“บีเอฟเอ็ม” เล็งปรับราคาสินค้า หลังรับผลกระทบต้นทุนน้ำมันแพง ส่งผลราคาเหล็กปรับตัวสูง ระบุเตรียมนำเข้าแผ่นผนังอลูมิเนียม รุกตลาดอาคารสูงคาดดันยอดขายปี51เติบโตไม่ต่ำกว่า 25%
นายกศิปัญญ์ ศิริธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท บี เอฟ เอ็ม จำกัด กล่าวว่า ปัญหาการปรับตัวของราคาน้ำมันในตลาดโลกส่งผลต่อต้นทุนการผลิตเหล็ก และค่าขนส่งสินค้าของบริษัท ซึ่งหากแนวโน้มราคาน้ำมันในตลาดยังมีทิศทางการปรับตัวที่สูงขึ้นคาดว่าในช่วงกลางหรือปลายปีนี้บริษัทอาจจะมีการาปรับขึ้นราคาขายเหล็กต่อตารางเมตรในประเทศ ซึ่งขณะนี้บริษัทมอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะมีการปรับราคาขายขึ้นเท่าใดซึ่งการปรับราคาดังกล่าวนั้นจะขึ้นอยู่กับการปรับราคาน้ำมันด้วย
อย่างไรก็ตาม ปัญหาดังกล่าวอาจจะไม่กระทบต่อบริษัทมากนักเนื่องจาก การแข่งค่าของเงินบาทนั้นยังส่งผลดีต่อบริษัท เนื่องจากบริษัทเป็นผู้นำเข้าสินค้าเข้ามาจำหน่ายในประเทศทำให้มีข้อได้เปรียบจากการแข่งค่าของเงินบาท
สำหรับ นโยบายการตลาดของบริษัทในปีนี้ บริษัท เน้นการสร้างการรับรู้ในตัวสินค้าต่อลูกค้า โดยจะจัดอบรมความรู้เกี่ยวกับการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัยในอาคารสูงกับเจ้าของโครงการ สถาปนิก วิศวกร และประชาชนทั่วไป ทั้งนี้ ในส่วนของผลการดำเนินงานในปีนี้บริษัทตั้งเป้ามียอดขายรวม350 ล้านบาท เติบโต 25% จากปี50 ที่มียอดขายรวม 280 ล้านบาท สำหรับปัจจุบัน บริษัทมีส่วนแบ่งทางการตลาดผนังอลูมิเนียม คอมโพสิท ไส้กลางกันไฟอยู่ประมาณ 30% จากมูลค่าตลาดรวม 1,000 ล้านบาท
นายกศิปัญญ์ ศิริธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท บี เอฟ เอ็ม จำกัด กล่าวว่า ปัญหาการปรับตัวของราคาน้ำมันในตลาดโลกส่งผลต่อต้นทุนการผลิตเหล็ก และค่าขนส่งสินค้าของบริษัท ซึ่งหากแนวโน้มราคาน้ำมันในตลาดยังมีทิศทางการปรับตัวที่สูงขึ้นคาดว่าในช่วงกลางหรือปลายปีนี้บริษัทอาจจะมีการาปรับขึ้นราคาขายเหล็กต่อตารางเมตรในประเทศ ซึ่งขณะนี้บริษัทมอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะมีการปรับราคาขายขึ้นเท่าใดซึ่งการปรับราคาดังกล่าวนั้นจะขึ้นอยู่กับการปรับราคาน้ำมันด้วย
อย่างไรก็ตาม ปัญหาดังกล่าวอาจจะไม่กระทบต่อบริษัทมากนักเนื่องจาก การแข่งค่าของเงินบาทนั้นยังส่งผลดีต่อบริษัท เนื่องจากบริษัทเป็นผู้นำเข้าสินค้าเข้ามาจำหน่ายในประเทศทำให้มีข้อได้เปรียบจากการแข่งค่าของเงินบาท
สำหรับ นโยบายการตลาดของบริษัทในปีนี้ บริษัท เน้นการสร้างการรับรู้ในตัวสินค้าต่อลูกค้า โดยจะจัดอบรมความรู้เกี่ยวกับการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัยในอาคารสูงกับเจ้าของโครงการ สถาปนิก วิศวกร และประชาชนทั่วไป ทั้งนี้ ในส่วนของผลการดำเนินงานในปีนี้บริษัทตั้งเป้ามียอดขายรวม350 ล้านบาท เติบโต 25% จากปี50 ที่มียอดขายรวม 280 ล้านบาท สำหรับปัจจุบัน บริษัทมีส่วนแบ่งทางการตลาดผนังอลูมิเนียม คอมโพสิท ไส้กลางกันไฟอยู่ประมาณ 30% จากมูลค่าตลาดรวม 1,000 ล้านบาท
