ถือหุ้นจึงทำให้เป็นหุ้นที่น่าสนใจ และจากนี้คาดว่า ตลาดคงจะมีการศึกษาและเตรียมนำ บมจ.เอสโซ่ เข้า SET50 ได้ เนื่องจากมูลค่าของมาร์เก็ตแคปของ ESSO สามารถอยู่ใน SET50 ได้ แต่ว่าตลาดจะต้องติดตามดูถึงสภาพคล่องและการซื้อขายหมุนเวียนของ ESSO ควบคู่ไปด้วย
“นอกจากกลุ่มพลังงานแล้ว ตลาดยังมองหลักทรัพย์กลุ่มอื่นด้วยเพื่อให้บาลานซ์กัน และยืนยันว่า ในปีนี้จะมีบริษัทเข้าจดทะเบียนได้ 37 แห่ง”
สำหรับภาวะตลาดในขณะนี้ ถือว่ามีความผันผวน แต่น้อยกว่าในภูมิภาค จึงไม่น่ากังวลสำหรับการเข้าลงทุนและบริษัทที่จะเข้าจดทะเบียน และหลังจากบมจ.เอสโซ่ แล้วคาดว่าจะเห็นบมจ.น้ำประปาไทย เข้าจดทะเบียนได้เพราะชัดเจนที่สุด และโรงกลั่นสตาร์รีไฟเนอริงขึ้นกับกระบวนการ
โดยวันนี้ หุ้นบริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ ESSO เริ่มเข้าซื้อขายใน ตลท.เป็นวันแรก จำนวน 3,383,333,300 หุ้น ราคาพาร์ 4.9338 บาท หลังจากเปิดขายไอพีโอราคาหุ้นละ 10 บาท โดยถูกจับตาบรรยากาศซื้อขายจะคึกคักเป็นพิเศษ เนื่องจาก ESSO ถือเป็นบิ๊กแคปใหญ่สุด และทำให้ราคามีแนวโน้มพุ่งขึ้นไปถึงระดับ 13 บาทและหากเลวร้ายสุดราคาปิดไม่น่าต่ำกว่า 11 บาท
ทั้งนี้ เอสโซ่เป็นหลักทรัพย์ที่มีขนาดใหญ่ตัวแรกที่เข้าซื้อขายในปีนี้ และมั่นใจว่า จะมีบริษัทที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในปีนี้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ที่ 37 แห่ง เนื่องจากภาวะการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดีและมีความผันผวนน้อยเมื่อเทียบกับเพื่อนบ้าน
นายมงคลนิมิตร เอื้อเชิดกุล กรรมการบริษัท เอสโซ่ ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ESSO กล่าวว่า เงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้จะนำไปชำระคืนหนี้บางส่วน และจะใช้เป็นเงินหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจโดยในปีนี้จะมีการลงทุนประมาณ 200 ล้านบาท ในการปรับปรุงประสิทธิภาพกระบวนการผลิต
นายแมนพงษ์ เสนาณรงค์ รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายตลาดทุน บริษัทหลักทรัพย์ ภัทร จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินเอสโซ่ เปิดเผยว่า เชื่อว่าหุ้น ESSO เป็นสีสันของตลาดหลักทรัพย์เนื่องจากช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ยังไม่มีหุ้นที่เปิดขายไอพีโอขนาดใหญ่ ส่งผลให้หุ้น ESSO ได้รับความสนใจจากนักลงทุนทั้งรายย่อย และกองทุนสถาบันการเงินจำนวนมาก
ทั้งนี้ บริษัทมีการเตรียมตัวโดยมีการจัดสรรหุ้นส่วนเกิน 84,583,300 หุ้น โดยยืมหุ้นจากจากบริษัท เอ็กซอนโมบิล อินเตอร์เนชั่นแนล โฮลดิ้ง อิงค์ และ บล.ภัทร จะดำเนินการจัดหาหุ้นเพื่อส่งคืนให้แก่ผู้ให้ยืม โดยการซื้อหุ้นใน ตลท.ภายในวันที่ 6 พ.ค.-4 มิ.ย.นี้ ราคาไม่สูงกว่าราคาจองซื้อหลักทรัพย์ (10 บาท) หรือไม่สูงกว่าราคาเสนอซื้อสูงสุดขณะนั้น
“สิ่งที่ทำให้นักลงทุนสนใจ คือ อัตราเงินปันผลที่บริษัทจะจ่ายให้นักลงทุน 1 บาทต่อหุ้นเดือน มิ.ย.นี้ เราดูจากกระแสตอบรับออกมาค่อนข้างดีมาก โดยกองทุนเกือบทั้งตลาดจะมีหุ้น ESSO อยู่ในพอร์ตเพราะที่ผ่านมา ขาดซัพพลายหุ้นไอพีโอขนาดใหญ่ 1-2 ปีแล้ว รวมทั้ง ESSO มีแผนการดำเนินงานที่เติบโตมาตลอด”