"เชลล์-บางจาก" พร้อมใจโวย ปตท.กั๊กขึ้นราคาน้ำมัน-บิดเบือนกลไกตลาด ทำให้ผู้ค้ารายอื่นขาดทุนยับเยิน ระบุภายใน 1-2 วันนี้ คงต้องปรับขึ้นอีกลิตรละ 50 สตางค์
นายไซมอน เฮิร์ส ผู้จัดการใหญ่ฝ่ายการตลาดค้าปลีก บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด กล่าวถึงสถานการณ์ราคาน้ำมันภายในประเทศ ขณะนี้ จำเป็นต้องปรับขึ้นตามกลไกตลาดโลก เพราะตอนนี้ น้ำมันในตลาดโลกได้ปรับขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 11 ก.พ. ที่ผ่านมา ทำให้ค่าการตลาดดีเซลติดลบ 13 สตางค์ต่อลิตร ส่วนเบนซินอยู่ที่ 36 สตางค์ต่อลิตร ทำให้ประสบปัญหาขาดทุนต่อเนื่องเพราะไม่สามารถปรับราคาขายปลีกในประเทศได้ เนื่องจากผู้ค้าน้ำมันรายใหญ่ที่มีส่วนแบ่งการตลาดกว่า 40% ไม่ปรับราคา ทำให้ผู้ค้ารายอื่นไม่สามารถปรับราคาได้
"ไม่เข้าใจเหตุผลว่าทำไมผู้ค้ารายใหญ่ถึงไม่ปรับราคา ทั้งที่ราคาน้ำมันทุกวันนี้ต่ำกว่าต้นทุน จึงส่งผลให้ทั้งอุตสาหกรรมน้ำมันขาดทุนทั่วหน้า"
นายยอดพจน์ วงศ์รักมิตร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายการตลาดค้าปลีก บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ราคาน้ำมันตลาดโลกได้ปรับขึ้น 2-3 ดอลลาร์ต่อวัน แต่ก็ยังไม่มีการปรับราคาขายปลีกในประเทศ ทำให้บริษัทมีภาระขาดทุน 8-9 ล้านบาทต่อวัน จึงเห็นว่าในช่วง 1-2 วันนี้คงต้องมีการพิจารณาปรับราคาขายปลีกน้ำมัน ซึ่งการปรับครั้งนี้คงต้องปรับประมาณ 50 สตางค์ต่อลิตร เพื่อให้ครอบคลุมต้นทุนที่ปรับสูงขึ้น 7-8 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ทั้งนี้ ในวันที่ 18 ก.พ.นี้ ผู้ค้าน้ำมันทุกรายได้เตรียมประกาศปรับขึ้นราคาขายปลีกน้ำมันอีก 50 สตางค์ต่อลิตร หลังค่าการตลาดอยู่ในระดับติดลบ โดยได้รอให้ผู้ค้าน้ำมันรายใหญ่อย่าง ปตท. ประกาศแจ้งปรับขึ้นราคาก่อน แต่ปรากฏว่าในวันดังกล่าว ปตท.ไม่ยอมปรับขึ้นราคา ทำให้บริษัทเอกชนเดือดร้อนมาก
นายไซมอน เฮิร์ส ผู้จัดการใหญ่ฝ่ายการตลาดค้าปลีก บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด กล่าวถึงสถานการณ์ราคาน้ำมันภายในประเทศ ขณะนี้ จำเป็นต้องปรับขึ้นตามกลไกตลาดโลก เพราะตอนนี้ น้ำมันในตลาดโลกได้ปรับขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 11 ก.พ. ที่ผ่านมา ทำให้ค่าการตลาดดีเซลติดลบ 13 สตางค์ต่อลิตร ส่วนเบนซินอยู่ที่ 36 สตางค์ต่อลิตร ทำให้ประสบปัญหาขาดทุนต่อเนื่องเพราะไม่สามารถปรับราคาขายปลีกในประเทศได้ เนื่องจากผู้ค้าน้ำมันรายใหญ่ที่มีส่วนแบ่งการตลาดกว่า 40% ไม่ปรับราคา ทำให้ผู้ค้ารายอื่นไม่สามารถปรับราคาได้
"ไม่เข้าใจเหตุผลว่าทำไมผู้ค้ารายใหญ่ถึงไม่ปรับราคา ทั้งที่ราคาน้ำมันทุกวันนี้ต่ำกว่าต้นทุน จึงส่งผลให้ทั้งอุตสาหกรรมน้ำมันขาดทุนทั่วหน้า"
นายยอดพจน์ วงศ์รักมิตร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายการตลาดค้าปลีก บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ราคาน้ำมันตลาดโลกได้ปรับขึ้น 2-3 ดอลลาร์ต่อวัน แต่ก็ยังไม่มีการปรับราคาขายปลีกในประเทศ ทำให้บริษัทมีภาระขาดทุน 8-9 ล้านบาทต่อวัน จึงเห็นว่าในช่วง 1-2 วันนี้คงต้องมีการพิจารณาปรับราคาขายปลีกน้ำมัน ซึ่งการปรับครั้งนี้คงต้องปรับประมาณ 50 สตางค์ต่อลิตร เพื่อให้ครอบคลุมต้นทุนที่ปรับสูงขึ้น 7-8 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ทั้งนี้ ในวันที่ 18 ก.พ.นี้ ผู้ค้าน้ำมันทุกรายได้เตรียมประกาศปรับขึ้นราคาขายปลีกน้ำมันอีก 50 สตางค์ต่อลิตร หลังค่าการตลาดอยู่ในระดับติดลบ โดยได้รอให้ผู้ค้าน้ำมันรายใหญ่อย่าง ปตท. ประกาศแจ้งปรับขึ้นราคาก่อน แต่ปรากฏว่าในวันดังกล่าว ปตท.ไม่ยอมปรับขึ้นราคา ทำให้บริษัทเอกชนเดือดร้อนมาก