xs
xsm
sm
md
lg

พฤกษาลุยธุรกิจรับสร้างบ้าน พี.ดี.ฯ ชี้เพิ่มมืออาชีพไม่หวั่นถูกแย่งแชร์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พฤกษาเตรียมลุยธุรกิจรับสร้างบ้านในอีก 2-3 ปีข้างหน้า ด้าน"พี.ดี.เฮ้าส์” ชี้เพิ่มผู้เล่นมืออาชีพ ไม่หวั่นถูกแย่งเแชร์ตลาด พร้อมฟันธงปี 51 ตลาดรับสร้างบ้านยังหดตัว แจง 3ปัจจัยลบ เศรษฐกิจต้นปียังไม่ฟื้น ราคาวัสดุพุ่ง ดีมานด์ตลาดกทม.-ปริมณฑลชะลอตัว เชื่อต่างจังหวัดโตพร้อมเร่งเปิดเพิ่ม 2 สาขารับดีมานด์ต่างจังหวัดโต

นายสิทธิพร สุวรรณสุต ประธานกรรมการ บริษัท ปทุมดีไซน์ ดีเวลลอป จำกัด หรือ พีดีเฮ้าส์ เปิดเผยว่า จากการที่บริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่จะเข้ามารุกธุรกิจรับสร้างบ้านว่า ถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะจะยิ่งทำให้ได้รับความน่าเชื่อจากลูกค้ามากขึ้น เนื่องจากบริษัทอสังหาฯรายใหญ่ยังให้ความสำคัญกับตลาดรับสร้างบ้าน ที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง

“ เราไม่คิดว่า การที่บริษัทอสังหาฯรายใหญ่จะเข้าสู่ธุรกิจรับสร้างบ้าน จะทำให้บริษัทรับสร้างในตลาด ต้องรีบปรับตัว เพราะตลาดนี้ใหญ่ และเรื่องของความเชื่อมั่นเป็นสิ่งที่สำคัญ อย่างไรก็ตาม ตนคิดว่าเป็นเรื่องดี การเข้ามาของบริษัทอสังหาฯขนาดใหญ่ จะทำให้ตลาดมีการเติบโตมากขึ้น” นายสิทธิพร กล่าว

ด้านนายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการบริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ PS กล่าวว่า การเข้าสู่ธุรกิจรับสร้างบ้าน เป็นแผนในระยะ 2-3 ปีข้างหน้า เนื่องจากเป็นตลาดที่น่าสนใจ ขณะเดียวกัน การเข้าสู่ธุรกิจรับสร้างบ้าน จะช่วยเสริมฐานลูกค้าของPS ให้ครอบคลุมทุกด้าน ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีความแข็งแกร่งทางด้านแบรนด์ มีระบบการก่อสร้างสำเร็จรูปที่ทันสมัย มีเงินทุนที่พร้อม และฐานลูกค้าจำนวนมากที่สามารถรองรับสินค้าของบริษัทได้

นายสิทธิพร กล่าวต่อว่า ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมาการขยายตัวของตลาดรับสร้างบ้านตังลงอย่างต่อเนื่อง จากข้อมูลตลาดรับสร้างบ้านของศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ระบุว่าในปี 48 ยอดขายตลาดบ้านสร้างเองมีจำนวน 28,000 หน่วย ส่วนปี 49 มีจำนวน 26,000 หน่วย ในขณะที่ปี 50 เดือน ม.ค.-ต.ค.มีจำนวน 21,000 หน่วย ทั้งปีน่าจะมียอดกบ้านสร้างเองแค่ 23,000 หน่วย จะเห็นว่าอัตราการเติบโตของตลาดบ้านสร้างเองลดลงกว่า 20%

นายสิทธิพรกล่าวต่อว่า ในปีนี้เชื่อว่าตลาดรับสร้างบ้านจะมีอัตราการเติบโตไม่ถึง 10-15% ตามที่สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้านประมาณการไว้ เนื่องจากไตรมาสแรกปี 51 เศรษฐกิจโดยรวมยังไม่มีสัญญาณการฟื้นตัว ซึ่งน่าจะฟื้นตัวในช่วงไตรมาส 2-3 ขณะเดียวกันราคาวัสดุก่อสร้างยังปรับขึ้นอย่างรวดเร็ว อีกทั้งผู้ประกอบการรับสร้างบ้านในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลมีจำนวนเพิ่มขึ้น ปัจจุบันมีกว่า 200 ราย ในขณะที่ความต้องการลดลงซึ่งทำให้การแข่งขันรุ่นแรงเพิ่มขึ้น

ส่วนตลาดต่างจังหวัด มีผู้ประกอบการน้อยราย ตลาดมีแนวโน้มว่าจะขยายตัวเพิ่มขึ้น จากนโยบายรัฐบาลที่ส่งเสริมสินค้าการเกษตร จะทำให้ราคาดี ส่งผลให้ผู้บริโภคในต่างจังหวัดมีกำลังซื้อเพิ่มและจะทำให้มีความต้องการสร้างบ้านเพิ่มตามไปด้วย จากแนวโน้มดังกล่าวบริษัทจึง หันไปเน้นตลาดต่างจังหวัดเพิ่มขึ้น โดยในปีนี้จะเปิดสาขาใหม่เพิ่มอีก 2 สาขา ประจวบคีรีขันธ์ และพิษณุโลก จากเดิมมี 4 สาขาตามแผนระยะยาว 5 ปีตั้งเป้าเปิดสาขาต่างจังหวัด 10 สาขา

นอกจากนี้บริษัทเตรียมงบประมาณ 10 ล้านบาท ในการสร้างการรับรู้ และส่งเสริมการตลาด โดยจะร่วมกับพันธ์มิตร เช่น สถาบันการเงิน ร้านค้าวัสดุก่อสร้าง ฯลฯ ในการจัดสัมมนาอบรมความรู้ให้แก่ช่างฝีมือ และยังมีแผนจะส่งแบบบ้านกว่า 40 แบบใหม่ เข้าโครงการบ้านติดสลาก ของกระทรวงพลังงาน และตั้งเป้ากำไรปีนี้ 30 ล้านบาท
ส่วนยอดขายจากสาขาต่างจังหวัดตั้งเป้าเพิ่มขึ้นสาขาละ 50 ล้านบาท ทำให้ในปีนี้สัดส่วนยอดขายต่างจังหวัด 80% กทม.20%
กำลังโหลดความคิดเห็น