นายเหมืองเก่าภูเก็ต- ผู้ส่งออก งัดแลนด์แบงก์ผุดคอนโดฯ ประเดิมโครงการแรก"ดีไซน์ รัชดา" ขณะที่บริษัทที่ปรึกษาเผยผลสำรวจพบ 3 เดือนย่านรัชดาคอนโดฯเกิดใหม่ร่วม 20 โครงการ 6,500 ยูนิตเหลือขายเพียง 40% มั่นใจความต้องการมีอีกเพียบ
นายทวีเกียรติ นาโคศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฉัตรสิริ จำกัด และกงสุลกิตติมศักดิ์สาธารณรัฐกาบองประจำประเทศไทย เปิดเผยว่า เดิมตนได้ทำธุรกิจการค้าการส่งออกระหว่างประเทศ ตลอดเวลาที่ผ่านมาได้สะสมที่ดินในเขตกรุงเทพฯจำนวนหลายแปลง นอกจากนี้ยังมีที่ดินในจังหวัดภูเก็ตซึ่งเป็นบ้านเกิด อีก 4 -5 แปลงในย่านอ.บางเนียง, อ.บางสัก จึงได้เกิดแนวคิดที่จะนำมาพัฒนาเป็นอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย
ดังนั้นในปี 2550 ที่ผ่านมา จึงได้จดทะเบียนบริษัทด้วยทุนจดทะเบียน 40 ล้านบาท พัฒนาโครงการแรก "ดีไซน์ รัชดา" บนถนนรัชดาภิเษก ซ. 20 มิถุนา คอนโดมิเนียม 1 อาคาร สูง 8 ชั้น จำนวน 79 ยูนิต เน้นที่ความโปร่งโล่ง ให้พื้นที่ส่วนกลางถึง 40% ของพื้นที่ทั้งหมด ส่วนราคาช่วงจัดโปรโมชันถึงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์เริ่มต้น 43,165 บาท/ตารางเมตร(ตร.ม.) หลังจากนั้นจะปรับขึ้นเป็น 53,000 บาท/ตร.ม. มูลค่าขาย 250 ล้านบาท ใช้เงินลงทุนประมาณ 200 ล้านบาท โดยใช้เงินส่วนตัวในการลงทุนเป็นส่วนใหญ่
"การเข้ามาในธุรกิจอสังหาฯ ในช่วงที่ตกต่ำหรือชะลอตัวนับว่าเป็นเรื่องที่ยาก แต่ก็จะเป็นเครื่องพิสูจน์ความสามารถของเรา และการเข้ามาในช่วงนี้จะต้องพัฒนาโครงการขนาดเล็ก ไม่ใหญ่มาก เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจว่าโครงการจะดำเนินการจนแล้วเสร็จ"
ด้านนายปฎิมา จีระแพทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทคอลลิเออร์ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า บริษัทได้รับบริหารการขายโครงการดังกล่าว ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ทำการสำรวจโครงการคอนโดฯย่านถนนรัชดาภิเษกตั้งแต่สี่แยกอสมท-แยกลาดพร้าว ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา (พ.ย. 50- ม.ค. 51) พบว่ามีโครงการเปิดใหม่รวม 20 โครงการ จำนวน 6,500 ยูนิต มูลค่ารวมกว่า 10,000 ล้านบาท มีราคาขายตั้งแต่ 30,000-70,000 บาทต่อตร.ม.
ปัจจุบันพบว่า มีโครงการที่ปิดการขายไปแล้ว 3 โครงการจำนวน 1,340 ยูนิต ที่เหลือขายได้ตั้งแต่ 60% ขึ้นไป โดยจนถึงขณะนี้มีคอนโดฯในย่านดังกล่าวเหลือประมาณ 40% หรือ 2,800 ยูนิตเท่านั้น คาดว่าจะใช้เวลาขายไม่เกิน 1 ปี และจากการสำรวจความต้องการของประชากรในย่านนั้นยังมีอีกจำนวนมาก ประกอบกับมีแนวโน้มการเปิดอาคารสำนักงานในย่านนี้เพิ่มมากขึ้น อาทิ อาคารไซเบอร์เวิลด์ ทาวเวอร์และอาคารภาคิน หลังจากที่สำนักงานในเขตศูนย์กลางธุรกิจ(ซีบีดี)มีราคาเช่าสูง ทำให้เกิดการย้ายที่อยู่อาศัยเพื่อให้ใกล้แหล่งงาน
ดังนั้น การที่โครงการดีไซน์เปิดในช่วงนี้ก็น่าจะขายได้ ส่วนกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่ทำงานย่านดังกล่าวมีเงินเดือนไม่ต่ำกว่า 20,000-30,000 จะซื้อ อีกทั้งหากไม่ซื้ออยู่อาศัยก็จะซื้อเพื่อการลงทุนให้เช่าได้ โดยมีผลตอบแทนเบื้องต้น 5% อัตราค่าเช่าอยู่ที่ 8,000-15,000 บาทต่อเดือน
นายทวีเกียรติ กล่าวต่อว่า นอกจากพัฒนาโครงการแปลงดังกล่าวแล้ว ในปี 2552 ยังมีแผนที่จะนำที่ดินในย่านจรัญสนิทวงศ์ ขนาด 2 ไร่ พัฒนาเป็นคอนโดฯโลว์ไลท์ จำนวนกว่า 140 ยูนิต มูลค่าโครงการ 400-500 ล้านบาท และในช่วงปลายปี 52 จะนำที่ดินในย่านพหลโยธิน-สะพานใหม่ ขนาด 4 ไร่ มาพัฒนาเป็นคอนโดฯระดับราคา 1 ล้านบาทต้นๆ
ทั้งนี้ บริษัทเน้นการพัฒนาโครงการแนวสูงระดับกลาง-ล่าง แต่จะไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาท/ยูนิต โดยแบรนด์ระดับกลางจะให้ "ดีไซน์" ส่วนระดับล่างจะคิดแบรนด์ใหม่ขึ้น
"นอกจากที่ดินในเขตกรุงเทพฯ แล้ว ยังมีแผนพัฒนาที่ดินแลนด์แบงก์ในภูเก็ต อีกหลายแปลง เพราะครอบครัวเป็นเจ้าของเหมืองแร่เก่า โดยจะเป็นโครงการประเภท บ้านเดี่ยว, รีสอร์ท คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ในอีก 1 ปีครึ่งข้างหน้า ส่วนที่กาบองได้เปิดบริษัทรับเหมาก่อสร้างขนาดกลาง รับก่อสร้างให้แก่โครงการทั่วไป เพราะเป็นประเทศกำลังพัฒนา ต้องการเทคโนโลยี"นายทวีเกียรติกล่าว
นายทวีเกียรติ นาโคศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฉัตรสิริ จำกัด และกงสุลกิตติมศักดิ์สาธารณรัฐกาบองประจำประเทศไทย เปิดเผยว่า เดิมตนได้ทำธุรกิจการค้าการส่งออกระหว่างประเทศ ตลอดเวลาที่ผ่านมาได้สะสมที่ดินในเขตกรุงเทพฯจำนวนหลายแปลง นอกจากนี้ยังมีที่ดินในจังหวัดภูเก็ตซึ่งเป็นบ้านเกิด อีก 4 -5 แปลงในย่านอ.บางเนียง, อ.บางสัก จึงได้เกิดแนวคิดที่จะนำมาพัฒนาเป็นอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย
ดังนั้นในปี 2550 ที่ผ่านมา จึงได้จดทะเบียนบริษัทด้วยทุนจดทะเบียน 40 ล้านบาท พัฒนาโครงการแรก "ดีไซน์ รัชดา" บนถนนรัชดาภิเษก ซ. 20 มิถุนา คอนโดมิเนียม 1 อาคาร สูง 8 ชั้น จำนวน 79 ยูนิต เน้นที่ความโปร่งโล่ง ให้พื้นที่ส่วนกลางถึง 40% ของพื้นที่ทั้งหมด ส่วนราคาช่วงจัดโปรโมชันถึงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์เริ่มต้น 43,165 บาท/ตารางเมตร(ตร.ม.) หลังจากนั้นจะปรับขึ้นเป็น 53,000 บาท/ตร.ม. มูลค่าขาย 250 ล้านบาท ใช้เงินลงทุนประมาณ 200 ล้านบาท โดยใช้เงินส่วนตัวในการลงทุนเป็นส่วนใหญ่
"การเข้ามาในธุรกิจอสังหาฯ ในช่วงที่ตกต่ำหรือชะลอตัวนับว่าเป็นเรื่องที่ยาก แต่ก็จะเป็นเครื่องพิสูจน์ความสามารถของเรา และการเข้ามาในช่วงนี้จะต้องพัฒนาโครงการขนาดเล็ก ไม่ใหญ่มาก เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจว่าโครงการจะดำเนินการจนแล้วเสร็จ"
ด้านนายปฎิมา จีระแพทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทคอลลิเออร์ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า บริษัทได้รับบริหารการขายโครงการดังกล่าว ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ทำการสำรวจโครงการคอนโดฯย่านถนนรัชดาภิเษกตั้งแต่สี่แยกอสมท-แยกลาดพร้าว ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา (พ.ย. 50- ม.ค. 51) พบว่ามีโครงการเปิดใหม่รวม 20 โครงการ จำนวน 6,500 ยูนิต มูลค่ารวมกว่า 10,000 ล้านบาท มีราคาขายตั้งแต่ 30,000-70,000 บาทต่อตร.ม.
ปัจจุบันพบว่า มีโครงการที่ปิดการขายไปแล้ว 3 โครงการจำนวน 1,340 ยูนิต ที่เหลือขายได้ตั้งแต่ 60% ขึ้นไป โดยจนถึงขณะนี้มีคอนโดฯในย่านดังกล่าวเหลือประมาณ 40% หรือ 2,800 ยูนิตเท่านั้น คาดว่าจะใช้เวลาขายไม่เกิน 1 ปี และจากการสำรวจความต้องการของประชากรในย่านนั้นยังมีอีกจำนวนมาก ประกอบกับมีแนวโน้มการเปิดอาคารสำนักงานในย่านนี้เพิ่มมากขึ้น อาทิ อาคารไซเบอร์เวิลด์ ทาวเวอร์และอาคารภาคิน หลังจากที่สำนักงานในเขตศูนย์กลางธุรกิจ(ซีบีดี)มีราคาเช่าสูง ทำให้เกิดการย้ายที่อยู่อาศัยเพื่อให้ใกล้แหล่งงาน
ดังนั้น การที่โครงการดีไซน์เปิดในช่วงนี้ก็น่าจะขายได้ ส่วนกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่ทำงานย่านดังกล่าวมีเงินเดือนไม่ต่ำกว่า 20,000-30,000 จะซื้อ อีกทั้งหากไม่ซื้ออยู่อาศัยก็จะซื้อเพื่อการลงทุนให้เช่าได้ โดยมีผลตอบแทนเบื้องต้น 5% อัตราค่าเช่าอยู่ที่ 8,000-15,000 บาทต่อเดือน
นายทวีเกียรติ กล่าวต่อว่า นอกจากพัฒนาโครงการแปลงดังกล่าวแล้ว ในปี 2552 ยังมีแผนที่จะนำที่ดินในย่านจรัญสนิทวงศ์ ขนาด 2 ไร่ พัฒนาเป็นคอนโดฯโลว์ไลท์ จำนวนกว่า 140 ยูนิต มูลค่าโครงการ 400-500 ล้านบาท และในช่วงปลายปี 52 จะนำที่ดินในย่านพหลโยธิน-สะพานใหม่ ขนาด 4 ไร่ มาพัฒนาเป็นคอนโดฯระดับราคา 1 ล้านบาทต้นๆ
ทั้งนี้ บริษัทเน้นการพัฒนาโครงการแนวสูงระดับกลาง-ล่าง แต่จะไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาท/ยูนิต โดยแบรนด์ระดับกลางจะให้ "ดีไซน์" ส่วนระดับล่างจะคิดแบรนด์ใหม่ขึ้น
"นอกจากที่ดินในเขตกรุงเทพฯ แล้ว ยังมีแผนพัฒนาที่ดินแลนด์แบงก์ในภูเก็ต อีกหลายแปลง เพราะครอบครัวเป็นเจ้าของเหมืองแร่เก่า โดยจะเป็นโครงการประเภท บ้านเดี่ยว, รีสอร์ท คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ในอีก 1 ปีครึ่งข้างหน้า ส่วนที่กาบองได้เปิดบริษัทรับเหมาก่อสร้างขนาดกลาง รับก่อสร้างให้แก่โครงการทั่วไป เพราะเป็นประเทศกำลังพัฒนา ต้องการเทคโนโลยี"นายทวีเกียรติกล่าว
