ราคาหุ้น SECC พุ่งต่อเนื่อง รวมทั้งมีการซื้อขายแบบบิ๊กล็อต โดยพบว่าเป็นการขายออกมาของ "สมพงษ์ วิทยารักษ์สรรค์ " หลายล็อต ขณะที่ " ไพบูลย์ " ยันไม่ทราบเหตุราคาหุ้นพุ่ง และคาดว่าบิ๊กล็อตเป็นการซื้อขายหุ้นปกติของนักลงทุน
ความเคลื่อนไหวราคาหุ้นบริษัท เอส.อี.ซี. ออโต้เซลส์ แอนด์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน)หรือ SECC-W1 ปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงสุดของวานนี้ โดยปิดที่ 2.14 บาท เพิ่มขึ้น 0.87 บาท หรือ 68.50% และหุ้น SECC ปรับตัวสูงสุดเป็นอันดับ2 ปิด 3.76 บาท เพิ่มขึ้น 0.86 บาท หรือ 29.66% ขณะที่ในวานนี้มีการซื้อขายหลักทรัพย์บนกระดานรายใหญ่(บิ๊กล็อต) 4 รายการ จำนวน 47.69 ล้านหุ้น ราคาหุ้นเฉลี่ย 2.08 บาทต่อหุ้น มูลค่ารวม 99.21 ล้านบาท
ข้อมูลแบบรายงานการเปลี่ยนแปลงการถือหลักทรัพย์ของผู้บริหาร (แบบ 59-2) จากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) แจ้งว่า นายสมพงษ์ วิทยารักษ์สรรค์ ประธานกรรมการ บริษัท เอส.อี.ซี. ออโต้เซลส์ แอนด์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน)หรือ SECC ได้มีการขายหุ้นออกมาในเดือนกุมภาพันธ์นี้ รวมจำนวน 305,000 หุ้น มูลค่า 968,900 บาท ซึ่งวันที่ 4 กุมภาพันธ์ มีการขายออกมาจำนวน 2 รายการประกอบด้วย 50,000 หุ้น ราคาหุ้นละ 3.20 บาท มูลค่า 160,000 บาท และ 50,000 หุ้น ราคาหุ้นละ 3.24 บาท มูลค่า 162,000 บาท และเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ จำนวน 3 รายการ คือ จำนวน 1.5 แสนหุ้น ราคาหุ้นละ 3.14 บาท มูลค่า 471,000 บาท จำนวน 5,000 หุ้น ราคาหุ้นละ 3.18 บาท มูลค่า 15,900 บาท และ 50,000 หุ้น ราคาหุ้นละ 3.20 บาท มูลค่า 160,000 บาท
นายไพบูลย์ สุขสุธรรมวงศ์ กรรมการผู้จัดการ SECC เปิดเผยว่า จากที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)ได้ส่งหนังสือมายังบริษัทเพื่อให้บริษัทชี้แจงสาเหตุที่ราคาหุ้นของบริษัทปรับตัวเพิ่มสูงและบริษัทมีการดำเนินการอย่างไรบ้างที่จะส่งผลกระทบต่อราคาซื้อขายหุ้นของบริษัท เช่น การเพิ่มทุน จ่ายปันผลพิเศษนั้น บริษัทชี้แจงว่าบริษัทไม่ทราบสาเหตุที่ราคาหุ้นของบริษัทปรับตัวเพิ่มขึ้นจากปัจจัยใด และบริษัทก็ไม่ได้มีการพัฒนาการใดๆที่อาจมีผลกระทบกับราคาซื้อขายหุ้นของบริษัท
ทั้งนี้ การที่มีบิ๊กล็อตหุ้นของบริษัทนั้นก็ไม่ทราบว่ามาจากนักลงทุนกลุ่มใด ซึ่งไม่ได้มาจากกลุ่มผู้บริหารของบริษัทแน่นอน โดยคาดว่าบิ๊กล็อตที่เกิดขึ้นนั้นเป็นการซื้อขายหุ้นปกติของนักลงทุน
ความเคลื่อนไหวราคาหุ้นบริษัท เอส.อี.ซี. ออโต้เซลส์ แอนด์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน)หรือ SECC-W1 ปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงสุดของวานนี้ โดยปิดที่ 2.14 บาท เพิ่มขึ้น 0.87 บาท หรือ 68.50% และหุ้น SECC ปรับตัวสูงสุดเป็นอันดับ2 ปิด 3.76 บาท เพิ่มขึ้น 0.86 บาท หรือ 29.66% ขณะที่ในวานนี้มีการซื้อขายหลักทรัพย์บนกระดานรายใหญ่(บิ๊กล็อต) 4 รายการ จำนวน 47.69 ล้านหุ้น ราคาหุ้นเฉลี่ย 2.08 บาทต่อหุ้น มูลค่ารวม 99.21 ล้านบาท
ข้อมูลแบบรายงานการเปลี่ยนแปลงการถือหลักทรัพย์ของผู้บริหาร (แบบ 59-2) จากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) แจ้งว่า นายสมพงษ์ วิทยารักษ์สรรค์ ประธานกรรมการ บริษัท เอส.อี.ซี. ออโต้เซลส์ แอนด์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน)หรือ SECC ได้มีการขายหุ้นออกมาในเดือนกุมภาพันธ์นี้ รวมจำนวน 305,000 หุ้น มูลค่า 968,900 บาท ซึ่งวันที่ 4 กุมภาพันธ์ มีการขายออกมาจำนวน 2 รายการประกอบด้วย 50,000 หุ้น ราคาหุ้นละ 3.20 บาท มูลค่า 160,000 บาท และ 50,000 หุ้น ราคาหุ้นละ 3.24 บาท มูลค่า 162,000 บาท และเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ จำนวน 3 รายการ คือ จำนวน 1.5 แสนหุ้น ราคาหุ้นละ 3.14 บาท มูลค่า 471,000 บาท จำนวน 5,000 หุ้น ราคาหุ้นละ 3.18 บาท มูลค่า 15,900 บาท และ 50,000 หุ้น ราคาหุ้นละ 3.20 บาท มูลค่า 160,000 บาท
นายไพบูลย์ สุขสุธรรมวงศ์ กรรมการผู้จัดการ SECC เปิดเผยว่า จากที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)ได้ส่งหนังสือมายังบริษัทเพื่อให้บริษัทชี้แจงสาเหตุที่ราคาหุ้นของบริษัทปรับตัวเพิ่มสูงและบริษัทมีการดำเนินการอย่างไรบ้างที่จะส่งผลกระทบต่อราคาซื้อขายหุ้นของบริษัท เช่น การเพิ่มทุน จ่ายปันผลพิเศษนั้น บริษัทชี้แจงว่าบริษัทไม่ทราบสาเหตุที่ราคาหุ้นของบริษัทปรับตัวเพิ่มขึ้นจากปัจจัยใด และบริษัทก็ไม่ได้มีการพัฒนาการใดๆที่อาจมีผลกระทบกับราคาซื้อขายหุ้นของบริษัท
ทั้งนี้ การที่มีบิ๊กล็อตหุ้นของบริษัทนั้นก็ไม่ทราบว่ามาจากนักลงทุนกลุ่มใด ซึ่งไม่ได้มาจากกลุ่มผู้บริหารของบริษัทแน่นอน โดยคาดว่าบิ๊กล็อตที่เกิดขึ้นนั้นเป็นการซื้อขายหุ้นปกติของนักลงทุน